คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันล้อมวงเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
“คุณแม่ พี่ชายคนนั้นไม่มีขา” เด็กน้อยที่ไม่รู้ประสาร้องตะโกนขึ้น
เด็กหนุ่มพยายามปิดขาที่ขาดของตัวเอง แต่ขากางเกงโล่งๆ ก็ไม่อาจจะช่วยปกปิดอะไรได้
จั่นหลิงจวินเดินไปยกรถเข็นที่ล้มคว่ำอยู่กลางถนนขึ้นมา แม้ที่วางเท้าจะแตก แต่เมื่อเก็บเบาะนั่งซึ่งตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาวางก็ยังพอนั่งได้ จากนั้นเขาก็ก้มตัวลงไปอุ้มเด็กหนุ่มขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร แล้ววางอีกฝ่ายกลับไปนั่งบนรถเข็น ก่อนจะส่งคืนให้กับแม่ของเด็กหนุ่ม
ตำรวจจราจรที่อยู่ใกล้ๆ เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว กระจายผู้คนที่ห้อมล้อมออกไป คืนการจราจรให้เป็นปกติ
นอกจากประตูรถที่โดนชนแล้ว รถของจั่นหลิงจวินก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก ยังสามารถขับได้ เขาจึงขับไปจอดไว้ข้างทางตามคำแนะนำของตำรวจจราจร
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำงานเหรอ ทำไมคุณถึงขับรถมาตรงนี้ได้ล่ะ” เซียวเซียวยืนพิงรถของจั่นหลิงจวินพลางติดพลาสเตอร์ยาให้ตัวเอง แม้ว่าจะช่วยเด็กหนุ่มไว้ได้แต่จุดที่ทั้งสองคนล้มลงนั้นไม่ปลอดภัย โชคดีที่คนตรงหน้านี้มาได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกรถบรรทุกทับขาแน่ๆ
จั่นหลิงจวินไม่ได้พูดอะไร เขาหยิบถุงพลาสติกออกมาจากที่นั่งข้างคนขับ ในนั้นมีแก้วชานมที่แตก ชานมไหลหยดออกมา มีฝาแก้วที่เป็นรูปแมว ดูแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นของร้านชานมตรงถนนคนเดินนั่นเอง
ไปที่นั่นเพื่อซื้อชานมจริงๆ น่ะเหรอ!
“แถวนั้นไม่มีร้านชานมเหรอ” เซียวเซียวถามด้วยความประหลาดใจ
“บัตรสามสิบแก้วนั่นยังใช้ไม่หมด” จั่นหลิงจวินพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วโยนถุงชานมทิ้งลงถังขยะไป
“…” เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้นเซียวเซียวก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ค่าน้ำมันที่ขับรถไปกลับก็พอค่าชานมแก้วนี้แล้วมั้ง
เธอรู้สึกเพียงว่ากำลังได้รู้จักตัวตนของจั่นหลิงจวินอีกด้านหนึ่ง
“ผมขับมาดีๆ อยู่ๆ เขาก็พุ่งออกมา คุณตำรวจ คุณตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดได้ ผมไม่ได้ขับรถเกินความเร็วที่กำหนดแน่นอน” คนขับรถบรรทุกรีบอธิบายอย่างร้อนรน ดูก็รู้ว่ารถของจั่นหลิงจวินเป็นรถที่แพงมาก เขาไม่มีเงินที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้อีกฝ่ายอย่างแน่นอน
ในขณะที่ตำรวจจราจรกำลังจัดการเรื่องอุบัติเหตุนี้ รถตำรวจอีกคันก็ขับเข้ามา เมื่อพบเห็นอุบัติเหตุทางท้องถนน ผู้คนมักจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ คนที่รู้ว่าจะต้องโทรหมายเลขหนึ่งหนึ่งสองนั้นน้อยมาก ปกติก็จะโทรหมายเลขหนึ่งหนึ่งศูนย์
หลังจากตำรวจจราจรเข้าใจที่มาที่ไปของเหตุการณ์และจั่นหลิงจวินแสดงออกว่าไม่ต้องการให้คนขับรถบรรทุกชดใช้ ตำรวจจราจรก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่สำหรับเรื่องที่จั่นหลิงจวินขับรถฝ่าฝืนกฎจราจรก็จำเป็นต้องมีบทลงโทษ
“เนื่องจากเป็นการกระทำเพื่อช่วยชีวิตคนจึงละเว้นการลงโทษได้ แต่ต้องให้ทางสถานีตำรวจออกจดหมายรับรองมาก่อนแล้วส่งไปที่แผนกอุบัติเหตุภายในหนึ่งอาทิตย์” ตำรวจจราจรชี้ไปที่ตำรวจซึ่งกำลังลงจากรถ
การฆ่าตัวตายบนท้องถนนหรือการกระโดดตึกตายเป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนและเป็นการขัดขวางความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ ถ้าจะเอาผิดกันขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องรับโทษทางอาญา ทางตำรวจสอบถามผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรรุนแรงแล้วจึงได้พาทั้งสี่คนไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้