ทดลองอ่าน The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน บทที่ 3 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน

ทดลองอ่าน The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน บทที่ 3

4 of 4หน้าถัดไป

ฉันนึกเสียใจทันทีที่พูดออกไป จริงๆ นะ แต่มันก็โพล่งออกไปราวกับถ้อยคำเหล่านั้นโดนเค้นออกมาจากตัวฉัน

อะไรบางอย่างฉายแวบผ่านสีหน้าจริงจังของเขา “ผมไม่ยักรู้ว่าคุณอยากให้ผมเข้าไปยุ่ง”

ไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครยุ่งเลย ไม่แม้แต่เฮคเตอร์ คนที่ฉันเกือบนับเป็นคนในครอบครัว จนถึงตอนนี้ฉันก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ใช่ ฉันยิ่งกว่าคุ้นชินดีเสียอีกกับความจริงที่ว่าในสถานการณ์ทำนองนี้มันก็มักจะมีคนอยู่สองกลุ่ม พวกคนที่เชื่อว่าการไม่พูดอะไรจะทำให้พวกเขาเป็นกลางกับพวกคนที่เลือกข้าง และบ่อยครั้งก็มักเป็นข้างที่ผิด แน่นอน มันไม่ได้ไร้พิษสงเหมือนความเห็นอันด้อยค่าไม่เคารพคนอื่นที่เจอรัลด์พูดเสมอไป บางครั้งมันก็เลวร้ายกว่านั้นมากๆ ฉันรู้ ฉันเคยประสบด้วยตัวเองเมื่อนานมาแล้ว

ฉันส่ายหน้า ขับไล่ความทรงจำนั้นออกไป “แล้วมันจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเหรอ แอรอน ถ้าฉันขอให้คุณเข้ามาก้าวก่ายน่ะ” ฉันถามเขา ราวกับเขามีหนทางแก้ไขอยู่ในมือทั้งที่แท้จริงแล้วไม่มี ฉันมองดูเขา รู้สึกหัวใจเต้นรัวด้วยความพรั่นพรึง “หรือถ้าฉันบอกคุณว่าฉันเหนื่อยที่ต้องขอแล้ว คุณจะเข้ามายุ่งหรือเปล่าล่ะ”

แอรอนใคร่ครวญดูฉันเงียบๆ เขามองมาทั่วใบหน้าฉันอย่างเกือบระแวดระวัง

แก้มฉันร้อนขึ้นภายใต้สายตาพินิจพิเคราะห์ของเขา ทำให้ฉันยิ่งนึกเสียใจที่พูดออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

“ลืมไปเถอะว่าฉันเคยพูดอะไร โอเคไหม” ฉันเฉมองไปทางอื่น รู้สึกผิดหวังและโกรธตัวเองที่ไปเกรี้ยวกราดใส่แอรอน ในบรรดาคนทั้งหมด ทั้งที่เขาไม่ได้ติดค้างอะไรฉันเลย ไม่แม้แต่อย่างเดียว “ยังไงฉันก็ติดแหง็กอยู่กับงานนี้อยู่ดี มันไม่สำคัญหรอกว่าติดได้ยังไงหรือทำไม” หรือการที่มันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย

แอรอนยืดตัวตรงขึ้น แล้วเอนตัวมาทางฉันเพียงเสี้ยวองศา เขาสูดหายใจเข้าลึกขณะที่ดูเหมือนว่าฉันจะกลั้นหายใจไว้ รอให้เขาพูดอะไรก็ตามที่กลั่นอยู่ในสมองของเขา

“คุณไม่เคยต้องให้ใครมาสู้ในสงครามของคุณ คาตาลิน่า นั่นคือสิ่งหนึ่งที่ผมเคารพที่สุดในตัวคุณ”

ถ้อยคำของเขาส่งผลบางอย่างกับหน้าอกฉัน บางอย่างที่สร้างแรงบีบรัดจนฉันรู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา

แอรอนไม่เคยพูดอะไรทำนองนี้ ไม่ว่าจะกับใคร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่กับฉัน

ฉันอ้าปากเตรียมจะบอกเขาว่ามันไม่สำคัญหรอก บอกว่าฉันไม่สนใจ บอกไปว่าเราแค่เลิกคุยเรื่องนี้กันก็ได้ แต่เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นหยุดฉันไว้

“อย่างไรก็ตาม ผมไม่เคยคิดว่าคุณจะเป็นคนที่นั่งหงอและไม่พยายามสุดฝีมือเมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทาย ไม่ว่าสาเหตุมันจะยุติธรรมหรือไม่ก็ตาม” เขากล่าวพลางหันกลับไปหาแล็ปท็อปของตัวเอง “เพราะฉะนั้น จะยังไงต่อล่ะ”

