“แม่นาง!”
ทหารร้องเรียก แต่ฉันไม่ฟัง ฉันรู้ว่ามีคนตายมากมายที่นี่ แต่ฉันไม่พอใจที่พวกเขาคิดว่าพ่อจะเป็นหนึ่งในศพที่ตายอยู่ตรงนั้น นอกจากนี้พ่อก็ไม่ใช่คนที่จะตายไปโดยทิ้งฉันเอาไว้ข้างหลังแบบนี้ ยิ่งท่ามกลางสงครามอิมจินในปี 1592 ยิ่งเป็นไปไม่ได้!
“พ่อคะ! พ่อ! นี่คยองมินเองค่ะ! พ่ออยู่ที่ไหนคะ แค่กๆๆๆ…”
ทุกครั้งที่วิ่งไปด้วยตะโกนไปด้วย ควันก็เข้ามาในปากจนหายใจไม่สะดวกและแสบคอไปหมด แต่ฉันไม่มีเวลาจะมาสนใจอาการพวกนี้
“อินนา! อินนา!”
เสียงร้องหาครอบครัวที่หายไปเหมือนกับฉันดังขึ้นไม่ไกลออกไปนัก แต่ควันทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนัก เห็นแค่รางๆ ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวและหมวกทรงสูงสีดำเหมือนผู้มีบรรดาศักดิ์ เขาดักเรียกทหารสองนายที่เดินผ่านไปก่อนจะละล่ำละลักถาม
“เห็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณแปดเก้าขวบบ้างหรือไม่”
“เด็กผู้หญิงอายุประมาณนั้นข้าพบอยู่สองคนขอรับ”
“เด็กคนนั้นสวมชอโกรีที่มีแขนเสื้อสลับสี มันเป็นชุดที่ค่อนข้างมีราคา ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้คงมีไม่กี่คนที่ใส่ชุดแบบนี้ ลองนึกดูดีๆ เถิด”
“ชอโกรีที่มีแขนเสื้อสลับสี… อ๊ะ! นึกออกแล้ว มีบุรุษผู้หนึ่งพูดภาษาเดียวกับพวกเราแต่หน้าตาเหมือนพวกญี่ปุ่น เขาช่วยเด็กผู้หญิงสวมชอโกรีแบบนั้นเอาไว้ขอรับ แล้วเขาพูดว่า…คยองมิน… เหมือนจะเรียกเด็กคนนั้นว่าอย่างนี้น่ะขอรับ”
คยองมินเหรอ!
ทันทีที่ได้ยินคำตอบของทหารนายนั้น ฉันก็รีบวิ่งไปหา
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ! ใครพูดว่า ‘คยองมิน’ เหรอคะ”
ทหารนายนั้นหันมามองฉันอย่างงงๆ “อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ขอรับ… หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ขอรับ…”
“ตอนนี้คนนั้นอยู่ที่ไหนคะ/เด็กผู้หญิงคนนั้นตอนนี้อยู่ที่ใดรึ” ฉันกับผู้ชายคนนั้นถามขึ้นพร้อมกัน
“มีที่พักสำหรับคนบาดเจ็บอยู่ตรงด้านหน้าโน้นขอรับ บางทีอาจจะอยู่ตรงนั้นก็ได้ขอรับ”
“คนบาดเจ็บเหรอ/เด็กคนนั้นบาดเจ็บรึ” เราสองคนพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“ข้าว่าไปดูให้แน่ใจ ดีกว่ามาเสียเวลาซักไซ้ไล่ถามนะขอรับ”
ชายสวมหมวกทรงสูงรีบตะโกนเรียก ‘อินนา!’ แล้ววิ่งไป ฉันจึงวิ่งตามเพราะรู้สึกสังหรณ์ใจว่าคนที่พูดว่า ‘คยองมิน’ จะต้องเป็นพ่อแน่ๆ
วิ่งมาได้สักพักก็พบกับลานที่มีคนเจ็บนอนเรียงรายเต็มไปหมด เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังระงมไปทั่ว แต่มีเพียงหมอหญิงแค่สองคนที่วิ่งวุ่นดูแลคนเจ็บ
“อินนา! อินนา!”
ชายคนนั้นแทรกตัวเข้าไปในกลุ่มคนบาดเจ็บเพื่อค้นหาลูกสาว ส่วนฉันเองก็เริ่มมองหาพ่อจากคนบาดเจ็บเหล่านั้นเช่นกัน
“พ่อคะ! พ่อ!”
“โอ๊ย… โอ๊ย…”
“โอ๊ย ข้าจะตายอยู่แล้ว…”
“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย… ฮือ…”
มีแต่คนบาดเจ็บเต็มไปหมด มีตั้งแต่คนที่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงคนที่บาดเจ็บสาหัสจนใกล้หมดลม ฉันกลัวเหลือเกินที่จะเจอพ่อในสภาพแบบนั้น
“คยองมิน!”
ตอนนั้นเองฉันก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ พอหันไปมองก็พบองค์ชายควังแฮยืนอยู่กับพวกทหาร ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดแล้วว่าทำไมเขาถึงได้ยืนอยู่ตรงนั้น ฉันยังคงมองหาพ่อต่อไปโดยไม่ได้ตอบคำเขา
“ท่านพ่อ!” ตอนนั้นเองฉันก็พลันได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงดังแทรกเสียงครวญครางของผู้คน
“อินนา!”
“ท่านพ่อ…” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งรีบลุกแล้ววิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของผู้ชายสวมหมวกทรงสูงที่วิ่งมาพร้อมกับฉัน
“ท่านพ่อ! ฮือๆ”
“อินนา! เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เจ้าตามแม่ไปที่อึยจูแล้วไม่ใช่รึ แล้วเหตุใดเจ้า… ไม่เป็นไรนะลูก โชคดีแล้ว โชคดีที่สุด โชคดีแล้วที่เจ้าปลอดภัย”