เซียวเซียวเดินออกจากบริษัทอย่างหงุดหงิด ไม่คิดจะกลับบ้าน เตรียมตัวจะไปที่ซังอวี๋เพื่อออกกําลังกายระบายความเครียดออกมา
เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมายืนรอที่สี่แยกไฟแดง สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นรถเข็นคันหนึ่งเคลื่อนผ่านไป
เด็กหนุ่มที่สูญเสียขาทั้งสองข้างอยู่ในชุดกีฬาหลวมๆ ออกแรงหมุนล้อรถเข็น ขณะที่แม่ของเขายังอยู่ที่ร้านขายของเล็กๆ ข้างถนน ไม่ได้สังเกตว่าลูกชายของตนเองได้ออกมาไกลแล้ว
ตรงนี้เป็นถนนสายหลัก รถจะวิ่งด้วยความเร็วสูง รถเข็นพลันลื่นไหลไปตามทางลาดเอียงพุ่งไปยังถนนด้วยความรวดเร็ว
ชุดกีฬากับขากางเกงว่างเปล่าอันคุ้นตาทำให้เซียวเซียวอดที่จะเหลือบตามองอีกครั้งไม่ได้
นั่นมันเด็กหนุ่มที่เจอที่สโมสรซังอวี๋วันนั้น!
‘เขาอยู่ในช่วงภาวะซึมเศร้า พวกคุณต้องคอยสังเกตเขาให้ดีๆ’ เสียงเตือนของจั่นหลิงจวินดังขึ้นในหัวของเธอทันที
ผู้คนที่เดินอยู่ตามถนนไม่มีใครสังเกตเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งนิ่งเงียบอยู่บนรถเข็น จนกระทั่งรถเข็นพุ่งออกไปถึงได้มีคนกรีดร้องขึ้นมา
เซียวเซียวโยนขนมและน้ำในมือทิ้งก่อนจะพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู
เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง แม่ของเด็กหนุ่มซึ่งกำลังก้มหน้าหาเศษเงินในกระเป๋าถึงได้รู้สึกตัวและเงยหน้าขึ้นมา
ขณะเดียวกันห่างออกไปประมาณห้าสิบเมตรก็มีรถบรรทุกสินค้าคันเล็กวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
ในหัวของเซียวเซียวคิดอยู่เพียงอย่างเดียวก็คือโชคดีที่วันนี้สวมรองเท้าส้นแบน รถเข็นอยู่ห่างจากเธอเพียงราวๆ ห้าเมตร ขณะที่คนขับรถบรรทุกไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีรถเข็นพุ่งเข้ามาใกล้จึงไม่ได้ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย ยังคงขับรถพุ่งตรงมาด้วยความเร็ว เซียวเซียวพลันคว้าเท้าแขนของรถเข็นไว้ได้ เธอยืนอยู่ทางด้านข้างของรถเข็น รถเข็นสะบัดหมุนอยู่ตรงนั้นอย่างควบคุมไม่ได้ ลื่นไถลไปยังเลนที่สองครึ่งคัน
เซียวเซียวไม่สนใจอะไรอีก รีบกระชากเด็กหนุ่มลงจากรถเข็น
เอี๊ยด! เสียงรถเบรกดังแสบแก้วหู คนแถวนั้นพากันหลับตาลงโดยอัตโนมัติ รถเก๋งสีเงินคันหนึ่งแซงขึ้นมาจากทางด้านซ้ายแล้วดริฟต์รถจอดขวางอยู่ด้านหน้ารถบรรทุกทันที
ตอนนี้เองคนขับรถบรรทุกที่โยกตัวไปมาตามเสียงดนตรีถึงจะมองเห็นว่าทางด้านหน้ามีสิ่งกีดขวาง จึงเหยียบเบรกอย่างแรงแล้วร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
ตึง! รถบรรทุกชนเข้ากับรถเก๋งข้างหน้า ทำให้ประตูด้านข้างของรถเก๋งบุบเข้าไป
“บ้าเอ๊ย!” คนขับรถบรรทุกดึงเบรกมือขึ้น เมื่อเปิดประตูรถออกมาก็ร้องด่าทันที ก่อนจะเห็นว่าด้านข้างถนนมีคนนั่งอยู่อีกสองคน รถเข็นล้มคว่ำอยู่กลางถนน หญิงวัยกลางคนที่ถือถุงช็อปปิ้งวิ่งร้องไห้พุ่งเข้ามา ฉับพลันเหงื่อก็ไหลออกมาจนเย็นวาบไปทั้งตัว
ชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำก้าวออกมาจากรถเก๋งสีเงินก่อนจะพูดกับเขาว่า “ขอโทษนะ” แล้วรีบเดินไปหาคนที่ล้มอยู่บนพื้นทั้งสองคน
“นี่ลูกคิดจะทำอะไร” หญิงวัยกลางคนกอดเด็กหนุ่มไว้แน่นพร้อมกับร้องไห้ถาม
เซียวเซียวสูดหายใจเข้าลึกแล้วม้วนขากางเกงขึ้นดู หัวเข่าถลอกมีเลือดไหลซึมออกมา
ยังดีที่วันนี้สวมกางเกงขายาว ถ้าสวมกางเกงขาสั้นต้องแย่แน่ๆ
ขณะที่เซียวเซียวกำลังขอบคุณความฉลาดของตัวเอง มือเรียวยาวงดงามก็ยื่นมาตรงหน้าเธอ “ลุกไหวไหม”
เสียงนี้คุ้นหูจัง… จั่นหลิงจวิน?
เซียวเซียวยื่นมือออกไปอย่างงงๆ มือเรียวงามข้างนั้นจับมือเธอไว้แน่นแล้วออกแรงดึงเธอขึ้นมา เมื่อมองเห็นสภาพตรงหน้าจึงรู้ว่ารถเก๋งสีเงินที่จอดขวางหน้ารถบรรทุกไว้ก็คือรถเก๋งของจั่นหลิงจวินนั่นเอง