หลัวอวี้มองไปยังแบบประเมินพนักงานที่วางไว้บนโต๊ะของผู้ช่วย ซึ่งเขาคิดว่าจะเอามาเป็นผลงานแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่จะฆ่าเขาให้ตาย
“เอาแบบประเมินของเธอออกมาซิ” โจวไท่หรานนั่งตัวตรง พูดพร้อมกับหันไปมองผู้ช่วยของหลัวอวี้
ผู้ช่วยก็ไม่กล้าชักช้า รีบเอาแบบประเมินของเซียวเซียวออกมาด้วยความรวดเร็ว
ความสามารถในการสื่อสารบี ความสามารถในการทำงานซี การประเมินจากหัวหน้าแผนก การพูดจาไม่ดี ความสามารถในการทำงานต่ำเนื่องจากสาเหตุส่วนตัว ทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง ผลการประเมินรวมจึงได้ซี
โจวไท่หรานเลื่อนสายตาอ่านต่อไปเรื่อยๆ จนเจอกับ ‘การพูดจาไม่ดี’ เขาเงยหน้ามองเซียวเซียวที่พูดราวกับมีดโกนอาบน้ำผึ้ง ไม่ได้รู้สึกว่าการสื่อสารของเธอมีปัญหา แล้วความสามารถในการทำงานได้ซีก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย ยอดขายรวมอยู่ในอันดับหนึ่งแต่กลับไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้ปรากฏอยู่ นี่เรียกว่ากลั่นแกล้งกันชัดๆ
“ถ้าหากถูกโจมตีด้วยหน้าม้าแล้วตัดสินว่าผลงานและความสามารถในการทำงานของดิฉันมีปัญหา อย่างนั้นต่อไปดิฉันก็จ้างหน้าม้าเพื่อตอบโต้เพื่อนร่วมงานแล้วดูว่าใครมีหน้าม้ามากกว่ากันก็เท่านั้น” เซียวเซียวกอดอกแล้วทำท่าเหมือนนักเลง ทำเอาผู้บริหารที่นั่งอยู่ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง
ในฐานะที่เป็นผู้บริหารมืออาชีพ พวกเขาย่อมรู้ดีว่าเหตุการณ์เช่นนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้จริงๆ เพราะถ้าต้องถูกคัดออก ทุกคนก็ไม่อยากจะเป็นสิบคนสุดท้าย ต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำร้ายคู่ต่อสู้ สุดท้ายผู้ที่สูญเสียมากที่สุดก็คือบริษัท
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบสงัด
“คำร้องเรียนของคุณพวกเรารับมาแล้ว สำหรับเงินโบนัสของคุณจะทำการพิจารณาใหม่ ยังมีเรื่องอื่นอีกไหม” โจวไท่หรานยิ้มให้เซียวเซียวอย่างเป็นกันเอง ความหมายก็คือให้เซียวเซียวกลับไปก่อน ระหว่างนี้ผู้บริหารต้องปรึกษาหารือกัน
“ยังมีอีกเรื่องค่ะ” เซียวเซียวสูดหายใจเข้าลึก “ดิฉันต้องการร้องเรียนคุณฟางเซี่ยงเฉียนหัวหน้าของดิฉัน”
เธอไม่มีสิทธิ์ในการดูตัวเลขยอดขาย ทว่าฟางเซี่ยงเฉียนเป็นหัวหน้าแผนก ย่อมมีสิทธิ์ที่จะดูตัวเลขนั้นได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผลงานจริงๆ เป็นอย่างไร แต่ก็ยังให้ผลการประเมินเธอในเชิงลบ นี่เป็นการถือโอกาสล้างแค้นส่วนตัว
เซียวเซียวทุ่มไปสุดตัว เป้าหมายของเธอไม่เพียงแค่จะเอาเงินกลับคืนมา แต่ยังต้องการล้มฟางเซี่ยงเฉียนด้วย สถานการณ์ในตอนนี้คือ ‘ถ้าเจ้าไม่ตายข้าก็ไม่อาจอยู่ต่อไปได้’
“ปิดบังข้อมูลสำคัญ เจตนาใช้อำนาจตัดเงินโบนัสของพนักงาน สมควรที่จะถูกร้องเรียน” ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาดพูดระบุความผิดของฟางเซี่ยงเฉียนด้วยน้ำเสียงเนิบๆ ก่อนจะเหลือบตามองหลัวอวี้ที่มีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง
อเดอลีนไม่สนใจจะฟังเรื่องนี้อีกต่อไปจึงหันไปพูดขอตัวกับซีอีโอ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องประชุมพร้อมกับเซียวเซียว