“แอ๊นท์ก็มีนะคะ หลุมหลบภัยน่ะ”
“ที่ไหนเหรอครับ”
“วันนี้คุณภิมุขก็ได้เข้าไปค่ะ”
“ร้านกาแฟเหรอครับ”
“ค่ะ” เธอพยักหน้า ปล่อยให้สายลมจากแม่น้ำพัดปะทะใบหน้า ลมร้อนๆ อุ่นๆ แต่เย็นสบาย “แอ๊นท์ชอบทำในสิ่งที่รัก บางคนก็บอกว่าทำไปทำไม เหนื่อยก็เหนื่อย คู่แข่งก็เยอะ ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา แต่แอ๊นท์ชอบนี่คะ ถ้าเจออุปสรรคก็ต้องสู้แหละ”
“คุณแอ๊นท์ตอนเป็นบาริสต้ามีเสน่ห์มากเลยนะครับ ผมเองเผลอมองยังละสายตาไม่ได้เลย”
“คุณภิมุขอยากเป็นบาริสต้าบ้างไหมล่ะคะ แอ๊นท์สอนให้ได้นะ”
“ผมอยากเป็นอย่างอื่นมากกว่าครับ” เขาเอียงหน้ามากระซิบ “อยากเป็นแฟนบาริสต้าที่สุดในตอนนี้”
“โอ๊ะตายจริงเชียว! แอ๊นท์ลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องกลับบ้านเร็ว”
เธอลุกจากเก้าอี้ พยายามปรับสีหน้าไม่ให้กระอักกระอ่วน ขณะที่คนตัวสูงมิได้พูดอะไรนอกจากมองเธอด้วยแววตาอ่อนละมุน
“งั้นผมไปส่งนะครับ”
“ส่งที่ร้านแอ๊นท์เถอะค่ะ รถแอ๊นท์จอดไว้ที่โน่น”
“ได้ครับ”
โล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ได้คาดคั้นให้ต้องตอบรับอะไร อาริสานึกขอบคุณและขอโทษภิมุขในใจ แผนการร้ายๆ ของเธอเดินมาจนถึงจุดที่อิ่มตัวแล้ว
“น้องครับ”
อาริสามองไปตามเสียงเรียกของเขา ไม่ไกลสักเท่าไหร่มีเด็กหญิงวัยไม่ถึงสิบปียืนถือถาดพวงมาลัยมองสบตาเขาอย่างตื่นๆ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” อาริสาหันไปถามเขา
“อยากได้มาลัยดอกไม้ไหมครับ”
“เอ๋?”
“น้องครับ พวงมาลัยทั้งหมดนี่เท่าไหร่”
พอรู้ว่าจะขายของได้ เด็กหญิงก็เลยรีบวิ่งมา
“พวงละสิบบาท ทั้งหมดเจ็ดสิบบาทค่ะ” เด็กหญิงแม่ค้าพวงมาลัยตอบ
“งั้นเหมาหมดเลย” ภิมุขยื่นธนบัตรสีแดงให้ เขารอแม่ค้าตัวน้อยหยิบพวงมาลัยสดทั้งหมดใส่ถุง “รีบกลับบ้านได้แล้วนะ ดึกมากแล้ว”
“ค่ะ คุณผู้ชาย”
เด็กหญิงเดินจากไปพร้อมกับถาดเปล่าและเงินที่สอดไว้ในกระเป๋า ภิมุขส่งมาลัยดอกไม้ทั้งหมดให้เธอ ก่อนจะหันมาจูงมือเธอเดินตรงไปที่รถเงียบๆ
“ผมรีบร้อนไปเอง นี่เป็นความผิดของผม ผมไม่อยากให้คุณแอ๊นท์อึดอัดใจ อย่าคิดมากเลยนะครับ”
ถ้าเป็นปกรณ์ ปกรณ์จะทำแบบนี้หรือเปล่า จะขอโทษที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเขาเร่งรัด จะอ่อนโยนและยอมให้เวลาเธอคิดใคร่ครวญเหมือนอย่างที่ภิมุขยอมให้เธอไหม
อาริสาก้าวไปนั่งในรถแล้วก็ครุ่นคิดเรื่องนี้ พอหันไปมองชายหนุ่มที่ทำหน้าที่เป็นสารถี ใจเธอก็โยกคลอน
การสนทนาของเขากับเด็กหญิงขายพวงมาลัยได้ทำลายภาพของเขาที่เธอคิดและรับรู้จนเกือบทั้งหมด พอๆ กับการสารภาพรักของเขาที่กล่าวอ้อมแต่กลับขอโทษอย่างตรงไปตรงมา
เป็นไปได้เหรอที่คนนิสัยแบบนี้จะทำร้ายเพื่อนเธอได้สาหัสขนาดนี้ บางทีพวกเธอทั้งสามคนอาจจะเข้าใจเขาผิดไปเองก็ได้
ละอายใจ? เกลียดตัวเอง? เธอก็ตอบไม่ได้ แต่หากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้เป็นสิ่งที่เขาจงใจสร้าง ผู้ชายคนนี้ก็น่ากลัวจนไม่สมควรได้รับการให้อภัย
แต่เธอเชื่อในสิ่งที่คิดแบบนี้เหรอ
อาริสาไม่อยากยอมรับเลย
เธอไม่เชื่อหรอก ตลอดวันนี้ทั้งวัน ภิมุขเปิดเผยตัวตนจริงๆ กับเธอ
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 5 ธ.ค. 64 เวลา 12.00 น.