อีกด้านหนึ่ง
ผู้หญิงที่เดินผ่านหน้าเขาไปอย่างไม่ไยดี ยามเธอเดินจากไป เธอทิ้งไว้เพียงแค่กลิ่นหอมจากเส้นผมสีโค้กที่ซอยระลำคอขาวเนียน ปลายจมูกของเขายังรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมพิเศษนั้น สะดุดใจเขาอย่างน่าประหลาด หนุ่มโสดที่ไม่สดยิ้มออกมาระหว่างที่มองตามร่างบาง น่าเล่นด้วยอยู่นะ ชื่อแอ๊นท์…แอ๊นท์อย่างนั้นเหรอ
กว่าจะรู้ตัวว่าการโปรยเสน่ห์แบบยั่วๆ นั้นได้ผลเวลาก็ผ่านมาเกือบห้าวันแล้ว เพื่อนของเธอวางแผนให้อาริสาแวะมาที่สปอร์ตคลับแห่งนี้อาทิตย์ละห้าวัน แล้วก็เป็นห้าวันที่ไม่ได้พบกับภิมุขทุกครั้ง ประหนึ่งว่าที่เธอมาก็เพื่อใช้บริการห้องออกกำลังกายเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่ออ่อยเขาแต่อย่างใด
ใช่ไหมล่ะ คนเราจะอ่อยทั้งทีก็ต้องมีเล่ห์เหลี่ยมกันหน่อย
อาริสานั่งมองร่างสูงที่คล้ายกำลังคอยใครอยู่ที่หน้าทางเข้า แพขนตาของเธอหรี่ลง มุมปากก็กระดกขึ้นอย่างถูกใจ
‘ข่าวดีนะพวกแก ปลาใกล้จะฮุบเหยื่อแล้ว’
อาริสารีบส่งข้อความไปรายงานผลความคืบหน้า จากนั้นก็นั่งยิ้มกริ่มต่อในรถ
สี่วันที่แล้วมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ตอนนั้นเธอกำลังตีสควอชอยู่ในห้อง แล้วจู่ๆ ก็เกิดล้มจนเจ็บข้อเท้า ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเงาหนึ่งก็ปราดเข้ามา ตอนที่เงยหน้าขึ้นสบตากัน อาริสาก็พบว่าเขาคือภิมุข ภูเบศอรรถพงศ์
วันนั้นเขาดูแลเธอด้วยความสุภาพ ท่าทางเป็นสุภาพบุรุษที่แม้แต่จะแตะข้อเท้าเธอนั้นก็ยังต้องขออนุญาต ทำเอาอาริสาถึงกับเคลิ้ม แผนทรมานสังขารในที่สุดก็ได้ผล เจ็บข้อเท้านิดหน่อยแต่ก็นับว่าคุ้ม ไม่ต้องเสียเวลาทอดสะพานเพิ่มอีก
เขาเสนอตัวพาเธอไปโรงพยาบาล ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปก็คงรีบฉวยโอกาสนี้สานสัมพันธ์กับเขา ทว่ามัชฌิมากับจีรดาสั่งแล้วสั่งอีกห้ามเธอใจร้อน สมองน้อยๆ ของคุณเจ้าของร้านกาแฟอย่างเธอก็เลยเลือกที่จะปฏิเสธ ปรับแผนทรมานสังขารให้กลายเป็นกลยุทธ์ถอยเพื่อรุกขึ้นมาทันควัน
ซึ่งก็ได้ผล
พอส่งข้อความไปรายงานเพื่อนเรียบร้อยเธอก็นั่งมองเขาอยู่ในรถอีกหน่อย วันนี้ภิมุขมาถึงสปอร์ตคลับเร็วกว่าปกติ อืม…เร็วกว่าตั้งเกือบสองชั่วโมงแน่ะ
“ใจผู้ชายก็แบบนี้ล่ะนะ” อาริสาสรุป ประสบการณ์การอ้อนของปกรณ์ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายส่วนมากน่ะเวลาอยากได้อะไรก็จะต้องเอามาให้จงได้นั่นแล ผู้ชายน่ะมีสัญชาตญาณนักล่าฝังอยู่ในกระดูก
เธอไม่รู้หรอกว่าข้อสันนิษฐานของเธอนั้นถูกต้องมากแค่ไหน นี่หากอาริสารู้ว่าภิมุขถึงขนาดยอมยกเลิกนัดกับคู่ควงคนใหม่ซึ่งเป็นนางแบบสาวที่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน เธอคงภูมิใจมากกว่านี้ เอาไปคุยโวกับเพื่อนได้อีกหลายวัน
ด้านภิมุขนั้นหลังจากยืนกระวนกระวายอยู่นาน ชายหนุ่มก็เริ่มหันมายิ้มขัน เขารู้ตัวดีว่าเวลานี้อาการตนเองช่างเหมือนวัยรุ่นที่เพิ่งริมีความรัก เรื่องแบบนี้ไม่เกิดกับเขามานานมากแล้ว
หญิงสาวที่มีกลิ่นผมหอมคนนั้นน่ารักมาก ตัวเล็ก ผิวขาว หน้าตาเหมือนตุ๊กตาตาแป๋ว ตอนที่เจ้าหล่อนหกล้มแล้วเขารีบเข้าไปดู ดวงตาสีดำสนิทกลมโตเหมือนลูกเกาลัดนั้นคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำตาใสๆ ภิมุขไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเขาจะเกิดอาการแพ้น้ำตาผู้หญิง ทว่านาทีนั้นหัวใจด้านชาของเขาเหมือนถูกปลายเล็บมนของเธอข่วนเอาๆ จากไม่เคยคิดว่าหัวใจตนนั้นมีความรู้สึก บัดนั้นมันก็เกิดรู้สึกรู้สาขึ้นมาจนได้ นั่นทำให้เขาสามารถปฏิเสธคำชวนของนางแบบสาวที่เพิ่งควงกันได้ไม่กี่วันอย่างไม่เสียดายเพื่อจะมาดักรอผู้หญิงที่เขาพบในสปอร์ตคลับ…ผู้หญิงน่ารักที่ชื่อแอ๊นท์
ชายหนุ่มเหลือบดูนาฬิกาข้อมือราคาแพง
เขายอมเสียเวลาอันมีค่าของตนเองร่วมสองชั่วโมง เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า บางทีวันนี้เธออาจไม่มา ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ สมเพชตนเองเอามากๆ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เห็นทีต้องระวังเอาไว้บ้างแล้ว
“อ้าว คุณภิมุขจะกลับแล้วเหรอคะ”