จัดการเรื่องสาวใช้เรียบร้อยอาริสาก็เดินไปเปิดประตูบ้าน ร่างบางมองภิมุขที่ยืนส่งยิ้มมาจากหน้ารั้ว โบกมือทักทายเธอพร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดีตอนเช้าครับคุณแอ๊นท์ ไม่ทราบว่ามารบกวนรึเปล่า พอดีวันนี้ตื่นเช้าน่ะครับเลยอยากหาเพื่อนทานอาหารด้วย” ชายหนุ่มพูดพร้อมรอยยิ้มขณะใช้มือซ้ายชูถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋
“สามถุง?”
“ผมซื้อมาเผื่อสาวใช้ของคุณน่ะ เขาคงทานได้นะครับ”
โถ พ่อคนเผื่อแผ่ อย่ามีน้ำใจนักได้ไหม อย่าแคร์เธอนักเลย ไม่ต้องยกเธอให้เป็นคนสำคัญในเวลานี้ก็ได้
ในใจของอาริสานองไปด้วยหยาดน้ำตา ได้แต่ฝืนยิ้มต้อนรับเขา รู้สึกผิดจนยากอธิบาย
ความอยากรู้อยากเห็นทำให้ยายฝนไม่ยอมไปหลบอยู่ในห้อง ยืนทำตาโตอ้าปากค้าง แต่ยังดีที่ยอมเป็นบื้อใบ้ อาริสามองยายฝน เธอชูนิ้วชี้ขึ้นมาส่งสัญญาณปรามเจ้าหล่อนเอาไว้ว่าห้ามพูด ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น
โอ๊ะตายจริง! นึกขึ้นได้ว่าในห้องนั่งเล่นมีรูปถ่ายของเธอกับปกรณ์ อาริสาตาโต ในพริบตาหนึ่งก็คิดเรื่องชั่วร้ายเลวทรามออกมาได้
ใช่ หากว่าเธอทำให้เขารู้ด้วยตัวเองว่าเธอมีแฟนแล้วล่ะ ยายเพื่อนทั้งสองคนก็จะมาบีบบังคับเธอไม่ได้อีกใช่ไหม แต่ว่านะ…อาริสาอยากทุบลงไปที่อกข้างซ้าย หากว่าเธอทำเรื่องใจร้ายแบบนี้ลงไป ภายภาคหน้าเธอกับภิมุขก็คงไม่ได้พบกันอีกแล้ว ซ้ำคงต้องถูกเขาเกลียดมากๆ ด้วย
แพขนตายาวหนาหลุบลงโดยไม่รู้ตัว ในอกรู้สึกวาบโหวง ในที่สุดอาริสาก็จำต้องตัดใจ ถ้าไม่ทำแบบนี้ทุกอย่างก็จะคาราคาซัง
“เชิญคุณภิมุขรอที่ห้องรับแขกก่อนนะคะ”
เธอส่งสัญญาณทางสายตาให้สาวใช้รับถุงน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ ฮึบเข้าไว้นะอาริสา ไม่ต้องรอคำอนุมัติจากยายเพื่อนสองคนนั้นหรอก เธอลงมือปิดปฏิบัติการนี้เองเถอะ!
ถ้าเดินเข้าไปจะพบรูปถ่ายของเธอกับแมนวางอยู่เหนือเปียโนสีขาว อาริสาหวังว่าคนที่เดินตามมาจะเห็นมันในทันที
“แอ๊นท์เล่นเปียโนด้วยเหรอครับ”
“ค่ะ” เธอหันไปสบตาเขา เอาล่ะ เธอพร้อมแล้ว เขาจะโกรธ จะด่า จะว่าอะไร เธอจะไม่แก้ตัวเลยสักคำ เธอสัญญา!
“ผมเองก็ชอบเล่นนะครับ” เขาเดินผ่านตัวเธอตรงไปที่เปียโนสีขาวหลังนั้น “ขอลองเล่นได้ไหมครับ แต่อาจจะไม่เพราะนะ ผมร้างมันมานานมาก”
“เห?” อาริสาอ้าปากค้าง เธอหันขวับมองไปยังรูปถ่ายของปกรณ์ที่เขาบังคับให้เธอวางมันเอาไว้
ไม่มี?!