กรามฉันขบสนิทแน่น

ฉัน…ฉันไม่ได้นั่งหงอเสียหน่อย ฉันไม่ได้กลัวสิ่งนี้ ฉันรู้ว่าฉันทำได้ ฉันแค่…ให้ตาย ฉันแค่ล้ามาก มันยากนะที่จะหาแรงบันดาลใจในยามที่อะไรๆ มันชวนให้หมดแรงขนาดนี้ “ฉันไม่ได้…”

“จะยังไงต่อล่ะ คาตาลิน่า” นิ้วของเขาเคลื่อนไหวไปบนแป้นเม้าส์ของแล็ปท็อปอย่างคล่องแคล่ว “จะคร่ำครวญหรือลงมือทำ”

“ฉันไม่ได้คร่ำครวญเสียหน่อย” ฉันเคือง

ไอ้คู่แฝดคลาร์ก เคนต์จอมทุเรศ

“งั้นเราก็ลงมือทำกัน” เขาโต้กลับ

ฉันมองเขาอย่างเต็มตา ซึมซับภาพกรามของเขาที่ขบเป็นสันด้วยความมุ่งมั่น บางทีอาจเพราะความหงุดหงิดด้วยเช่นกัน

“ไม่มีเราอะไรทั้งนั้น” ฉันกระซิบออกมา

เขาส่ายหน้า และฉันก็สาบานเลยว่าริมฝีปากเขาเผยเงายิ้มอยู่รางๆ ในเสี้ยววินาทีหนึ่ง

“ผมสาบานกับพระเจ้าเลย…” เขาเงยหน้าขึ้น ราวกับอ้อนวอนขอความอดทนจากสวรรค์ “คุณจะรับความช่วยเหลือนี้ เป็นอันจบ” เขาก้มลงเหลือบดูนาฬิกาข้อมือตัวเองพลางถอนหายใจ “ผมไม่มีเวลามานั่งโน้มน้าวคุณทั้งวันหรอกนะ” สีหน้าบึ้งตึงกลับมาแล้ว เขาคืนร่างเป็นแอรอนคนเดิมที่ฉันรู้จัก “เราเสียเวลากันมามากพอแล้ว”

แอรอนหน้าบึ้งคนนี้สิที่ฉันรู้สึกสบายใจด้วย ซึ่งเขาจะไม่เที่ยวพูดอะไรโง่ๆ ไปทั่วอย่างเช่นว่าเขาเคารพฉันหรอก

ทีนี้ก็ถึงตาฉันหน้านิ่วคิ้วขมวดบ้าง ขณะที่ฉันรู้สึกตัวได้ด้วยความเจ็บใจที่ว่าฉันไม่ได้กำลังเตะโด่งแอรอน แบล็กฟอร์ดออกจากห้องทำงานของฉันอีกต่อไปแล้ว

“ผมก็ดื้อพอๆ กับคุณนั่นแหละ” เขาพึมพำพลางพิมพ์บางอย่างลงบนแล็ปท็อป “คุณก็รู้”

ฉันหันกลับไปสนใจหน้าจอแล็ปท็อปของตัวเองและตัดสินใจปล่อยให้เราตกลงทำสัญญาสงบศึกพิลึกๆ นี้กัน แค่เพื่อชื่อเสียงของอินเทค เพื่อสุขภาพจิตของฉันเองด้วย เพราะเขากำลังจะทำให้ฉันเป็นบ้า

ฉันเดาว่าเราคงกลายเป็นไอ้งี่เง่าหน้าเป็นตูดสองคนที่ยอมทนกันและกันไปหนึ่งคืนล่ะมั้ง

“ก็ได้ ฉันจะยอมให้คุณช่วยฉัน ถ้าคุณตั้งใจขนาดนั้น” ฉันบอกเขา พยายามไม่โฟกัสก้อนอารมณ์อุ่นๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นในช่องท้องของฉัน

ก้อนที่ให้ความรู้สึกเหมือนความซาบซึ้งเอามากๆ

เขาชำเลืองมองฉันเร็วๆ ดวงตาฉายแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก “เราจะต้องเริ่มจากศูนย์กันเลย เปิดหน้าว่างขึ้นมาหน้าหนึ่งสิ”

ฉันมองไปทางอื่น พยายามโฟกัสที่หน้าจอของฉัน

เราอยู่กันเงียบๆ สองสามนาทีก่อนที่หางตาของฉันจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว หลังจากนั้นครู่เดียวเขาก็วางบางอย่างลงบนโต๊ะของฉัน ตรงกลางระหว่างเราพอดี

