ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 1-บทที่ 2 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 1-บทที่ 2

ในคำพูดที่ยืดยาวของฉัน ดูเหมือนจะมีแค่เพียงคำเดียวเท่านั้นที่เขาเข้าใจ

“เก็บรึ”

“ใช่ ฉันบอกให้เก็บดาบ มันอันตราย!”

เสียงตะโกนปนกรีดร้องของฉันทำให้เขามองไปยังดาบที่ตัวเองกำลังถืออยู่ก่อนจะเก็บดาบลงในฝักราวกับเพิ่งคิดได้ว่าไม่ควรถือดาบต่อหน้าผู้หญิง หรือไม่ก็เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าสิ่งที่คุกคามตัวเองอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นแค่หนังสือเท่านั้น ฉันจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ทันใดนั้นเองขณะที่เขากำลังปลดฝักดาบออกจากเอว ฝักดาบก็ไปโดนเข้ากับกองหนังสือที่ใหญ่ที่สุดจนกองหนังสือนั้นโยกเยกและทำท่าจะพังครืนลงมา ฉันจึงรีบขว้างช้อนทิ้งแล้ววิ่งไปประคองกองหนังสือนั้นเอาไว้

“เฮ้ย!”

กองหนังสือสูงกว่าตัวฉันมาก แต่คนก่อเรื่องกลับยืนมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“นี่! ยืนบื้ออยู่ได้ มันจะล้มแล้ว!”

อายุของเขาดูใกล้เคียงกับฉัน ฉันจึงกล้าใช้คำที่ไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่นัก

“ช่วยมาจับหน่อยสิ! มันจะล้มแล้วเห็นมั้ย”

มือของเขาเริ่มขยับตามคำสั่งของฉัน จนในที่สุดกองหนังสือประวัติศาสตร์เล่มโตก็ไม่ล้มลงมา ฉันจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกอีกครั้ง ส่วนเขายังคงหันไปมองรอบห้องที่ไม่คุ้นเคยด้วยสายตาที่งุนงง

“ที่นี่…”

“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องถามคำถามนี้ จะถามว่าที่นี่คือที่ไหนใช่มั้ย”

คิ้วของเขาขมวดแน่นราวกับไม่พอใจกับคำพูดอันแสนห้วนและไร้ซึ่งความสุภาพของฉัน ดูจากการแต่งตัวแล้ว อย่างน้อยก็คงเป็นขุนนางสมัยโชซอน คำพูดห้วนๆ ธรรมดาๆ ของผู้หญิงที่ไม่สามารถระบุชนชั้นวรรณะได้คงแสลงหูสำหรับเขาไม่น้อยสินะ

“อืม ที่นี่น่ะ” พ่อเคยสอนวิธีรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ “สวรรค์หรือโลกบนท้องฟ้าไง! หมายถึงเมืองแห่งท้องฟ้าน่ะ รู้จักเมืองแห่งท้องฟ้ามั้ย”

“เมืองแห่งท้องฟ้ารึ…”

“ดูรอบๆ ตัวสิ เคยเห็นมั้ย เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกใช่มั้ยล่ะ ไม่รู้ใช่มั้ยว่าอะไรเป็นอะไร นี่แหละคือหลักฐานที่แสดงว่าที่นี่คือเมืองแห่งท้องฟ้า”

“เมืองแห่งท้องฟ้ารึ ถ้าเช่นนั้นข้าก็สิ้นลมแล้วน่ะสิ”

“เอ่อ…จะพูดยังไงดี นายยังไม่ตาย เดี๋ยววันนี้ตอนค่ำๆ ฉันจะส่งนายกลับไปยังที่ที่นายจากมา เพราะฉะนั้นอยู่ตรงนี้เฉยๆ ก็แล้วกัน”

“ข้าทำกระไรผิด เหตุใดท่านเทพจึงลงทัณฑ์ข้าเช่นนี้”

“เรื่องนั้นเอาไว้รอให้ท่านเทพกลับมาแล้วค่อยคุยกันเถอะนะ”

แน่นอนว่าท่านเทพก็คือพ่อของฉันเอง ถ้าพ่อรู้ว่าคนจากโชซอนเรียกท่านว่าท่านเทพ พ่อจะชอบหรือเปล่านะ

