บทที่ 8
“ฉันอยากเลิก” หญิงสาวตัดสินใจพูดขึ้นทันทีที่เพื่อนทั้งสองมาถึงกันพร้อมหน้า
“เหตุผล?” มัชฌิมารีบถาม “ถ้าเหตุผลเพราะแกงอแง ฉันกับไอ้จิ๊บไม่อนุมัตินะ บอกไว้ก่อน”
“ใช่ เพราะถ้าแกไม่มีเหตุผลดีๆ ล่ะก็…หยุดคิดถึงมันได้เลย” จีรดาเองก็เสียงเครียดเช่นกัน แต่ไม่ใช่เพื่อปฏิบัติการลับหักอกภิมุขอะไรทั้งนั้น รายนี้น่าจะเป็นเพราะเจ้าหล่อนกำลังคั่วอยู่กับญาติของภิมุขเลยไม่อยากมีผลกระทบไปด้วยมากกว่า
“คือฉัน…เอ่อ คือว่า คือ…”
“คืออะไรล่ะ” จีรดาชะโงกหน้าเข้ามาจนชิด “ว่าไง ไหนบอกเหตุผลแกซิ”
“ฉัน คือเอ่อ…คือแบบว่าเอ่อ…” เธออึกอักลังเล ขณะที่เพื่อนทั้งสองคนต่างสบตากันอย่างไม่เข้าใจ
“พูดมาสิ” มัชฌิมาทนไม่ไหว “ถ้ายังอ้ำอึ้งแบบนี้พวกฉันจะไม่ฟังแล้ว”
“คือฉันสงสารเขาน่ะ”
“Pardon?” มัชฌิมามองเธอเหมือนเห็นตัวประหลาด “แกคิดอะไรอยู่เนี่ยยายแอ๊นท์”
“เออ แกคิดอะไรของแก จู่ๆ ก็มาบอกสงสารนายภิมุขเนี่ยนะ” จีรดาเองก็ขำ “ทำมาตั้งนาน แกไม่อยากเป็นคนดีพิทักษ์หัวใจที่บอบบางของไอ้พิมแล้วหรอกเหรอ”
“มันอาจจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้นะ”
“งั้นก็เสนอมาสิ”
“ตอนนี้ยังนึกไม่ออก”
“งั้นก็จบ งานนี้พวกฉันไม่ให้เลิก”
“แต่ว่า…คือฉันว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ค่อยดีแล้วล่ะ จริงๆ นะจิ๊บ จริงๆ นะปอ ยิ่งพบกับเขาบ่อยๆ แบบนี้ฉันก็ยิ่งสงสารคุณภิมุขมากๆ เลย” ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้ อาริสาผ่อนลมหายใจโล่งอก “นะพวกแก บางทีเราอาจจะทำเกินไป”
“ฟังไม่ขึ้นย่ะ” นางสาวมัชฌิมาส่ายหน้า “ไม่นับว่าเป็นเหตุผลอันควร”
“แอ๊นท์ พวกเราเดินมาถึงขั้นสุดท้ายแล้วนะ จู่ๆ แกจะมาทิ้งกันกลางทาง แบบนี้เรียกว่าเป็นพวกไม่รับผิดชอบ” จีรดาเสริม
“ฉันสงสารเขา” เธอหันไปบอกกับจีรดาอีกรอบ ซ้ำยังย้ำเหตุผลเดิม “ฉันว่าบางทีเราอาจทำเกินไป”
“ยังไง”
“เราไม่ควรใช้ความรักเป็นอาวุธไปทำลายชีวิตของคนอื่นน่ะสิ”
“นี่แกเป็นบ้าอะไรเนี่ย” จีรดาอ้าปากค้าง “ตอนแรกแกก็เห็นดีด้วยนี่ยายแอ๊นท์”
“ฉันเปล่า ฉันโดนพวกแกบังคับต่างหาก”
“นี่ฉันถามจริงๆ เถอะ แกคิดว่าแกเป็นเซเลอร์มูนรึไงยะถึงได้อยากพิทักษ์ความรักและความยุติธรรมน่ะ” จีรดาประชด ก่อนจะหันไปสั่งแยมโรลและเค้กชาเขียวอีกชุด