ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 3-บทที่ 4 – หน้า 31 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 3-บทที่ 4

และคนที่ตกใจมากกว่าใครก็คือจงที่เพิ่งเคยเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเป็นครั้งแรกในชีวิต จงจึงแผดเสียงร้องไห้ออกมา

“ยังนั่งอยู่อีกหรือ! เตียงนั่นไม่ได้ถูกเตรียมเอาไว้ให้เจ้า รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”

ถ้าทำได้พระชายาคงจะวิ่งเข้ามากระชากฉันออกไปแล้ว และทันใดนั้นเองจงก็วิ่งมากอดฉันแน่น

“ไม่ได้นะขอรับ! ไม่ได้เด็ดขาด ฮือๆ พี่สาวจะต้องอยู่ที่นี่! อยู่กับข้า ฮือๆ ท่านแม่อย่าไล่พี่สาวไปเลยนะขอรับ ข้าไม่ให้พี่สาวไป… พี่สาวเจ็บอยู่ เจ็บเพราะข้า ทั้งหมดเป็นเพราะข้า ข้าไปเจอเสือแล้วพี่สาวเข้ามาช่วย ฮือ…”

การร้องไห้ของจงทำให้องค์ชายจองวอนยิ่งส่งสายตาเย็นชาไปให้พระชายา ซึ่งพระชายาเองก็จ้องมองฉันกับจงด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ฉันจึงรู้สึกสงสารจงจับใจที่ต้องมาฟังคำพูดอันแสนร้ายกาจของแม่ตัวเอง

แล้วคืนนั้นจงก็นอนจับมือกับฉันท่ามกลางกลิ่นตลบอบอวลจากยาสมุนไพรที่พอกอยู่บนหัวไหล่ของฉันจนหลับไป

 

วันรุ่งขึ้นพระชายาพาลูกชายสองคนยกเว้นจงออกจากพระราชวังชั่วคราว คงจะกลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ของนางอีกครั้ง องค์ชายจองวอนก็กลับไปคุมงานก่อสร้างพระราชวังต่อ ภายในตำหนักขององค์ชายจองวอนซึ่งอยู่ในพระราชวังชั่วคราวนี้จึงเงียบสงบเป็นปกติ

ช่วงที่ยังเจ็บอยู่ ฉันไม่สามารถดูแลจงได้ และการที่ฉันพักรักษาตัวอยู่ในห้องของจงคือ ‘การหมิ่นเกียรติเจ้านาย’ อย่างที่พระชายาบอกไว้ ดังนั้นฉันจึงย้ายกลับมาพักรักษาตัวในที่พักของตัวเอง แต่จงก็ยังตามมาขลุกอยู่กับฉันในที่พักแคบๆ ทั้งวัน ยกเว้นเวลาที่ต้องเรียนหนังสือเท่านั้น พอหลายวันเข้าจงก็ย้ายมากินนอนอยู่ในที่พักของฉัน โดยไม่ฟังคำคัดค้านของยูซังกุงเลยแม้แต่น้อย เพราะอย่างนั้นข้าราชการจากฮงมุนควันจึงต้องมาสอนหนังสือให้จงในที่พักของฉัน ส่วนฉันต้องออกไปรอข้างนอกในระหว่างที่จงเรียนหนังสือ

บาดแผลที่ไหล่ของฉันเริ่มแห้งและตกสะเก็ดแล้วเมื่อฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่นมาเยือน ยูซังกุงก็กดดันให้ฉันกลับไปทำงานเพื่อจงจะได้กลับไปอยู่ที่ตำหนักของตัวเอง แต่ฉันขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะฉันยังต้องพอกและกินยาสมุนไพรอยู่ ฉันไม่อยากให้กลิ่นสมุนไพรเหม็นคละคลุ้งที่ตำหนักของจง

“ไม่น่าเชื่อเลยนะเจ้าคะ”

หลังจากที่จงหลับไปแล้ว มียองก็มาหาฉันเหมือนปกติ

“อะไรหรือ”

“ก็ท่านชายจงขององค์ชายจองวอนน่ะสิเจ้าคะ ทุกคนในวังรู้ดีว่าท่านชายจงเกลียดกลิ่นยาสมุนไพรมากถึงขนาดไม่อยากไปพระตำหนักของพระมเหสี แต่ท่านชายจงกลับมาอยู่ที่นี่ กินนอนที่นี่ ทั้งที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยา”

ฉันรู้สึกดีที่จงชอบฉันมากถึงขนาดยอมทนดมกลิ่นยาสมุนไพรเพื่อมาอยู่กับฉัน

“ให้ข้าลองสัมผัสหน่อยได้หรือไม่เจ้าคะ” มียองกระเถิบเข้ามาใกล้พร้อมกระซิบถาม

“สัมผัสอะไรหรือ”

“ท่านชายจงค่ะ”