“ท่านเทพรึ ที่แห่งนี้คือเมืองแห่งท้องฟ้าของท่านเทพจริงๆ รึ”

เขาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อคำพูดของฉัน ดังนั้นวิธีรับมือกับเรื่องนี้จึงมีเพียงแค่วิธีเดียว ฉันหันไปเปิดหน้าต่างที่มีเพียงแค่บานเดียวในห้องหนังสือ วิธีนี้เป็นวิธีสุดขั้วที่พ่อเคยบอกให้ระวังและถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรทำ แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นวิธีที่ดีมากที่จะสื่อสารให้คนที่มาจากยุคโชซอนเข้าใจ

“ดูข้างนอกโน่นสิ”

เขามองไปนอกหน้าต่างตามคำพูดของฉัน บ้านของฉันอยู่บนอพาร์ตเมนต์ชั้นสามสิบ ทันทีที่เขามองเห็นผู้คนด้านล่างที่เคลื่อนไหวราวกับกองทัพมด สีหน้าของเขาก็พลันซีดเผือด

“เป็นไปไม่ได้…”

เขาจ้องมองเบื้องล่างอยู่พักใหญ่ราวกับไม่อยากจะเชื่อ จนในที่สุดก็ทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น อาการช็อกขนาดนี้คงจะพอให้สงบนิ่งนั่งรอพ่อจนถึงหัวค่ำได้นะ

“เอาล่ะ ใจเย็นๆ นะ อยู่แต่ในห้องนี้ อย่าไปไหน แล้วนายจะได้กลับไปยังที่เดิม คอแห้งมั้ย ที่นี่มีทั้งน้ำเปล่า น้ำผลไม้…”

เขาเอาแต่นั่งหน้าซีดเผือดไม่ยอมพูดยอมจา ซึ่งฉันเข้าใจอาการช็อกแบบนี้เป็นอย่างดี เพราะฉันเคยสัมผัสกับอาการนี้เมื่อเก้าปีที่แล้วที่ตัวเองไปโผล่ในยุคโชซอน ฉันจึงสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ตรง และตอนนั้นฉันอายุเพียงแค่เก้าขวบ ซึ่งเด็กกว่าเขาในตอนนี้เยอะมาก

“เฮ้อ…”

ฉันคิดจะปล่อยเขาให้นั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง แต่จังหวะที่กำลังจะก้าวออกจากห้องหนังสือ เขาก็ยืนขึ้นแล้วเรียกฉัน

“แล้วแม่นางคือใคร”

ฉันรู้สึกลำบากใจกับคำถามนี้ ที่ผ่านมาพ่อเคยพาคนจากยุคโชซอนมายังโลกปัจจุบันหลายต่อหลายคน แต่ทุกครั้งพ่อจะอยู่ด้วย ฉันจึงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวว่าฉันคือใคร เพราะพ่อได้อธิบายเรื่องราวต่างๆ ไปเรียบร้อยแล้ว หน้าที่ของฉันมีเพียงแค่เล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตในโชซอนเมื่อวัยเด็กเพื่อให้คนเหล่านั้นรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัย แต่สำหรับเขาคนนี้ ฉันไม่ค่อยอยากเล่าเรื่องสมัยที่ฉันอยู่โชซอนให้ฟังสักเท่าไหร่ เพราะเขาดูมีท่าทีถือตัวว่าเป็นผู้สูงศักดิ์

“ฉัน…เป็นแค่คนที่อาศัยอยู่ที่นี่”

“อาศัยอยู่ที่นี่รึ”

“รู้แค่นี้ก็พอแล้ว” ฉันพูดพลางก้มหยิบช้อนขึ้นมาจากพื้นและอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ว่าแต่นายอายุเท่าไหร่เหรอ”

“สิบแปดปี”

อายุเท่าฉันเลย ฉันพยักหน้าให้กับความจริงที่เพิ่งรับรู้ แล้วเดินออกมาจากห้องหนังสือเงียบๆ พอถึงห้องครัว ก็ล้างช้อนแล้วนั่งกินข้าวต่อ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com