เมื่อออกจากหน้าแชตก็เห็นข้อความใหม่เข้ามา
จั่นหลิงจวินเอส : แรงกดดันและความโกรธเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ คำแนะนำส่วนตัวก็คือลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ
สุดท้ายก็เห็นจนได้สินะ!
เธอจ่ายเงินเพื่อจ้างหนุ่มโฮสต์คลับแต่กลับกลายเป็นได้หนุ่มหล่อเพอร์เฟ็กต์ที่เลิศเลอจนไม่อาจไขว่คว้าไว้ได้ เซียวเซียวถึงกับพูดอะไรไม่ออกไปครู่ใหญ่ ไม่กล้าส่งข้อความเรื่อยเปื่อยไปอีกแล้ว มือถือยาสำหรับวันนี้แล้วก็เดินลงไปที่ชั้นหนึ่งเพื่อซื้อน้ำแร่ที่ห้องจัดแสดง คงเป็นเพราะตื่นเต้นจนเกินไปจึงกดไปสองครั้งติดกันทำให้ได้น้ำแร่มาสองขวด
เซียวเซียวมองขวดน้ำแร่ในมือพลางถอนหายใจ ก่อนจะถือน้ำแร่สองขวดหลบเข้าไปหลังราวแขวนเสื้อผ้าเพื่อกินยา
“เลื่อนงานแถลงข่าวเกี่ยวกับชุดฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวออกไปอีกสองอาทิตย์ เสื้อผ้าสำเร็จรูปฤดูหนาวที่ออกแบบมาไม่มีจิตวิญญาณแม้แต่น้อย เอาของแบบนี้ออกมาได้ยังไง” เสียงพูดค่อยๆ ดังใกล้เข้ามา นี่เป็นเสียงของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์อย่างอเดอลีนที่เข้มงวดไม่ผิดแน่นอน
“ได้ ตามที่คุณต้องการเลย” น้ำเสียงที่ทำเป็นเล่นไม่จริงจังดังขึ้น ได้ยินก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงของโจวไท่หรานซีอีโอของบริษัท “งั้นคุณคงต้องเหนื่อยหน่อยนะ”
เมื่อทั้งสองเดินไปไกลแล้วเซียวเซียวก็โผล่หน้าออกมาจากราวแขวนเสื้อผ้า จ้องมองด้านหลังของอเดอลีนที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า ความคิดมุทะลุบางอย่างผุดขึ้นมาจากประโยคที่จั่นหลิงจวินทิ้งค้างไว้ ‘ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ’ เธอไม่มีข้อได้เปรียบเรื่องที่มีคนเมตตาเอ็นดูแล้ว หากต้องการจะอยู่ต่อก็ต้องพึ่งตัวเองให้ได้
“เซียวเซียว ผมเห็นหัวหน้าของคุณเดินไปที่ห้องของผู้อำนวยการน่ะ หน้าตาเหมือนกับโกรธใครมาเป็นสิบปี” เสี่ยวจางแผนกการตลาดที่เจอกันในลิฟต์ทักขึ้น
“งั้นเหรอ” เซียวเซียวทำท่าไม่รู้เรื่องรู้ราว เมื่อมองหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของเสี่ยวจางก็รู้ว่าเขาคงเพิ่งกลับมาจากออกไปหาลูกค้า จึงส่งน้ำแร่อีกขวดที่ยังไม่ได้เปิดให้กับเขา “ท่าทางข้างนอกอากาศร้อนมากสินะ”
เสี่ยวจางรับขวดน้ำแร่มาด้วยสีหน้าประหลาดใจแล้วดื่มรวดเดียวครึ่งขวด “เข้าฤดูร้อนแล้ว อากาศร้อนเป็นบ้าเลย น้ำขวดนี้มาได้จังหวะเหมาะจริงๆ ขอบคุณนะเซียวเซียว มีเรื่องอะไรแวะไปหาผมที่ชั้นห้าได้นะ”
เสี่ยวจางเพิ่งมาทำงานที่บริษัทได้ไม่ถึงปีแต่เป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดจึงให้ความสำคัญกับเขามาก ปกติเขาเป็นคนที่ให้ความเป็นกันเองกับทุกคนอยู่แล้ว แต่กลับไม่ค่อยจะมาทักทายกับพวกดีไซเนอร์สักเท่าไร ทว่าเมื่อได้รับความเป็นมิตรจากเซียวเซียวเช่นนี้ เพียงครู่เดียวก็ดูเป็นกันเองขึ้นมาก
จากนั้นเซียวเซียวก็บอกลาเสี่ยวจางและเดินกลับไปที่ห้องออกแบบ เธอวางมือทั้งสองลงบนคีย์บอร์ด หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาหนึ่งจังหวะ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอตัดสินใจตอบโต้คนอื่น ความเครียดนี้ไม่ต่างอะไรกับการยืนอยู่บนหน้าผากระโดดบันจี้จัมพ์ แต่ถ้าเธอไม่ทำ วันข้างหน้าก็จะยิ่งลำบากไปกว่านี้อีก
เซียวเซียวสูดหายใจเข้าลึกแล้วเรียบเรียงเขียนจดหมายลาออกส่งไปทางอีเมลให้ผู้อำนวยการ แล้วก็ซีซีถึงซีอีโอ ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ และอาร์ตแอดไวเซอร์
‘ต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ไม่อาจเป็นดีไซเนอร์ที่เคารพในอาชีพได้ มักจะมาทำงานสายและเป็นภาระให้กับผู้อื่น ขณะที่ไข้ขึ้นสูงสามสิบเก้าองศา ไม่สามารถจะส่งมอบงานให้เสร็จ คิดเพียงแต่จะไปโรงพยาบาลเท่านั้น และเนื่องจากเมื่อคืนสเก็ตช์รูปจนข้ามคืนจึงไม่อาจมาถึงที่ทำงานก่อนเวลาทำงานสิบนาทีได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะดิฉันไม่สามารถจัดการเวลาได้ดีพอ รู้สึกละอายแก่ใจเป็นอย่างมาก สำหรับคำสั่งสอนของหัวหน้าดิฉันจะระลึกไว้ในใจ ดิฉันขอน้อมรับการลงโทษในทุกกรณี’
ขณะที่อเดอลีนกำลังโมโหเรื่องเสื้อผ้าฤดูหนาวอยู่ที่ชั้นบนของห้องออกแบบ เธอก็หันกลับมาเห็นอีเมลฉบับนั้น
“ไข้ขึ้นสูงแล้วยังทำงานต่อ? ต้องมาทำงานก่อนเวลาสิบนาที? โอ้มายก็อด! ที่นี่เป็นบริษัทแฟชั่นเฮ้าส์หรือเป็นคุกกันแน่ มิน่าล่ะงานของซีซั่นใหม่ถึงได้ออกมาดูไม่ได้”
(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 4 พ.ย. 62)