หลังจากที่อเดอลีนได้ดูงานของทั้งคู่แล้ว เธอเองก็ชอบ ‘ชุดเดรสสุ่ยซาน’ มากเช่นกัน แต่เมื่อต้องพิจารณาในภาพรวมแล้ว การเลือกคนที่มีความสามารถรอบด้านอย่างเซียวเซียวดูจะเหมาะสมกว่า
“ไม่อย่างนั้นก็เรียกประชุมกันหน่อยไหม ให้สองคนนั้นนำเสนอผลงานของตัวเองแล้วค่อยตัดสินใจอีกที” หลินซือหย่วนที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดออกมา เขาหยิบรูปชุดเดรสสุ่ยซานขึ้นมาชื่นชม “งานนี้มันวิเศษมาก”
อเดอลีนได้ยินแล้วก็ยิ่งรู้สึกเสียดายดอกซานซู่ในชุดเดรสสุ่ยซาน เพราะถ้าเลือกให้เซียวเซียวเป็นเฮดดีไซเนอร์ก็จะต้องตัดงานชิ้นนี้ออกไป เนื่องจากมันไม่เข้ากับงานของเซียวเซียว
“ถ้าอย่างนั้นก็ให้สองคนนั้นมาพรีเซนต์แล้วกัน” จริงๆ แล้วใจของอเดอลีนเอนเอียงไปทางฉินย่าหนาน เธอยังจำได้ว่าในการประชุมครั้งที่แล้วฉินย่าหนานเป็นคนอธิบายหัวข้อนี้ได้ตรงประเด็น ตรงกับความคิดของเธอ ทำให้อเดอลีนเชื่อมั่นในตัวฉินย่าหนานมากขึ้น
เมื่อได้ยินว่าให้พวกเธอทั้งสองคนขึ้นไปพรีเซนต์งาน เซียวเซียวก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องเลือกคนใดคนหนึ่งจากพวกเธอสองคน
“เซียวเซียว แกส่งงานไปกี่แบบ” ฉินย่าหนานเข้ามาถามด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“แปดแบบ” อย่างไรก็ปิดบังไม่ได้อยู่แล้ว อีกสักพักเมื่อเข้าห้องประชุมก็ต้องรู้ เซียวเซียวจึงตอบออกไปอย่างเปิดเผย
“หา! เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” สีหน้าของฉินย่าหนานเปลี่ยนไป พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเบื้องบนยังต้องพิจารณาเซียวเซียวด้วย น่าจะรู้สึกว่าเซียวเซียวทำงานมีประสิทธิภาพสูง “เซียวเซียว ฉันปรึกษาอะไรกับแกหน่อยสิ ครั้งนี้แกยกตำแหน่งเฮดดีไซเนอร์ให้ฉันได้ไหม”
เซียวเซียวกำลังคิดถึงว่าจะพูดเกี่ยวกับงานอย่างไร อยู่ๆ ก็ได้ยินคำพูดนี้จึงเงยหน้าขึ้นมองฉินย่าหนานอย่างไม่เชื่อสายตา “แกว่าอะไรนะ”
นี่ไม่ใช่แค่ไม้บรรทัดโค้งหรือออเดิฟจานเล็กๆ นะ แต่เป็นตำแหน่งเฮดดีไซเนอร์ มันเกี่ยวพันถึงเงินโบนัสสามเท่าหรือมากกว่านั้น ผู้หญิงคนนี้ยังจะกล้าเอ่ยปากขอเธอ?
“แกเข้ามาบริษัทนี้เพราะได้ตำแหน่งแชมป์การออกแบบระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ฉันอยู่ที่นี่ก็แทบจะไม่มีตัวตน ฉันต้องการโอกาสนี้จริงๆ” ดูเหมือนฉินย่าหนานจะไม่ได้รู้สึกว่าคำขอของตัวเองนั้นมากเกินไป เธอเกาะแขนเซียวเซียวขอร้องเหมือนเด็กๆ “ในแผนกออกแบบนี้มีแค่เราสองคนที่มีความสามารถชัดเจน พวกเราสลับกันเป็นเฮดดีไซเนอร์คนละซีซั่นได้ไหม”
คำพูดนี้ฟังดูก็สมเหตุสมผล แต่เมื่อคิดทบทวนดีๆ แล้ว ถ้าจะสลับกันคนละซีซั่นจริง ทำไมเธอจะต้องยกซีซั่นนี้ให้กับฉินย่าหนานด้วย นี่มันเกมหลอกเด็กชัดๆ หน้าตาของเธอเหมือนกับคนปัญญาอ่อนหรือไง เซียวเซียวรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอัดแน่นอยู่ในอก ทั้งหงุดหงิดและสะอิดสะเอียนเต็มที
“ก็ดีนะ” เซียวเซียวนิ่งไปครู่ใหญ่แล้วอยู่ๆ ก็ตอบรับขึ้นมา ทำเอาฉินย่าหนานมองด้วยความประหลาดใจและดีใจ “ซีซั่นนี้เป็นฉันก่อน ซีซั่นถัดไปก็เป็นแกแล้วกัน”
ฉินย่าหนานยิ้มค้าง “เอ่อ ไม่ใช่…”
“ย่าหนาน” อยู่ๆ เซียวเซียวก็คว้ามือของฉินย่าหนานมากุมเอาไว้ แล้วทำท่าทางน่าสงสารพลางพูดเสียงเบาว่า “แกก็รู้นี่ว่าก่อนหน้านี้ฉันเข้าโรงพยาบาลหมดเงินไปเยอะมาก แต่ประกันสุขภาพก็ยังไม่ได้จ่ายคืนมา แล้วฉันยังต้องจ่ายค่าเช่าห้องอีก ฉันต้องการใช้เงินมากนะ เพราะฉะนั้นโอกาสนี้มันก็สำคัญกับฉันมากเหมือนกัน”
หน้าผากของฉินย่าหนานมีเหงื่อซึมออกมาบางๆ อีกฝ่ายพูดถึงขนาดนี้แล้วเธอก็คงไม่อาจจะเอ่ยปากขอให้เซียวเซียวยกโอกาสนี้ให้กับเธอได้อีก และเธอก็ไม่มีทางยอมให้เซียวเซียวเช่นกัน
“ช่างเถอะ ดูท่าทางแกก็ต้องการโอกาสนี้มากเหมือนกัน ฉันไม่ทำให้แกลำบากใจหรอก เราแข่งขันกันอย่างยุติธรรมเถอะ” เซียวเซียวมองฉินย่าหนานที่กำลังสับสนก่อนจะเอ่ยปากขึ้น
“ได้” ฉินย่าหนานถึงยิ้มออกมาได้แล้วจึงเดินจากไป
เซียวเซียวเหลือบตามองบน จากนั้นก็เปิดดูผลงานที่ตัวเองออกแบบพร้อมกับเตรียมคำพูดที่จะใช้นำเสนอผลงาน