ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 5-บทที่ 6 – หน้า 17 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Jamsai

ทดลองอ่าน พานพบฝ่าบาทในห้วงกาล บทที่ 5-บทที่ 6

“ว่าแล้ว”

สำรับถูกยกลงมาในสภาพที่แทบจะไม่มีใครแตะต้องเลย พวกนางในห้องเครื่องจึงมองอย่างพึงพอใจ แต่ฉันกลับรู้สึกแตกต่างออกไป เพราะไข่ต้มรูปหัวใจยังคงวางอยู่ที่เดิม ฉันไม่อยากให้ไข่ต้มฟองนี้เตะตาคนอื่นที่ไม่ใช่องค์ชายควังแฮ ฉันจึงวางไข่ต้มแทรกลงในอาหารอื่น แต่มันยังคงวางอยู่ที่เดิม เขาได้เห็นไข่ต้มรูปร่างประหลาดนี้หรือเปล่านะ หรือเขาไม่ได้ใส่ใจอาหารในสำรับนี้เลย

สำรับถูกยกเข้ามาไม่นาน พวกนางในห้องเครื่องก็ยกออกไป

“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าไปก่อนนะ ตั้งใจทำงานเข้าล่ะ”

ทันทีที่พวกนางในห้องเครื่องยกสำรับออกไป ฉันก็ทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ฉันไม่ปฏิเสธหรอกว่าตัวเองคาดหวัง ซึ่งตอนนี้ฉันรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง ฉันถอนหายใจยาว แล้วมองไปที่ด้านนอกประตูที่เปิดอ้าเอาไว้ครึ่งหนึ่ง หิมะแรกยังคงตกอยู่ ยิ่งเวลาผ่านไป หิมะก็ยิ่งทับถมสูงขึ้น ตอนนี้ในใจของฉันถูกหิมะทับถมสูงเช่นกัน

ฉันได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวคงมีโอกาสอื่นมาอีก นึกแล้วก็ขำตัวเองที่คาดหวังอะไรกับไข่ต้มแค่ฟองเดียว สำหรับเขาก็เป็นเพียงแค่ไข่ต้มที่เคยกินเพียงครั้งเดียวเมื่อสิบปีก่อน

 

เย็นวันนั้น หลังสำรับเย็นของพระสนมอินบินเสร็จสิ้นลง ฉันก็ได้รู้ว่าการมายังตำหนักพระสนมอินบินขององค์ชายควังแฮนั้นเพราะพระสนมอินบินเป็นคนเชิญ หลังจากเสร็จสิ้นการไว้ทุกข์ให้กับพระนางอึยอินในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พระสนมอินบินก็ต้องเผชิญหน้ากับพระมเหสีองค์ใหม่ นางคงอยากสำรวจท่าทีขององค์ชายควังแฮซึ่งเป็นองค์ชายรัชทายาทโดยใช้มื้ออาหารเป็นข้ออ้าง องค์ชายควังแฮเองก็คงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธคำเชิญของพระสนมผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในวังในตอนนี้ และนางก็ไม่เปิดโอกาสให้องค์ชายควังแฮปฏิเสธคำเชิญของตัวเองโดยการให้องค์ชายจองวอนเป็นคนพามาด้วยตัวเอง สุดท้ายองค์ชายควังแฮก็ต้องมาที่ตำหนักของนางอย่างเสียไม่ได้

หลังจากดับไฟที่ช่องใส่ฟืนในทเวซอนคันจนหมด ฉันก็กลับไปยังที่พักของตัวเอง แต่วันนี้ฉันรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงมากกว่าทุกวัน พอถามตัวเองว่ากำลังคาดหวังอะไรอยู่ ฉันก็ถึงกับหดหู่ใจขึ้นมา ฉันเองก็ไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาจำฉันไม่ได้

‘องค์ชายรัชทายาทลืมเจ้าไปแล้ว’

องค์ชายควังแฮคงลืมฉันไปแล้วตามที่องค์ชายจองวอนบอกจริงๆ

“เฮ้อ…”

ฉันถอนหายใจยาวกว่าปกติ ตอนนี้เพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่างานในทเวซอนคันนั้นยากลำบาก ระหว่างนั้นฉันก็มองเห็นเงาของใครคนหนึ่งบริเวณต้นพลับที่อยู่ข้างๆ ที่พักของฉัน เขาสวมเสื้อคลุมยาวกับหมวกทรงสูงสีดำ ฉันคิดว่าเป็นองค์ชายจองวอนจึงเดินออกไปหา แต่แล้วฉันก็ถึงกับตกตะลึง เพราะเขาไม่ใช่องค์ชายจองวอน

