บทที่ 5
“ยายแอ๊นท์ตื่นได้แล้ว”
โอย…ใครนะบังอาจมาปลุก คนยิ่งกำลังฝันดีอยู่ด้วย
“ตื่นได้แล้วย่ะ ตื่น ตื่น ตื๊น”
“ยายจิ๊บ นี่ไม่ใช่เวลาตื่นของฉันนะ!” ปากก็พูดแต่ตายังหลับอยู่เลย โอ้…กุลสตรีไทย
“เจ็ดโมงแล้ว แกต้องตื่น ตื๊น ตื่น” คนที่เข้ามาปลุกตอบเสียงใสขณะที่มือก็ดึงผ้าห่มที่เธอคลุมโปงอยู่อย่างไม่หยุดหย่อน
“เจ็ดโมง! ยายบ้า…นี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ แล้วเมื่อคืนฉันก็นอนดึกด้วย แกรู้ไหมกว่านายภิมุขเขาจะยอมล่าถอยไปได้ฉันต้องเปลืองน้ำลายตั้งหลายปี๊บ แถมกลับมาก็ต้องมานั่งทำบัญชีร้านอีก หมู่นี้ฉันเฝ้าร้านน้อยมาก เกิดลูกจ้างในร้านโกงฉันขึ้นมา ร้านเจ๊ง แม่ด่าฉันตาย” คนขี้เซาพูดเสียงงัวเงียใต้โปงผ้าห่ม
“แต่วันนี้เรามีงานต้องทำนะ แกลืมรึไงยะว่าเราจะไปสืบเรื่องของนายภิมุขกันน่ะ หรือว่าแกอยากจะให้แผนของเราต้องใช้เวลามากขึ้น” สิ้นคำขู่ของคนปลุก หญิงสาวก็สะบัดผ้าห่มผืนหนาอันอุ่นสบายทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนกระโจนพรวดเดียวถึงประตูห้องน้ำ
“ขอสิบห้านาที” เธอตะโกนบอกพร้อมเสียงน้ำที่รดลงมาจากฝักบัว
“นายภิมุขจะมาถึงที่ทำงานตอนแปดโมงครึ่ง เลิกงานตอนสี่โมงเย็น แล้วก็จะไปสปอร์ตคลับซึ่งพวกเราก็รู้อยู่แล้ว แต่ตอนกลางวันนี่สิ เราไม่รู้ว่านายคนนี้มีพฤติกรรมอะไรบ้าง หรือว่ามีสาวๆ น่ารักเซ็กซี่แวะเวียนมาเป็นคู่แข่งของยายแอ๊นท์บ้างไหม เพราะถ้าเราอยากให้นายภิมุขรู้รสของการถูกทิ้ง นายภิมุขก็จะต้องไม่เหลือใครเลย” มัชฌิมาพูดอย่างเด็ดขาดและรอบคอบขณะที่รื้อกล้องส่องทางไกลออกมาจากกระเป๋าหนัง
“มันไม่มากไปเหรอ จะเล่นงานจนไม่เหลืออะไรเลยแบบนี้ น่าสงสารนะ” อาริสาแย้งเสียงอ่อยพลางกลืนน้ำลายด้วยความเสียวสันหลังแทนหลังจากฟังจบ
“ไม่มากไปหรอก ดีซะอีกจะได้เข็ดไปเลยไง เบื่อจริงๆ ไอ้พวกผู้ชายเจ้าชู้” จีรดาว่าอย่างหมั่นไส้ขณะคว้ากล้องส่องทางไกลที่มัชฌิมายื่นให้ จากนั้นก็ลองส่องดูไปรอบๆ “อุ๊แม่เจ้า!”
“อะไร” เธอกับเพื่อนสนิทอีกคนพลอยขยับตัวตามไปด้วยอย่างใคร่รู้
“นั่น…นั่น…ผู้ชายคนนั้น” จีรดาพยายามปรับโฟกัส
“คนไหน พวกฉันมองไม่เห็น”
“ที่หนึ่งนาฬิกา”
“หนึ่ง…หนึ่งอะไรนะ”
“หนึ่งนาฬิกาไงยายบื้อ”
อะ…อ่อ
เธอสองคนหันไปมองตามที่จีรดาบอก แต่ระยะที่พวกเธออยู่นั้นไกลจากอาคารออฟฟิศของลูกปลาน้อยภิมุขมากจนเห็นแค่ว่าเป็นคน ทว่าไม่รู้ว่าเป็นใคร
“เอากล้องมาให้พวกฉันซิ” มัชฌิมาขอ
“เดี๋ยวก่อน ขอดูให้กระชุ่มกระชวยอีกนิดน่า”
“อะไรของแกเนี่ย นี่อย่าบอกนะว่าหลงนายภิมุขอีกคน”
“โอ๋ย ไม่ใช่” จีรดาสูดน้ำลาย เจ้าตัวโวยวายกรี๊ดกร๊าด ใช้กล้องส่องทางไกลไม่ยอมวางมือ “ใส่ชุดทหารด้วย…เหล่าไหนนะ…ว้าย ตายจริง ทหารบกด้วย…กรี๊ดๆๆๆ”
เสียงกรีดร้องของจีรดาทำเอาเพื่อนที่เหลืออีกสองคนต้องเอานิ้วอุดหู ยืนหันมามองหน้ากันอย่างเข้าใจในสถานการณ์