จากนั้นก็ส่งรูปที่เขาถ่ายด้านหลังของสาวอ้วนคนหนึ่งในขณะที่เดินถนนตามมาทันที สาวอ้วนคนนั้นมีขนาดตัวเท่าซ่งถังสองคนรวมกัน ในมือยังถือถุงไก่ทอดเดินไปกินไปอีกด้วย
เซียวเซียวหยิบมันฝรั่งทอดที่เพิ่งเข้าไปในปากออกมา
ยามนั้นเองโม่จิงจิงนักจิตวิทยาก็แชร์ลิงก์ ‘ไม่หิวแต่ยังอยากกิน สาเหตุทางด้านจิตใจควรค่าแก่การศึกษา’ มา
แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ…
เซียวเซียวมองถุงมันฝรั่งที่เธอเพิ่งเปิดออกอย่างเสียดาย
กินแค่แผ่นเดียวคงไม่เป็นไรหรอก กรุบๆ อร่อยจังเลย
เซียวเซียวไม่ได้กินขนมกรุบกรอบมานาน รู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาแทบจะไหล ทว่าวันมะรืนก็คือวันแข่งขันรอบรองชนะเลิศ เพื่อความงามในวันนั้นเธอจึงยอมตัดใจปิดถุงมันฝรั่งทอด แล้วหยิบแอปเปิ้ลที่อยู่ในตู้เย็นออกมากินแทน
พอกลับมาเปิดโทรศัพท์อีกทีก็พบข้อความขอเป็นเพื่อนจากหานตงอวี่
หานตงอวี่?!
เซียวเซียวเกือบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว เพราะตอนนี้หัวใจของเธอมีแต่จั่นหลิงจวินเพียงคนเดียว แฟนเก่าอะไรนั่นก็ถูกลบออกจากความทรงจำไปจนหมดสิ้น
แต่จะว่าไปหานตงอวี่ก็ไม่ได้ทำผิดอะไรมากมาย เขาก็แค่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่รู้จักดูแลเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เรื่องของตัวเองต้องมาก่อนเสมอ ตอนเธอนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เธอก็รู้สึกโกรธเขาอยู่บ้าง ต่อมาเมื่อคิดได้ก็ไม่ได้ติดใจอะไรและไม่ได้มีอารมณ์โกรธด้วย ก็เหมือนลมพัดเมฆหมอกให้สลายไปเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โกรธแค้นอะไรเขาแล้ว แต่เซียวเซียวก็ไม่ได้มีนิสัยที่จะติดต่อแฟนเก่าอยู่ ช่องทางการติดต่อก็ลบไปตั้งนานแล้ว แล้วก็ไม่มีทางจะเพิ่มกลับมาด้วย จึงกดปฏิเสธทันทีแล้วกินแอปเปิ้ลต่อ
กริ๊งๆๆๆ
ฉับพลันโทรศัพท์ก็มีเสียงเรียกเข้า เป็นหมายเลขที่เซียวเซียวไม่รู้จัก เมื่อกดรับสายเธอก็ได้ยินเสียงดนตรีดังกระหึ่มมาตามสาย
“เซียวเซียว ฉันเองนะ” เสียงเหมือนคนเมาของหานตงอวี่ดังขึ้น
เซียวเซียวขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจและคิดจะวางสาย แต่ก็รู้สึกว่าเป็นการเสียมารยาทจึงเอ่ยปากต่อไป “มีอะไรหรือเปล่า”
“ฉันเรียนจบแล้ว เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วด้วย ตอนนี้มาฝึกงานที่ปักกิ่ง” หานตงอวี่สูดจมูก “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอ ฉันเรียนจบแล้วอยากจะให้หางานทำที่ปักกิ่ง”
ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนอยู่กันคนละเมือง หานตงอวี่คิดอยากจะอยู่ในเมืองที่ตัวเองเรียนหนังสือนั้นต่อไป อยากให้เซียวเซียวลาออกจากงานแล้วไปทำงานที่เมืองนั้น แต่เซียวเซียวไม่ยอม และยังหวังว่าหานตงอวี่จะมาทำงานที่ปักกิ่ง ตอนคบกันอย่างไรก็ไม่ยอมมา เมื่อเลิกกันแล้วก็ทำได้ทันที นี่คิดจะประชดกันใช่ไหม
เซียวเซียวไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งใจอะไร “อ้อ ยินดีด้วยนะ”
หานตงอวี่ไม่คิดว่าเธอจะเย็นชาเช่นนี้ จึงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันมาร้องคาราโอเกะกับเพื่อนๆ เธอมาร้องเพลงด้วยกันนะ”
เซียวเซียวนับถือความคิดของผู้ชายที่เห็นตัวเองเป็นใหญ่คนนี้จริงๆ ตอนนี้ก็สามทุ่มเข้าไปแล้ว จะให้เธอไปร้านคาราโอเกะที่ไม่รู้จักเพียงลำพัง ไปร้องเพลงกับกลุ่มผู้ชายที่ไม่รู้จัก ช่างเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ “ไม่ไป ถ้าไม่มีอะไรฉันวางสายแล้วนะ”
หานตงอวี่ได้ยินเธอปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยก็โมโหขึ้นมา “ผู้หญิงที่ทำงานมานานแล้วแบบพวกเธอ ไม่ใช่ว่าทุกคืนก็จะไปอยู่ในผับในบาร์เหรอ ทำเป็นคนดีไปได้”
“ไสหัวไปซะ!” เซียวเซียวเดือดขึ้นมาและกดวางสายไปในทันที
ทว่าหานตงอวี่ก็ยังโทรกลับมาอีก เซียวเซียวจึงกดตัดสายทิ้ง โทรติดต่อกันสามครั้งเธอก็กดทิ้งทั้งหมด เซียวเซียวโมโหมาก โทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้ไม่มีการทําแบล็กลิสต์ เธอจึงกดปิดเครื่องเสียเลย
หานตงอวี่โทรติดต่อเซียวเซียวไม่ได้จึงเปิดรายชื่อในมือถือคิดจะโทรหาเหลียงจิ้งเหยาเพื่อนสนิทของเซียวเซียว เมื่อคิดถึงคุณหนูที่พูดจาโผงผางคนนั้นแล้วก็รู้สึกสยอง จึงกดเลื่อนต่อไปจนกระทั่งเจอชื่อโจวเชี่ยน
ส่วนเซียวเซียวก็ไม่ได้สนใจอีกว่าหานตงอวี่จะทำอะไร
(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 11 พ.ย. 62)