“นี่” ฉันได้ยินเขาพูดอยู่ข้างๆ

ฉันก้มลงมอง สายตาปะทะเข้ากับอะไรบางอย่างที่ห่ออยู่ในกระดาษไข เป็นทรงสี่เหลี่ยมยาวประมาณสามสี่นิ้ว

“อะไรน่ะ” ฉันถามก่อนเลื่อนสายตาไปมองหน้าเขา

“กราโนล่าบาร์” เขาตอบโดยไม่มองฉันพลางพรมนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของตัวเอง “คุณหิว กินซะ”

ฉันมองดูมือทั้งสองข้างของตัวเองยื่นออกไปหาขนมแท่งนั้นโดยอัตโนมัติ ฉันเพ่งมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์หลังแกะห่อกระดาษนั้นออกแล้ว ขนมทำเอง ต้องใช่แน่ๆ เมื่อดูจากสภาพที่ข้าวโอ๊ตอบ ผลไม้แห้ง และถั่วโดนประกอบร่างรวมกัน

ฉันได้ยินเสียงทอดถอนใจยาวนานของแอรอน “ถ้าคุณถามผมว่ามันใส่ยาพิษไว้หรือเปล่าล่ะก็ ผมสาบานเลย…”

“เปล่า” ฉันงึมงำ จากนั้นก็ส่ายหน้า รู้สึกถึงความอึดอัดแปลกๆ ในอกอีกครั้ง ฉันจึงเอาขนมเข้าปาก กัดลงไป และ…กราโนล่าบาร์สวรรค์ชั้นเจ็ด ฉันร้องครางด้วยความสุขี

“เห็นแก่พระเจ้าเถอะ” ชายที่นั่งอยู่ทางขวาของฉันกระซิบพึมพำ

ฉันยักไหล่ สวาปามสิ่งมหัศจรรย์น่าทึ่งที่อุดมไปด้วยน้ำตาลและถั่วนั้นลงไปจนหมด “โทษที คำนั้นควรค่ากับเสียงครางน่ะ”

ฉันมองดูเขาส่ายหน้าระหว่างที่เขาโฟกัสอยู่กับเอกสารบนหน้าจอ ขณะที่ฉันศึกษาโครงหน้าของเขาอยู่ ความรู้สึกแปลกพิลึกไม่คุ้นชินก็ก่อตัวขึ้น และมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการที่ฉันชื่นชมทักษะการอบขนมอันคาดไม่ถึงของเขาด้วย มันเป็นสิ่งอื่น เป็นอะไรที่อบอุ่นซาบซ่านที่ฉันสัมผัสได้รางๆ แวบหนึ่งเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ แต่เวลานี้ฉันอยากเหยียดริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มเสียจริง

ฉันรู้สึกซาบซึ้ง

แอรอน แบล็กฟอร์ด คู่แฝดคลาร์ก เคนต์จอมบึ้งตึงกำลังอยู่ในห้องทำงานของฉัน ช่วยฉัน อีกทั้งยังเอาขนมที่เขาทำเองให้ฉันกิน และฉันก็ดีใจ ถึงขั้นรู้สึกขอบคุณเลยด้วยซ้ำ

“ขอบคุณนะ” คำพูดนั้นเล็ดลอดออกจากริมฝีปากฉัน

แอรอนหันมาเผชิญหน้ากับฉัน แล้วฉันก็เห็นเขาผ่อนคลายลงชั่วแวบหนึ่ง แต่แล้วสายตาเขาก็พลันจ้องไปที่หน้าจอของฉันก่อนจะส่งเสียงเย้ยหยัน

“คุณยังไม่เปิดหน้าว่างอีกเรอะ”

“โอเย้”* ฉันหลุดท้วงเป็นภาษาสเปน “คุณไม่ต้องจู้จี้ขนาดนี้ก็ได้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงเหมือนคุณนี่ คุณเคนต์”

คิ้วของเขาเลิกขึ้นทั้งสองข้าง และเขาก็ดูไม่ได้ประทับใจเลย “ตรงกันข้ามเลย บางคนมีพลังขั้วตรงข้ามด้วยซ้ำ”

“ฮ่า” ฉันกลอกตา “ตลกมาก”

สายตาเขาหันกลับไปหาหน้าจอของตัวเอง “หน้าว่าง และเปิดวันนี้ด้วย ถ้านั่นไม่เป็นการขอที่มากเกินไปล่ะก็”

ค่ำคืนนี้ต้องยาวนานแน่ๆ

* Oye เป็นคำอุทานภาษาสเปน หมายถึงเฮ้ เฮ้ย หรือฟังนะ

 

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 10 .. 66 เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in The Spanish Love Deception แผนลวงสู่ห้วงรักแบบฉบับสเปน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com