ฉันไม่รู้ว่ามียองคิดอะไรอยู่ แต่ฉันก็ขยับหนีเพื่อให้มียองได้เข้าใกล้จง แล้วมียองก็ค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปแตะที่หน้าผากของจงซึ่งกำลังหลับใหลอยู่

“อุ่นจังเลยเจ้าค่ะ”

“ร่างกายของคนเราก็อุ่นกันหมดนั่นแหละ”

“เด็กๆ นี่น่ารักหมดทุกคนเลยนะเจ้าคะ ถ้าข้ามีลูก ข้าจะมีความสุขสักเท่าไรกันนะ…”

คำพูดของมียองทำให้ฉันรู้สึกหดหู่ใจ ถ้ามีลูก จะมีความสุขสักเท่าไรกัน… นางในทั่วไปจะต้องอาศัยอยู่อย่างเดียวดายไปตลอดชีวิตหากไม่ได้รับความกรุณาจากพระราชา

“ข้าอิจฉาพี่สาวมากเลยนะเจ้าคะที่ได้ดูแลท่านชายจง แม้จะไม่มีโอกาสได้มีลูกเป็นของตนเอง แต่แค่ได้เลี้ยงเด็กก็ดีมากแล้วเจ้าค่ะ”

มียองแตะหน้าผากจงอีกครั้งด้วยความเอ็นดูพลางจ้องมองใบหน้าเล็กๆ ที่กำลังหลับใหลราวกับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ฉันมองมียองพลางหยิบส้มออกมายื่นให้

“กินนี่สิ”

“ฮวังคัม?! ไปเอามาจากไหนเจ้าคะ”

“องค์ชายจองวอนให้มาเมื่อตอนกลางวันน่ะ บอกให้ข้าเอามากินกับจง”

“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูกาลของฮวังคัม ได้ยินมาว่าฝ่าบาทพระราชทานเฉพาะแค่องค์ชายรัชทายาทกับองค์ชายจองวอนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ทำให้องค์ชายอิมแฮโกรธมากเลยเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นรึ”

“เจ้าค่ะ แม้จะเป็นเพียงแค่ฮวังคัมไม่กี่ลูก แต่ก็เป็นเรื่องของความโปรดปรานเจ้าค่ะ องค์ชายรัชทายาทคือคนที่จะได้เป็นพระราชาองค์ต่อไป ดังนั้นฝ่าบาทจึงต้องพระราชทานให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับองค์ชายจองวอนนั้นเพราะพระองค์เป็นพระโอรสของพระสนมอินบินผู้ที่ฝ่าบาทกำลังโปรดปรานมากกว่าใครๆ เจ้าค่ะ”

เพราะพี่ชายสองคนขององค์ชายจองวอนเสียชีวิตไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นลูกชายคนเดียวของพระเจ้าซอนโจกับพระสนมอินบิน

“แล้วฝ่าบาทโปรดปรานองค์ชายจองวอนไหม”

มียองมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะกระซิบกระซาบ “เรื่องนี้คนในวังต่างก็ทราบดีเจ้าค่ะว่าจริงๆ แล้วตำแหน่งขององค์ชายรัชทายาทนั้นต้องเป็นขององค์ชายชินซอง แต่เพราะองค์ชายชินซองสิ้นพระชนม์ในช่วงสงครามอิมจินเจ้าค่ะ”

องค์ชายชินซองคือโอรสคนที่สองของพระเจ้าซอนโจกับพระสนมอินบิน เขาเสียชีวิตในช่วงเกิดสงครามอิมจิน ส่วนองค์ชายอึยอันซึ่งเป็นพี่ชายคนโตนั้นก็สิ้นพระชนม์ตอนอายุเพียงแค่สิบสองปีเท่านั้น ซึ่งถ้าสองพระองค์นี้ไม่ได้สิ้นพระชนม์ องค์ชายควังแฮก็คงไม่ได้เป็นองค์ชายรัชทายาท นี่คือสิ่งที่นักประวัติศาสตร์ทุกคนรู้ดี แม้แต่เด็กวัยรุ่นอย่างฉันก็ยังรู้เลย

“หวานมากเลยเจ้าค่ะ! ตั้งแต่เกิดมาข้าเพิ่งเคยกินฮวังคัมเป็นครั้งแรก กลิ่นก็หอมมาก”

“เอาเปลือกมาทำเป็นชาก็อร่อยนะ เจ้าวางเปลือกเอาไว้ตรงนั้นแหละ เอาไว้ข้าจะทำชาให้”

“จริงหรือเจ้าคะ นางในอย่างข้ากินของล้ำค่าแบบนั้นได้หรือเจ้าคะ”

“ก็กำลังกินอยู่นี่ไง ฮ่าๆ”

“นั่นสิเจ้าคะ ฮ่าๆ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com