“ผู้อำนวยการหลัว” เมื่อเห็นหลัวอวี้กลับมา ฟางเซี่ยงเฉียนก็รีบลุกขึ้นต้อนรับด้วยรอยยิ้ม แต่กลับไม่ได้รับปฏิกิริยาตอบรับใดๆ
หลัวอวี้กลับไปนั่งที่เก้าอี้ประจำตำแหน่ง สีหน้าดำคล้ำและนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
บรรยากาศในห้องกดดันมากขึ้นทุกที ฟางเซี่ยงเฉียนไม่อาจจะนั่งนิ่งๆ อยู่ได้ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากพูด ด้วยในใจประเมินสถานการณ์ไม่ถูกอยู่เหมือนกัน
“เรื่องที่คุณพูดผมรู้หมดแล้ว” หลัวอวี้มองไปทางฟางเซี่ยงเฉียน “ที่ผมดึงคุณเข้ามาก็เพราะเห็นความสามารถในการจัดการของคุณ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะมองพลาดไป”
ใบหน้าเชิดหยิ่งของฟางเซี่ยงเฉียนซีดลงทันที “หมายความว่ายังไงคะ”
“มาถึงที่ทำงานก่อนเวลาสิบนาที? กฎระเบียบเข้มงวด? หน้าที่ความรับผิดชอบชัดเจน?” หลัวอวี้เคาะนิ้วลงบนรายงานการทำงานของฟางเซี่ยงเฉียนแล้วกัดฟันพูดต่อ “ผมอยากจะรู้นักว่าสมองคุณมีปัญหาหรือไง คนพวกนั้นเป็นดีไซเนอร์ ทำงานไม่มีกลางวันกลางคืนเหมือนคนเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ของบริษัทใกล้ๆ เรา บางครั้งเกิดไอเดียขึ้นมาตอนกลางค่ำกลางคืน คุณวางระเบียบเคร่งครัดให้พวกเขาทำงานเหมือนกับทหารแบบนี้ แล้วพวกเขาจะคิดจะทำอะไรออกมาได้ คุณรู้ไหมว่าพนักงานเรียกคุณลับหลังว่ายายแม่มดแก่”
ฟางเซี่ยงเฉียนได้ยินเช่นนั้นหน้าผากก็พลันมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา รู้สึกว่าวันนี้รองเท้าส้นสูงของเธอสูงมาก ขาเธอเริ่มสั่นเล็กน้อย รายละเอียดพวกนั้นผู้อำนวยการรู้แล้ว นั่นแปลว่านอกจากตัวเธอแล้ว ในแผนกยังมีคนของเขาอยู่อีก เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใครเท่านั้นเอง
ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน ฟางเซี่ยงเฉียนถึงได้กลับมาที่ห้องออกแบบด้วยสีหน้าสงบนิ่งจนดูอะไรไม่ออก ก่อนจะเรียกทุกคนประชุมสั้นๆ
“ข้อคิดเห็นของพวกคุณฉันรับรู้แล้ว ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปแผนกของเราจะทำงานแบบยืดหยุ่น ก่อนสิบเอ็ดโมงจะต้องมาถึงที่ทำงาน ทำงานครบแปดชั่วโมงถึงจะเลิกงานได้” ฟางเซี่ยงเฉียนพูดพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆ เมื่อเห็นสายตาของทุกคนที่ไม่อาจปกปิดความยินดีเอาไว้ได้ ในใจก็ให้รู้สึกสะอิดสะเอียน จากนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องทันที “ยังมีอีกเรื่อง การให้เงินโบนัสครึ่งปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงโดยพิจารณาจากการประเมินของหัวหน้าแต่ละระดับ ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานให้ดี”
ตอนที่พูดประโยคนี้สายตาของฟางเซี่ยงเฉียนก็จ้องมองไปที่เซียวเซียวเป็นการตักเตือน
ฟางเซี่ยงเฉียนถือว่าเธอยอมถอยออกมาบ้างแล้วเน้นย้ำอำนาจของตัวเอง น่าจะพอทำให้ดีไซเนอร์ที่พร้อมจะกบฏค่อยๆ สงบลง เธอพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนจะหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินออกไปกินข้าวกลางวัน
เมื่อเธอเดินออกไป คนในห้องต่างพากันโห่ร้องขึ้นมาอย่างดีใจ
“เซียวเซียว คุณเรียกร้องเอาสิทธิของพวกเราคืนมา คืนนี้พวกเราเลี้ยงข้าวคุณนะ” จ้าวเหอผิงพูดขึ้นอย่างยินดี คนอื่นๆ ก็เห็นดีด้วยเช่นกัน
เซียวเซียวยิ้ม “ไม่ต้องหรอก คืนนี้ฉันมีนัดน่ะ”
“ว้าว นี่อย่าบอกนะว่า…” ฉินย่าหนานร้องด้วยความตื่นเต้น “เซียวเซียวมีแฟนใหม่แล้ว”
“นัดเพื่อนจะไปสถานเสริมความงามต่างหากเล่า” เซียวเซียวหาข้ออ้างมากลบเกลื่อน