“ถอดเดี๋ยวนี้” มัชฌิมาสั่งเสียงเฉียบ “ไม่ต้องทำน้ำตาคลอเลย ถอดมาให้พวกฉันก่อน”
“มะ…ไม่เอานะ”
“ปอๆ อย่ากดดันยายแอ๊นท์นักเลยน่า” จีรดาไกล่เกลี่ย “ให้ยายแอ๊นท์ใส่นิ้วอื่นก็ได้ แอ๊นท์ใส่นิ้วอื่นได้ไหมล่ะ”
“ก็ได้นะ”
“เอางั้นก็ได้ แต่ไม่มีข้อแม้อีกแล้วนะ เรื่องไอ้แมนน่ะตอนนี้แกมีหน้าที่ต้องปล่อยเบลอ” มัชฌิมาสั่งเสียงเข้ม กอดอกประมาณว่าถ้ายังเรื่องมากอีกก็ลุกไปตบกันเลยดีกว่า
เมื่อรู้ว่าต่อรองไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว อาริสาจึงได้แต่ถอนใจ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะอยากแก้แค้นแทนเพื่อนจ้างให้เธอก็ไม่ทำหรอก เธอไม่ใช่ผู้หญิงหลายใจสนุกกับการปั่นหัวผู้ชายซะหน่อย
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” อาริสาละล่ำละลักขอโทษคนตรงหน้าหลังจากที่ทำน้ำหกใส่ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มด้วยมาดที่ใสซื่ออย่างที่สุด ขุดฟีลลิ่งการแสดงของนางเอกเก่า ลืมเล่าไปใช่ไหมล่ะ สมัยเรียนอยู่คณะอักษรศาสตร์น่ะเธอจบโทการแสดง
“ไม่เป็นไรครับ เปรอะนิดเดียวเท่านั้น” คนตรงหน้าพูดเสียงนุ่มหลังจากที่มองเธออย่างตกตะลึง ก็แหม…ไอ้ชุดกีฬาที่ยายเพื่อนสองคนเลือกให้มันรัดสุดๆ ไปเลยนี่ แถมตรงเอวก็เว้าให้เห็นเนื้อนวลซะด้วย อีกนิดก็จะเป็นชุดว่ายน้ำอยู่แล้ว
“เอ๊ะ! นี่คุณเพิ่งมาเล่นที่นี่หรือเปล่าครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าคุณเลย” นายภิมุขเปิดบทสนทนาก่อน
โธ่เอ๊ย! ตาขี้หลี ไม่รู้ยายพิมไปชอบได้ไง ไอ้พวกอ้าปากก็เห็นลำไส้เล็ก!
“พอดีแอ๊นท์เพิ่งจะมาเล่นครั้งแรกน่ะค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เธอโปรยยิ้มหยาดเยิ้มให้ชายหนุ่ม ทำเป็นไม่สนใจเขา เดินออกมาอย่างมั่นใจด้วยมาดนางพญาสุดแสนเซ็กซี่ ฮือ…ขอโทษนะแมน นี่จะเป็นการยิ้มให้ชายหนุ่มคนอื่นนอกจากคุณครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของแอ๊นท์
เปาะแปะๆๆ
จีรดาปรบมือให้การแสดงเปิดฉากของเพื่อนรักด้วยความทึ่ง ปากก็ถามเพื่อนอีกคนที่ยืนกอดอกลุ้นดูอยู่ด้วยกันข้างๆ
“ยอดไปเลย แกเห็นตอนที่ยายแอ๊นท์เดินออกไปหรือเปล่า”
“ฝีมือใช้ได้ ฉันว่างานนี้มีลุ้นแน่” มัชฌิมาเองก็มั่นใจขึ้นมาอีกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ “จริงสิ ว่าแต่แกไปเห็นสะดือของนายภิมุขตอนไหนถึงได้รู้ว่าสะดือจุ่น”
จีรดายักไหล่ตามความเคยชิน “ไม่เคยเห็นหรอก”
“อย่ามาตอนะ”
“สาบานเลยย่ะ อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ ไม่เคยเห็นจริงๆ แต่ฉันเห็นหน้ายายแอ๊นท์ตอนตะลึงกับความหล่อของนายภิมุขก็เลยพูดส่งๆ ไปน่ะ แกก็รู้นี่ว่ายายนั่นไม่ชอบผู้ชายสะดือจุ่น”
“ฉลาด” มัชฌิมาตบไหล่เพื่อนรักที่ฉลาดในการแก้ปัญหา
“แน่นอน ฉันจบหมอนะ ขอบใจ”