บทที่ 2
เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่ตกหลุมรักเมืองนี้
อย่างที่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะไม่ตกหลุมรักในเมืองนี้
“แล้วระหว่างเธอกับอากาเมื่อคืนนี่ยังไงเหรอ” ไรยากับเอรินตื่นขึ้นจนได้ในตอนเที่ยงของวันถัดมา และนั่นคือคำถามแรกที่ออกมาจากปากเอริน ดวงตาของเธอเป็นประกายอย่างมีเลศนัย
“ก็ไม่ยังไง” ไรยาตอบกลั้วหัวเราะ “ทำไมถามแบบนั้น”
“ก็แค่สงสัย เมื่อคืนเธอสองคนดูเข้ากันได้ดีนี่”
“เราแค่คุยกันเฉยๆ ไม่มีอะไรโรแมนติกทั้งนั้นแหละ”
“อ้ออออ” ถ้าเอริน ‘อ้ออออ’ ยาวแบบนี้ แสดงว่าเธอมีคำถามอื่นๆ ที่อยากจะถามมากกว่านี้แน่นอน
ไรยาเลือกที่จะเมินเอรินแล้วเปิดเครื่องชงกาแฟ เช้านี้ขอสองแก้วเป็นอย่างต่ำ
“รู้ไหม เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีได้นะ”
“ฮะ?” ไรยามองเอรินงงๆ
“ฟังนะ เมื่อวันก่อนฉันเสิร์ช ‘วิธีเอาตัวรอดจากสภาวะเขียนไม่ออก’ ในกูเกิลมา ฉันรู้ๆ ฉันแค่สงสัยน่ะ ฉันรู้สึกแย่ที่เห็นเธอนั่งเครียดหน้าแล็ปท็อปแบบนั้น เลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง คืองี้ ฉันเจอบทความหนึ่งบอกว่านักเขียนหาแรงบันดาลใจจากเรื่องราวความรักของตัวเองได้ ถ้านักเขียนตกหลุมรัก ซึ่งก็คือถ้าเธอตกหลุมรัก เธอจะมีแรงบันดาลใจมากมายที่เอามาใส่ลงในงานเขียนได้ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ถึงเป็นเรื่องที่ดีได้ไง”
“แหมมม ปลื้มใจจัง เธอรักฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ไรยาพูด จุ๊บแก้มเอรินไปหนึ่งที
“นี่ ฉันรู้แล้ว!” จู่ๆ เอรินก็ร้องเสียงแหลมขึ้นมา
“อะไร”
“ฉันรู้แล้วว่าจะช่วยให้เธอกลับมาเขียนได้ยังไง มาหาคู่เดตให้เธอกันดีกว่า! เธอจะได้มีความรักฉบับเร่าร้อนสไตล์นิวยอร์ก หลังจากนั้นฉันมั่นใจเลยว่าเธอจะกลับมาเขียนได้อีกแน่!” เอรินบอก ตาเป็นประกายอีกรอบ
ให้ตายเถอะ เอาจริงเหรอ ไรยาหัวเราะ “อะไรเนี่ย…เธอบ้าไปแล้ว”
“ฉันจริงจังนะ! มาเริ่มกันเลย!” เอรินนั่งลงที่โต๊ะในครัว แกว่งขาไปมาด้วยความตื่นเต้น “ไหนดูซิ อืม เริ่มจากลิสต์เพื่อนๆ ของฉันที่ยังโสดอยู่ละกัน อากา…เธอชอบเขาไหม หรือว่าเท็ดดี้ดี ดาน่าเหรอ แต่เขาดูจริงจังไปหน่อยแฮะ เธออยากเดตกับคนอินโดนีเซียหรือคนอเมริกันอะ มาร์กก็ดีนะ เธอจำเขาได้ใช่ไหม คนที่เล่นเปียโนเมื่อคืนไง หรือว่าจอห์น ไม่ดีกว่า เขาน่าจะเป็นเกย์ หรืออีธาน คือเขาก็ไม่ได้โสดหรอกแต่ฉันไม่ชอบแฟนเขาเท่าไหร่ เราจัดการเรื่องนั้นได้เสมอ!”
“นี่!” ไรยาร้อง กลั้นหัวเราะไม่ไหว เอรินเสียสติไปแล้ว
“โอเค เอางี้ดีไหม ฉันจะจัดมื้อสายสไตล์นิวยอร์กในอพาร์ตเมนต์ของเราในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เราจะ…”
“ที่รัก เธอจะแนะนำฉันให้หนุ่มสักคนแล้วคาดหวังให้เราตกหลุมรักกันง่ายๆ แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”
“อย่าคิดมากน่า มองว่าเป็นการค้นคว้าสิ นอนกับหนุ่มสักคนแล้วก็ดึงอะไรสักอย่างมาเขียน ตู้ม ต้าม แล้วก็หนีไปเหมือนในหนังสายลับไง”
“ทานโทษนะ พอดีฉันไม่ใช่สายลับ และอีกอย่าง เราไม่ควรล้อเล่นกับหัวใจคนอื่นด้วย”
“ใครเขาพูดเรื่องหัวใจกัน ใช้แค่ร่างกายก็พอแล้ว”
“จะบ้าเหรอ!” ไรยาอุทานพร้อมหัวเราะ
“คิดไปคิดมา เอาเป็นคนอเมริกันดีกว่า หนุ่มอินโดฯ ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย พวกเขาไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของความสัมพันธ์แค่ชั่วคราวหรอก” เอรินพูดต่อพลางปาดแยมลงบนขนมปังปิ้ง
“ว้าว โอเค หยุดเลย!” ไรยาพูด ยังคงหัวเราะอยู่
เอรินมองมือถือของเธอที่ส่งเสียงปี๊บๆ แจ้งเตือนว่ามีข้อความใหม่ ครู่ต่อมา เธอคลี่ยิ้มแล้วอ่าน “อากาทักมาขอเบอร์เธอแหละ ฉันควรให้ไหม”
“ได้สิ ให้ไปเลย”
“ฉันว่าเขาชอบเธอ” เอรินบอก ล้อไรยาอีกแล้ว “ทำไมฉันไม่แนะนำเธอสองคนให้รู้จักกันเร็วกว่านี้นะ”
“อ่า จะยังไงก็ช่างเถอะ ฉันไปอาบน้ำดีกว่า” ไรยาพูด พลางลุกขึ้นยืน
“เธอจะออกไปไหน”
“ว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย อาจจะบังเอิญเจออะไรสักอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันได้ ไม่รู้สิ”
ที่จริงแล้วไรยาจวนเจียนจะสิ้นหวังเต็มที เธอไม่รู้จะไปหาแรงบันดาลใจ ไอเดีย หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เธอรู้สึกอยากเขียนจากที่ไหน แต่เธอรู้ว่าการนั่งเฉยๆ ในอพาร์ตเมนต์ไม่ช่วยอะไรแน่ๆ
“ให้ตายเถอะ นักเขียนไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลยสินะ ว่าแต่ข้อเท้าเป็นไงบ้าง”
“หายดีแล้ว ไม่เจ็บแล้วล่ะ อยากไปด้วยกันไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบใจที่ชวน วันนี้ฉันจะนอนเอื่อยอยู่บ้าน เธอไม่อยากเห็นฉันออกไปเดินเล่นทั้งๆ ที่ยังเมาค้างหรอก”