และอย่างไม่คาดคิด อาหารที่คนตรงหน้าสั่งมาถูกเธอกวาดซะเรียบวุธด้วยความลืมตัว อาจจะเพราะรสชาติอาหารที่ถูกปากหรือไม่ก็เป็นเพราะบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจ ทว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวของเธอหรอกนะ กว่าจะนึกได้ว่าเธอลืมกฎข้อแรกของสาวเซ็กซี่ เนื้อปลาแซลมอนในปากก็เกือบติดคอ!
‘จำไว้นะแอ๊นท์ กฎของสาวสวยแนวยายพิมน่ะ’ เสียงของเพื่อนเธอดังเบาๆ ในสมอง ‘ผู้หญิงสวยสปีชี่ส์เซ็กซี่ มาดผู้ดีมันต้องทานน้อยๆ ห้ามแกแปลงร่างเป็นปอบบวกกระสือหิวอย่างที่แกเป็นอยู่บ่อยๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็…ถึงแกจะน่ารักแค่ไหน ผู้ชายอย่างคุณภิมุขไม่แคล้วถอยห่างแกแน่’
คิดมาถึงตรงนี้น้ำแกงสามรสปลาทะเลก็ดูเหมือนจะฝืดคอ มือบางวางช้อนลงก่อนจะช้อนสายตามองคนที่นั่งตรงข้ามด้วยอารมณ์ที่แย่สนิท
จู่ๆ คู่ทานอาหารเย็นของเขาก็ทำท่าเหมือนเด็กนักเรียนทำผิดมหันต์ ใช้ตากลมๆ สุกสกาวช้อนมองเขาแล้วเม้มริมฝีปากเหมือนว่าจะร้องไห้
“คุณแอ๊นท์เป็นอะไรหรือเปล่าครับ มีอะไรไม่ถูกใจ”
“คือ…” คนน่ารักส่ายหน้าจนแก้มกลมสะท้อนดวงไฟ วาววับเสียจนภิมุขอยากเอื้อมมือไปหยิกเบาๆ ว่าจะนุ่มสักแค่ไหนสักทีสองที
ในทางตรงกันข้าม อาริสากลับคิดว่าที่เขามองเธอเงียบๆ นั้นคงเพราะกำลังอึ้งกับความตะกละของเธอแน่ๆ แงๆๆๆ หวังว่าตาปลาน้อยนี่คงจะไม่ทิ้งเธอง่ายๆ เพียงเพราะเธอกินไม่บันยะบันยังจนพุงป่องแบบนี้หรอกใช่ไหม
เธอเงียบ เขาเองก็เงียบ สักพักชายหนุ่มก็ยิ้มอ่อน ถามเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มว่า
“รับของหวานไหมครับ ทับทิมกรอบที่นี่ขึ้นชื่อทีเดียว”
อาริสาเกือบทิ้งตัวลงพิงพนักอย่างอ่อนแรง เขาคงเห็นเธอเป็นผู้หญิงสายตะกละไปแล้วแน่ๆ เอะอะอ้าปากก็พูดถึงแต่เรื่องกิน!
ไม่ได้การล่ะ เธอต้องรีบแก้ไขสถานการณ์
“คงไม่ล่ะค่ะ แค่นี้ก็อิ่มมากอยู่แล้ว ขืนทานมากกว่านี้ท้องแตกแน่ๆ” อาริสาฝืนยิ้มทั้งที่จริงแล้วก็ออกจะเสียดายคำชวน
“ลองสักหน่อยเถอะครับ ของที่นี่เขาอร่อยมาก แบ่งกับผมคนละครึ่งก็ได้” นายภิมุขคะยั้นคะยอ
อ่า…จะดีเหรอ จิตใจของเธอสับสนจัง