บทที่ 7
ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนเอาแต่นอนคิดมาก ทำเอาลืมเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตไปเสียสนิท!
“แอ๊นท์ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์แมนเลยล่ะ รีบโทรกลับหาแมนด่วนเลยนะ”
นี่แค่น้ำจิ้มนะ เพราะตอนที่เปิดโทรศัพท์มาน่ะ ทั้งสายเรียกเข้า ทั้งข้อความเสียง ทั้งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นสีเขียวเด้งขึ้นมาเป็นร้อยๆ
อาริสายกมือขึ้นคลึงกระบอกตา เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำเห็นหน้าตัวเองแล้วยังตกใจเลย ขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า สงสัยจะเป็นผลกรรมที่เธอทำไว้กับภิมุขย้อนกลับมาสนองแค้นเธอคืน
“แอ๊นท์! ไปไหนน่ะ ที่เมืองไทยมันห้าทุ่มแล้วไม่ใช่เหรอ บอกแล้วไงว่าอย่าไปเที่ยวกลางคืน โทรกลับหาแมนด้วยนะ”
“แอ๊นท์ นี่แมนโมโหแล้วนะ ทำไมปิดเครื่องล่ะ ไม่คิดถึงแมนแล้วใช่ไหม!” คราวนี้เสียงห้าวห้วนที่เธอคุ้นเคยพูดอย่างไม่สบอารมณ์ มันดังจนแทบจะฝังตัวลงบนกระดูกเธอเลยทีเดียว
“แอ๊นท์ แมนจะบินกลับแล้วนะ โธ่โว้ย งานแทนที่จะเสร็จตามกำหนด พายุดันเข้ามาอีก เลื่อนกองถ่ายมาหลายอาทิตย์แล้ว แมนคิดถึงแอ๊นท์ใจจะขาด”
“แอ๊นท์บินมาหาแมนหน่อย จะไปดูแลร้านอะไรมากมาย แมนเลี้ยงแอ๊นท์ได้ หาตั๋วบินมาเลยนะ”
“แอ๊นท์ครับ แอ๊นท์ แมนคิดถึงนะ ตอบแมนสักทีสิ ได้ยินข้อความนี้ของแมนหรือเปล่า”
“นอกใจเหรอ มีคนใหม่ใช่ไหม แอ๊นท์ทำกับแมนแบบนี้ได้ยังไง เรารักกันมากมาก่อนนะแอ๊นท์”
ไม่ว่าจะกี่ข้อความที่เปิดฟังก็มีแต่ประโยคร้อนเป็นไฟจากปกรณ์ พอมาถึงข้อความนี้ อาริสาก็ตัดสินใจปิดเครื่อง เธอทิ้งศีรษะพิงกับโซฟา สายตาก็เอาแต่หยุดอยู่ที่ถุงพวงมาลัย
ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมผู้หญิงทั้งหลายที่หลงรักเขานั้นถึงยอมมอบทั้งตัวและใจให้ ผู้ชายที่มีแต่บรรยากาศความสบายใจล้อมรอบตัวน่ะ ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ทั้งนั้น
เธอถอนหายใจ ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าผู้หญิงทั้งหมดที่มีนายภิมุขก้าวเข้าไปในชีวิตน่ะรู้สึกอย่างไร ตัวเธอเองบัดนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รู้ดี
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวย ไม่นานเลย…ไม่นานจริงๆ ท้ายที่สุดปราการในใจเธอก็แตกสลาย นายคนนี้เป็นผู้ชนะ สามารถทำให้เธอรู้ถึงความเป็นสุภาพบุรุษ ความโรแมนติก และการเป็นบ้านหลังน้อยให้เธอได้พักพิง ไม่ร้อนเป็นไฟแบบคู่หมั้นของเธอ
อาริสากลัดกลุ้ม เธอปล่อยตัวเองนอนหมดแรงอยู่ที่โซฟานานแค่ไหนก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่สาวใช้ของเธอขออนุญาตเข้ามาทำความสะอาด
อาริสาโผเผลุกขึ้นยืน เธอก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องเอาไว้ จัดการเปิดเครื่องให้มันทำงาน บัดนี้ปรากฏสัญลักษณ์ต่างๆ มากมาย