เห็นได้ชัดว่าสมองที่หิวโหยของฉันกำลังทำตัวให้เป็นปกติได้อย่างยากลำบาก และนี่ก็เป็นความผิดของเขา ฉันอยากให้เขาไปให้พ้นๆ อย่างด่วนจี๋ ในระยะห่างตามปกติเขาก็น่ารำคาญสุดๆ อยู่แล้ว และมาตอนนี้ เขาอยู่…ตรงนี้เลย ยิ่งหนักหนาสาหัสเข้าไปใหญ่
“ผมมีบางอย่างที่เราเอามาใช้ได้” นิ้วของแอรอนลื่นไหลอยู่เหนือแป้นเม้าส์บนแล็ปท็อประหว่างที่เขาหาสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นเอกสารที่เขากำลังพูดถึงอยู่ “ก่อนออกจากที่ทำงานเก่า พวกเขาให้ผมรวบรวมลิสต์ออกมา เป็นคู่มืออะไรทำนองนั้น น่าจะอยู่แถวนี้ รอเดี๋ยว”
แอรอนพิมพ์และคลิกต่อไป ขณะที่ฉันเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นทุกวินาที ทั้งกับตัวเอง กับเขา กับ…ก็แค่กับทุกอย่างเลย
“แอรอน” ฉันเอ่ยขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เอกสารพีดีเอฟกะพริบเปิดบนหน้าจอของเขาในที่สุด ฉันทำเสียงอ่อนลงพลางคิดว่าบางทีการทำตัวดีที่สุดเท่าที่จะทำได้กับเขาอาจเป็นวิธีจัดการกับเรื่องนี้ก็เป็นได้
“มันดึกแล้ว แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย คุณนำทางให้ฉันแล้ว ทีนี้คุณก็ไปได้แล้วค่ะ” ฉันชี้ไปที่ประตู “ขอบคุณ”
นิ้วที่ฉันยังคงจ้องอยู่เคาะลงบนปุ่มด้วยท่วงท่าสง่างามอีกหนึ่งครั้ง
“มันรวมทุกอย่างไว้อย่างละนิดอย่างละหน่อย ตัวอย่างเวิร์กช็อป แนวคิดหลักสำหรับกิจกรรมและไดนามิกกลุ่ม มีแม้แต่จุดประสงค์ที่ควรคำนึงถึงตลอดด้วย เราไล่ดูตามนี้ได้”
‘เรา’ คำนั้นอีกแล้ว
“ฉันทำเองได้ แบล็กฟอร์ด”
“ผมช่วยได้”
“คุณอาจจะช่วยได้ แต่คุณไม่จำเป็นต้องช่วย ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมคุณถึงเกิดนึกครึ้มพันผ้าคลุมสีแดงเหมือนพ่อหนุ่มเนิร์ดคลาร์ก เคนต์บินเข้ามาในนี้แล้วช่วยกอบกู้โลก แต่ไม่ต้อง ขอบคุณ คุณอาจดูคล้ายเขานิดหน่อย แต่ฉันไม่ใช่สาวน้อยที่กำลังตกอยู่ในอันตราย”
ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือฉันต้องการความช่วยเหลือจริงๆ นั่นแหละ แต่สิ่งที่ฉันทำใจยอมรับไม่ได้เลยก็คือแอรอนคือคนที่ยินดีจะเสนอความช่วยเหลือนั้นให้
เขายืดตัวตรง “พ่อหนุ่มเนิร์ดคลาร์ก เคนต์งั้นเรอะ” คิ้วเขาขมวดมุ่น “นั่นถือว่าเป็นคำชมหรือเปล่า”
ฉันหุบปากทันที
“ไม่ใช่” ฉันกลอกตา แม้เขาอาจจะพูดถูกอยู่หน่อยๆ ก็ตาม
เขาแบบว่าดูคล้ายชายผู้อยู่เบื้องหลังตัวตนลับของซูเปอร์แมนอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่คนที่มีผ้าคลุมนะ แต่เป็นคนที่สวมสูท ทำงานเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น และออกจะดู…เซ็กซี่เล็กน้อยสำหรับพนักงานออฟฟิศ ไม่ใช่ว่าฉันจะยอมรับออกไปดังๆ หรอกนะ ไม่แม้แต่กับโรซี
แอรอนพิจารณาใบหน้าฉันอยู่สองวินาที
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน” เขาพูดขณะที่มุมปากข้างหนึ่งยกขึ้นอย่างเล็กน้อยที่สุดจนแทบจะมองไม่เห็น
ไอ้คู่แฝดคลาร์ก เคนต์จอมโอหัง