องค์ชายควังแฮ…

ฉันคิดว่าเขาคงออกจากวังไปแล้วหลังอาหารมื้อกลางวัน แต่ตอนนี้เขากลับยืนอยู่ตรงนี้ ตรงที่พักของฉัน คนที่ฉันอยากเจอกำลังอยู่ตรงหน้าฉัน และยิ่งไปกว่านั้นเขาอยู่เพียงลำพัง โอกาสแบบนี้คือสิ่งที่ฉันคาดหวังไว้ตลอดช่วงเวลาสองปีที่อยู่ในวัง

ฉันยืนนิ่ง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี จะเดินเข้าไปหาโดยที่ไม่เอ่ยทัก หรือจะเอ่ยทักทายก่อนแล้วค่อยเดินไปหา แต่แล้วเสียงเดินของฉันก็ทำให้เขาหันมามอง

แสงจากคบไฟสาดส่องจนบริเวณนี้สว่างไสว ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปทีละก้าว แต่สีหน้าของเขาดูเรียบเฉยมาก เขาอาจจะจำฉันไม่ได้ทั้งเสื้อผ้า ทั้งผมเผ้า สภาพของฉันในตอนนี้เป็นเพียงแค่นางในธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น ทันทีที่คิดอย่างนั้น ฉันจึงลำบากใจ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาก่อนดี เขาเป็นถึงองค์รัชทายาท ฉันต้องก้มทำความเคารพเขาหรือเปล่า หรือฉันควรจะพูดจาแบบเดิมเหมือนตอนที่เจอกับเขาครั้งแรก

แต่แล้วฉันก็รู้ว่าเปล่าประโยชน์ที่จะกังวลใจ เพราะยิ่งเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งเห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา เขารู้ว่าฉันคือใคร เขาจำฉันได้!

สำหรับเขา เวลาผ่านไปสิบปี

สำหรับฉัน เวลาผ่านไปเพียงแค่สองปีเท่านั้น

เขาก้าวข้ามช่วงเวลาอันยาวนานนั้นโดยที่ยังจำฉันได้ รอยยิ้มนั้นกำลังบ่งบอกว่าดีใจที่ได้เจอฉัน และเมื่อยืนเผชิญหน้ากัน เราทั้งสองก็ระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

คำพูดขององค์ชายจองวอนไม่ใช่ความจริง องค์ชายควังแฮยังจำฉันได้

พอเขาหยุดหัวเราะ ฉันก็ยื่นมือข้างหนึ่งไปหาเขา มือข้างนี้ที่ฉันเคยยื่นไปทักทายเป็นครั้งสุดท้ายในปี 2013 ซึ่งเป็นอนาคตอันไกลโพ้นหากนับจากตอนนี้

“จำได้ไหม”

เขาทอดสายตามองมือของฉันก่อนจะยื่นมือออกมาจับมือเหมือนในตอนนั้น แล้วฉันก็ขยับมือที่ประสานกันขึ้นลงไปมา

“นาย เอ้ย! เจ้าเคยถามข้าว่าทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร”

แม้ฉันจะเคยพูดจาแบบคนในโลกอนาคตกับเขาเมื่อสองปีก่อน แต่นี่คือยุคโชซอน ฉันจึงต้องใช้คำพูดในแบบที่คนยุคนี้พูดกัน

“ใช่” เขาเปิดปากพูดเป็นครั้งแรก

“นี่คือการทักทายกันในที่ที่ข้าเคยอยู่ เป็นการทักทายกันทั้งตอนพบกันและตอนจากกัน”

“ตอนพบกันและตอนจากลารึ ถ้าเช่นนั้นการทักทายที่เราทำกันอยู่ในตอนนี้มีความหมายว่าอย่างไรล่ะ”

ฉันยิ้มกว้างก่อนจะตอบออกไป “เป็นการทักทายที่ได้พบกันอีกครั้ง และยินดีที่ได้พบกัน”

“คยองมิน…”

น้ำเสียงของเขาฟังดูภูมิฐานมากขึ้น ต่างจากเมื่อสิบปีก่อน แต่เขาที่ยืนอยู่ต่อหน้าฉันยังคงเป็นเขาที่ฉันได้เจอตอนที่เราอายุเท่ากัน ตอนที่เราอายุสิบแปดปี

“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง องค์ชายรัชทายาท”

วันที่หิมะแรกตกในฤดูหนาว ปี 1601 ฉันได้พบกับองค์ชายควังแฮอีกครั้ง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Jamsai

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com