เดิมทีฉินย่าหนานกำลังจะโมโห แต่เมื่อหันมาเห็นว่าคนที่ผลักตัวเองเป็นเหลียงจิ้งเหยาจึงไม่กล้าพูดอะไร แม้ว่าตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันแต่เธอก็รู้จักเหลียงจิ้งเหยา และก็รู้ว่าเหลียงจิ้งเหยาคือคุณหนูใหญ่ของต้าเหลียงช่วงซื่อ
“พวกเราแค่ล้อเล่นกันน่ะ” โจวเชี่ยนเข้าไปพยุงฉินย่าหนานแล้วรีบแก้ตัว “ฉันก็พูดจาแบบนี้ เซียวเซียว แกก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ อยู่ๆ ทำไมถึงโมโหขึ้นมาล่ะ”
เซียวเซียวหัวเราะหึๆ “ฉันก็ไม่ได้โมโหอะไรนี่ ยายนมลูกโป่ง” พูดจบเธอก็ลากเหลียงจิ้งเหยาเดินออกไป
นม…ลูกโป่ง นมลูกโป่ง?!
โจวเชี่ยนโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่เหลียงจิ้งเหยายังอยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่อาจจะตามไปเอาเรื่องได้ จึงได้แต่ยืนระงับสติอารมณ์
“อยู่ๆ ทำไมถึงได้กัดยายนั่นแบบนั้น” คนรอบๆ พากันหันมามองพวกเธอ ฉินย่าหนานรู้สึกขายหน้าจึงรีบลากโจวเชี่ยนมายืนตรงมุมห้อง
“ก็เพราะแกไง ฉันเห็นท่าทางของแม่นั่นแล้วก็โมโหแทนแกขึ้นมา” โจวเชี่ยนยังโมโหอยู่ เธอพูดจาด้วยท่าทางที่ไม่อาจทนต่อความอยุติธรรมได้ แต่สาเหตุจริงๆ เป็นเพราะอะไรมีเพียงแต่เธอเท่านั้นที่รู้ ตอนเรียนมัธยมต้นเธอมีหน้าอกใหญ่มาก จึงถูกเพื่อนนักเรียนล้อเลียนบ่อยครั้ง แม้ว่าเมื่อโตแล้วหน้าอกใหญ่จะกลายเป็นข้อดี แต่เธอก็ไม่ชอบให้คนที่สวยและหน้าอกเล็กมาพูดเรื่องนี้ เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกหัวเราะเยาะ
“เหยาเหยา แกมาได้ยังไง” ด้านเซียวเซียวเมื่อแยกจากสองคนนั้นแล้วก็แสดงความดีใจที่เห็นเพื่อนรักมาให้กำลังใจออกมาทันที
“ดูนี่” เหลียงจิ้งเหยาหยิบป้ายเจ้าหน้าที่ออกมาจากกระเป๋าแล้วแขวนคล้องคอไว้ ด้านหน้าเขียนว่า ‘ตัวแทนจากต้าเหลียงช่วงซื่อ ผู้สนับสนุน’
“ต้าเหลียงช่วงซื่อเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันด้วยเหรอ” เซียวเซียวหยิบป้ายมาดู
“อืม ฉันพูดอยู่ตั้งนานกว่าพ่อจะยอมให้ฉันมางานนี้เพื่อมาเชียร์แกโดยเฉพาะ พอใจไหม” เหลียงจิ้งเหยาทำท่าโอ้อวดพลางเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ
“พระเจ้า ฉันซึ้งใจมาก” เซียวเซียวแกล้งทำท่าซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ก่อนจะกอดและหอมแก้มเหลียงจิ้งเหยาไปแรงๆ ทีหนึ่ง
“อี๋…อย่ามาทำหน้าฉันเลอะนะ” เหลียงจิ้งเหยาทำท่าเช็ดหน้าอย่างรังเกียจ จากนั้นก็รื้อของในกระเป๋าออกมา มีทั้งยาอม น้ำแร่ เครื่องสำอาง และยังมีขนมปังอีกสองชิ้นใหญ่ ตามที่เธอได้รับข้อมูลภายในมา การแข่งขันรอบนี้จะยืดยาวไปทั้งวัน โดยใช้วิธีการจับสลากในการจัดลำดับ ถ้าโชคไม่ดีเซียวเซียวอาจจะต้องรอถึงตอนบ่าย
พอเซียวเซียวเห็นอีกฝ่ายยื่นขนมปังให้ก็ยิ่งซาบซึ้งใจจนจะร้องไห้ “ถ้าแกเป็นผู้ชาย ฉันคงจะใช้ร่างกายเพื่อตอบแทนตั้งแต่แรกแล้ว”
“ใครอยากจะแต่งกับแก ทั้งขี้เกียจทั้งตะกละ ตู้เสื้อผ้าก็รกอย่างนั้น” เหลียงจิ้งเหยาแสดงท่ารังเกียจ ทำท่าคิดแล้วก็พูดเพิ่มอีกประโยค “แล้วยังตาถั่วชอบอสรพิษจั่นหลิงจวินอีก”
เซียวเซียวอึ้งไปชั่วขณะ “…”
ฉันมอบใจให้แก่เขาไปแล้ว แต่เขาจะคิดเหมือนกันไหมยังไม่รู้เลย…