แม้จะอยู่ในวังเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถพบเจอกันได้ดั่งใจนึก เพราะยุคนี้คือยุคโชซอน
“ตายแล้ว! ตายแล้ว!”
ตอนนั้นเองเสียงของหญิงผู้หนึ่งก็ดังขึ้น ฉันเงยหน้ามองก็เห็นนางในคนหนึ่งกำลังเกาะกำแพงและมองข้ามกำแพงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ฉันจึงแนบตัวชิดกำแพงแล้วมองตามสายตาของนางในทันที
ตรงข้ามกำแพงซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก องค์ชายควังแฮกำลังยืนอยู่ เขาเดินไปเดินมาราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างภายใต้แสงจันทร์ เขาคงไม่ได้ออกมาชมจันทร์ในคืนที่หนาวเหน็บขนาดนี้แน่นอน เพราะเขาเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น จมอยู่กับความคิดราวกับกำลังมีเรื่องลำบากใจอะไรอยู่
ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว แต่ฉันก็ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปหาและทักทายเขาเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่ใช่สิ การทักทายมันจำเป็นต้องใช้ความกล้าขนาดนั้นเชียวเหรอ
ถ้าจะพูดตรงๆ ก็คือเขายืนอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ได้อยู่คนเดียวเสียทีเดียว นางในคนหนึ่งกำลังแอบมองดูเขาอยู่ไกลๆ ราวกับเป็นผู้ติดตามของเขาอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ฉันไม่กล้าออกไปหาเขา
“ทะ ท่าน!” พอเห็นฉัน นางในก็รีบทำความเคารพ
“เอ่อ คือว่า ไม่เป็นไร”
แค่ดูก็รู้ว่าใบหน้าของนางในคนนี้ไม่ได้แดงเพราะอากาศหนาว แต่แดงเพราะความเขินอาย
“ใครอยู่ตรงนั้น!”
ทันใดนั้นเองเสียงขององค์ชายควังแฮก็ดังขึ้น ทั้งฉันและนางในถึงกับสะดุ้งอย่างตกใจ คนที่มีสติก่อนคือฉัน ฉันรีบหมอบลงทันที พอนางในเห็นฉันทำแบบนั้นก็รีบทำตามจนเราหัวชนกัน
“เกิดเรื่องกระไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” เสียงชายอีกคนดังขึ้น น่าจะเป็นองครักษ์ขององค์ชายควังแฮ
“ข้าได้ยินเสียงบางอย่างจากทางโน้น”
“กระหม่อมจะไปตรวจดูพ่ะย่ะค่ะ”
ฉันกับนางในคนนั้นทำตาโตทันที เราพร้อมใจกันกลั้นหายใจ ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ก่อนจะค่อยๆ หมอบเดินไปตามแนวกำแพงเพื่อที่จะได้ออกไปจากตรงนั้นให้ไวที่สุด
พอหมอบเดินมาได้สักพักก็เปลี่ยนไปเป็นวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อเห็นว่าน่าจะปลอดภัยแล้ว เราสองคนก็หยุดยืนหอบอยู่ด้วยกัน เธอคนนั้นดูเหนื่อยมากราวกับเพิ่งเคยวิ่งอย่างนี้เป็นครั้งแรก แล้วเราสองคนก็สบตากันก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆๆ / ฮ่าๆๆๆ”
เมื่อครู่เราพากันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความกลัว แต่ตอนนี้เรากลับหัวเราะได้แล้ว
“ท่านซังกุงวิ่งเก่งมากเลยเจ้าค่ะ”
“ท่านเองก็วิ่งเก่งเหมือนกันนะ”
“ท่งท่านอะไรเจ้าคะ อย่าพูดจาเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ”
อายุของนางกับฉันดูไม่น่าจะแตกต่างกันมากสักเท่าไหร่ “อายุเท่าไหร่หรือ”
“สิบแปดปีเจ้าค่ะ”
“อายุน้อยกว่าข้าหนึ่งปี เช่นนั้นเรียกข้าแบบเป็นกันเองก็ได้นะ”
“แต่ท่านเป็นถึงซังกุง… ข้าไม่กล้าทำเช่นนั้นหรอกเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะข้าไม่ได้เป็นซังกุงมาตั้งแต่แรก และข้าก็เป็นแค่ซังกุงพระพี่เลี้ยงน่ะ”
“ซังกุงพระพี่เลี้ยง…ของท่านชายจงน่ะหรือเจ้าคะ”
“ถูกต้อง”
“ข้าได้ยินมาว่าซังกุงพระพี่เลี้ยงของตำหนักองค์ชายจองวอนในครั้งนี้อายุน้อยมากเจ้าค่ะ แต่ข้าไม่นึกว่าจะอายุมากกว่าข้าเพียงแค่หนึ่งปี…”
“เรียกข้าว่า ‘พี่สาว’ เฉยๆ ก็ได้นะ”
“พี่สาวหรือเจ้าคะ”