ค่อนวันแล้วที่ถูกขังอยู่ในคุก ข้อดีอย่างหนึ่งของการอยู่ในนี้คือมีอาหารให้กิน แน่นอนว่าเป็นอาหารง่ายๆ อย่างข้าวต้มกับถั่วงอกซึ่งไม่ใช่อาหารดีๆ ที่หากินได้จากห้องเครื่อง แต่ฉันก็กินมันอย่างเอร็ดอร่อย เพราะมันทำให้ท้องของฉันอิ่ม
แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี พระเจ้าซอนโจอาเจียนออกมาเป็นเลือดงั้นเหรอ ฉันกับนางในสองคนนั้นได้กินวัตถุดิบของอาหารว่างนั้นทั้งหมด ถ้ามียาพิษ ฉันกับพวกนางก็ต้องอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วยสิ
อาหารว่างที่ฉันทำให้พระสนมอินบินคือสลัดสตรอเบอรี่ป่ากับอกไก่และไข่ต้ม เพราะฉันคิดว่าอาหารว่างมื้อค่ำไม่ควรเป็นอาหารหนักท้อง ควรเป็นอาหารที่กินแล้วไม่ทำให้อ้วน วัตถุดิบก็มีแค่สามอย่างเอง นอกนั้นก็เป็นน้ำสลัดที่ฉันปรุงขึ้นมาใหม่
หรือสภาพร่างกายของพระเจ้าซอนโจนั้นไม่ดี แต่ตามประวัติศาสตร์แล้วพระเจ้าซอนโจยังไม่สวรรคตตอนนี้นี่ ขณะที่กำลังครุ่นคิด เสียงเล็กๆ ก็ดังมาจากอีกฟากหนึ่งของกำแพง
“พี่สาว…”
มียองเหรอ
ฉันรีบลุกแล้วเดินตรงไปยังรูหน้าต่างขนาดเล็กที่อยู่สูงกว่าความสูงของฉัน แต่ด้วยความสูงของหน้าต่างทำให้ฉันไม่สามารถเห็นใบหน้าของมียองได้ ฉันจึงยื่นมือออกไปทางหน้าต่างแทน
“ตรงนี้ๆ มียอง”
“พี่สาว!” มียองจับมือของฉันแน่น “เหตุใดพี่สาวถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะเจ้าคะ”
“แล้วเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร”
“ข่าวลือแพร่ไปทั่ววังเลยเจ้าค่ะ ตอนแรกข้านึกว่าพี่ออกจากวังไปแล้วเสียอีก ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ห้องเครื่อง… เหตุใดถึงไม่บอกข้าเลยล่ะเจ้าคะ”
“งานยุ่งทุกวันจนข้าไม่มีเวลาออกจากห้องเครื่องเลย ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พี่ไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปจริงๆ ใช่หรือไม่เจ้าคะ”
“เจ้าไม่เชื่อข้ารึ”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ! แต่ทุกคนบอกว่าพี่ใส่ยาพิษลงไปเจ้าค่ะ”
“ข้าอยู่แต่ในนี้เลยไม่รู้อะไรมากนัก ข้างนอกเกิดเรื่องอะไรบ้าง”
“ข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่าฝ่าบาทเสวยอาหารที่พี่ทำแล้วทรงพระกาสะทั้งคืนเจ้าค่ะ จากนั้นรุ่งขึ้นก็ทรงอาเจียนออกมาเป็นพระโลหิตเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่นั้นนะเจ้าคะ ตอนนี้หมอหลวงยังคอยดูพระอาการอยู่ตลอดเวลาด้วย… นอกนั้นข้าก็ไม่รู้แล้วเจ้าค่ะ”
“มียอง ข้าไม่ได้ใส่ยาพิษลงไปจริงๆ นะ”
“ข้ารู้เจ้าค่ะ ข้าเชื่อคำพูดของพี่ ทุกอย่างจะดีขึ้นเองเจ้าค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”
น้ำเสียงเจือร้องไห้ของมียองดังมาจากอีกฝั่งของกำแพง ฟังจากเสียงร้องไห้นั้นแล้ว ฉันได้แต่คิดว่าสถานการณ์คงไม่ดีขึ้นง่ายๆ อย่างแน่นอน
แล้วคืนวันนั้นการไต่สวนก็เริ่มต้นขึ้น ศาลไต่สวนพิเศษถูกจัดขึ้นที่สวนของพระราชวังชั่วคราวแห่งนี้ ฉันถูกจับให้นั่งอยู่ตรงกลาง ทั้งที่ไม่คิดจะหนีเลย แต่แขนและขาของฉันถูกมัดแน่นติดกับเก้าอี้ไม้ คบเพลิงที่ถูกจุดวางเอาไว้ทั่วยิ่งกระตุ้นความกลัวของฉันขึ้นไปอีก
กลุ่มขุนนางเดินมายืนข้างๆ ฉัน ทางซ้ายสามคน ทางขวาสามคน ชุดขุนนางที่พวกเขาใส่เป็นชุดสีแดง อายุอานามของแต่ละคนก็ดูเลยวัยกลางคนมาแล้ว จึงเดาได้ว่าจะต้องเป็นขุนนางระดับสูงแน่นอน
“ชื่อของคนร้ายคือคิมคยองมินใช่หรือไม่”
ฉันตั้งใจจะไม่ตอบคำถามนี้ เพราะถ้าฉันตอบไปเท่ากับว่าฉันยอมรับคำนำหน้าชื่อที่เรียกว่าฉันเป็น ‘คนร้าย’
“ตอบคำถามเดี๋ยวนี้!”
พอเห็นฉันลังเลใจที่จะตอบคำถาม ทหารนายหนึ่งที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็รีบเดินมาข้างฉัน ในมือของทหารนายนั้นถือท่อนไม้ที่มีรูปร่างเหมือนกระบอง แล้วตอนนั้นเอง
“องค์ชายจองวอนเสด็จ!”
คนที่เข้ามาในศาลไต่สวนพิเศษเป็นคนสุดท้ายไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นองค์ชายจองวอน เขามีสีหน้าตื่นตระหนกเป็นอย่างมากทันทีที่เข้ามา เขาจ้องหน้าฉันอยู่สักพักก่อนจะนั่งบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่ แล้วขุนนางที่ยืนอยู่ด้านซ้ายมือของเขาก็โค้งทำความเคารพเขาอย่างสุภาพ