“คือมันไม่ใช่คำชมน่ะ” ฉันเอื้อมไปจับเม้าส์ คลิกเปิดแฟ้มขึ้นมาสุ่มๆ “ถ้าเป็นธอร์หรือกัปตันอเมริกาเหรอ ก็อาจเป็นคำชม แต่คุณไม่ใช่คริส อีกอย่างเดี๋ยวนี้ไม่มีใครสนใจซูเปอร์แมนกันแล้วค่ะ คุณเคนต์”
แอรอนทำท่าเหมือนคิดตามคำพูดของฉันอยู่ชั่วครู่ “แต่ก็ฟังเหมือนคุณยังสนใจอยู่นะ”
ระหว่างที่ฉันเมินคำกล่าวนั้น แอรอนก็เดินไปทางด้านหลังฉัน จากนั้นฉันก็มองเขาเดินข้ามห้องทำงานไปยังโต๊ะที่เป็นของชายอีกคนที่ฉันใช้ห้องร่วมด้วยแต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกลับไปตั้งแต่เมื่อหลายชั่วโมงก่อนแล้ว แอรอนใช้มือข้างหนึ่งคว้าเก้าอี้ของชายคนนั้นแล้วลากมาทางฉัน
ฉันกอดอกขณะที่เขาลากเก้าอี้ตัวนั้นมาอยู่ข้างเก้าอี้ของฉัน ก่อนทิ้งร่างอันใหญ่โตของตัวเองลงไปจนมันลั่นเอี๊ยดและทำท่าจะพังเอาง่ายๆ
“คุณกำลังทำอะไรเนี่ย” ฉันถาม
“คุณถามผมไปแล้ว” เขาจ้องฉันด้วยสายตาเบื่อหน่าย “ดูเหมือนว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”
“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของคุณ แบล็กฟอร์ด”
เขาถอนหายใจ “ผมว่าผมเดจาวูอีกแล้ว”
“คุณ” ฉันตะกุกตะกัก จากนั้นจึงส่งเสียงเย้ยหยันอีกครั้ง “ฉัน…เฮอะ”
“คาตาลิน่า” เขาเอ่ย
ฉันล่ะเกลียดเสียงเรียกชื่อของฉันที่ออกจากริมฝีปากของเขาในจังหวะนั้นจริงๆ
“คุณต้องการความช่วยเหลือ ผมเลยช่วยประหยัดเวลาให้เราทั้งคู่ เพราะเราต่างก็รู้ดีว่าคุณจะไม่มีวันขอความช่วยเหลือ”
เขาก็คิดถูก ฉันคงไม่มีทางขอให้แอรอนทำอะไรทั้งนั้น ในเมื่อฉันรู้ว่าเขาคิดกับฉันอย่างไร จะในด้านส่วนตัว หรือด้านหน้าที่การงานก็ไม่สำคัญ ฉันรู้ตัวดีว่าเขาคิดกับฉันอย่างไรตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ฉันเคยได้ยินเขาพูดเองเมื่อหลายเดือนก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าฉันไปได้ยินเข้าก็ตาม ดังนั้น ไม่ล่ะ ฉันขอไม่รับอะไรจากเขาทั้งนั้น ต่อให้นั่นจะทำให้ฉันกลายเป็นพวกอาฆาตแค้นไปด้วยเหมือนกัน เหมือนอย่างที่เขาเป็น ฉันก็ยอม
แอรอนเอนหลังและวางมือลงบนที่วางแขนทั้งสองข้างของเก้าอี้ เสื้อเชิ้ตตึงเปรี๊ยะจากการเคลื่อนไหวนั้นทำให้เนื้อผ้ายืดออกจนน่าดูเกินกว่าที่สายตาของฉันจะไม่เผลอเลื่อนตามไป
ให้ตาย ตาฉันกะพริบปิดชั่ววินาทีหนึ่ง ฉันหิว แล้วฉันก็เหนื่อยกับการรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ อีกทั้งยังทรยศสองตาของตัวเอง และว่ากันตามตรงฉันก็แค่สับสนไปหมด ณ จุดจุดนี้
“เลิกดื้อเสียทีเถอะน่า” เขาว่า
ดื้อ ทำไมล่ะ เพราะฉันไม่ได้ขอให้เขาช่วย แต่ฉันก็ควรจะรับไว้ตอนที่เขาตัดสินใจจะเสนอตัวเข้ามาช่วยงั้นหรือ
ตอนนี้ฉันเดือดขึ้นมาเลย นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ฉันอ้าปากโดยไม่คิด “เพราะอย่างนี้คุณถึงไม่พูดอะไรเลยระหว่างประชุมนั่นที่ฉันโดนโยนทุกอย่างนี้กับเรื่องอื่นๆ ใส่งั้นเรอะ เพราะฉันไม่ได้ขอให้ช่วยงั้นเรอะ เพราะฉันดื้อเกินกว่าจะยอมรับมันหรือไง”
ศีรษะของแอรอนผงะไปข้างหลังเล็กน้อย เขาคงกำลังตกใจที่ฉันยอมรับออกมา