แม้ข้าว ตะเกียบและช้อนจะถูกวางอยู่ตรงหน้า แต่ฉันก็ไม่กล้าหยิบขึ้นมา ระหว่างนั้นเองจงผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรพลันพูดขึ้นมากลางวงว่า “พี่สาว ข้ากินเนื้อที่พี่สาวชอบหมดแล้วนะ”
ความจริงที่ฉันกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยกับจงได้ถูกเปิดเผยให้โลกรู้แล้ว จงเป็นเด็กที่ไม่เห็นแก่ตัวเรื่องการกิน พอรู้ว่าฉันชอบกินเนื้อจึงยกเนื้อให้ฉันกินอยู่เสมอ ทั้งที่จงเองก็ชอบกินเนื้อมากเช่นกัน
“อ้อ ดีแล้วจ้ะ เก่งมาก ต่อไปนี้จงทานเนื้อให้หมดเลยนะ”
ฉันพูดพลางลูบหัวของจง ระหว่างนั้นก็รู้สึกได้ถึงสายตาขององค์ชายจองวอนที่กำลังชำเลืองมอง ฉันจึงสะดุ้งก่อนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองเป็นเพียงแค่นางในและมีความผิดฐานลูบหัวโอรสขององค์ชาย จึงรีบเอามือลงอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเรียกชื่อจงเฉยๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่”
องค์ชายจองวอนพูดกับฉันเรื่องเรียกชื่อ เขาคงไม่พอใจที่ฉันเรียกชื่อจงเฉยๆ เพราะแม้แต่ซังกุงส่วนพระองค์ยังต้องทำความเคารพจงเลย แล้วฉันที่เป็นเพียงซังกุงพระพี่เลี้ยงจึงไม่ควรจะเรียกชื่อจงแบบนี้
“คือว่า…”
“ตั้งแต่แรกเลยขอรับ จงคือจงตั้งแต่แรกเลยขอรับ”
จงพูดแทรกระหว่างองค์ชายจองวอนกับฉันขึ้นมาอีกครั้งราวกับต้องการโอ้อวด ทว่าใบหน้าขององค์ชายจองวอนเวลานี้ไม่ได้ดูเหมือนคนโกรธ เขาพูดกับฉันเหมือนไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก
“จงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่ง เป็นชื่อที่เสด็จพ่อของข้าตั้งให้ แต่ไม่ค่อยมีคนชอบชื่อนั้นสักเท่าไหร่ ทุกคนจึงไม่เรียกชื่อนั้นกัน”
“มีอีกชื่อหนึ่งด้วยหรือเพคะ”
การมีชื่ออีกชื่อให้เรียกเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุคโชซอน
“ชอนยูน”
ตอนนั้นเองจงพูดขึ้นมา ความหมายของชื่อนี้คือทายาทผู้ที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ จงเป็นหลานชายคนโตที่พระเจ้าซอนโจนั้นรักมากจริงๆ และชื่อนี้ก็คือหลักฐานสำคัญ
“ถ้าเช่นนั้นต่อไปให้เรียกว่าชอนยูนดีไหมเพคะ”
“ข้าชอบชื่อจงมากกว่า”
คำพูดของจงทำให้องค์ชายจองวอนหันมามองจงแล้วเอ่ยว่า “ชอนยูนคือชื่อที่เสด็จปู่ของเจ้าตั้งให้ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด เจ้าห้ามบอกว่าเจ้าไม่ชอบชื่อนี้อย่างเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่”
“ขอรับท่านพ่อ”
แม้น้ำเสียงจะเจือความไม่พอใจอยู่นิดหน่อย แต่จงก็ยังยิ้มและตอบรับ ดูท่าทางบรรยากาศการกินอาหารของสองพ่อลูกคงจะดีตั้งแต่ตอนฉันเข้ามาแล้ว
ถึงพ่อลูกจะคุยกันด้วยดี แต่ตอนนี้ฉันนี่แหละที่อึดอัดใจ ดูเหมือนว่าองค์ชายจองวอนจะอ่านใจฉันออกจึงกระแอมออกมาก่อนจะลุกขึ้น
แหม อายุมากกว่าฉันแค่สองปีเท่านั้นแหละ ทำเป็นเก๊ก
“หากกินข้าวเสร็จ เจ้าก็เตรียมตัวออกไปข้างนอกกับจงด้วยล่ะ”
“ออกไปข้างนอกหรือเพคะ”
“วันนี้ข้ามีงานทั้งวัน ข้าจึงคิดว่าจะพาจงไปที่นั่นด้วย”
“หม่อมฉันก็ต้องไปด้วยหรือเพคะ”
วินาทีนั้นฉันนึกถึงคำพูดที่ฉันพูดกับเขาเมื่อวาน