ทดลองอ่าน กระบี่คู่หานซาน เล่มที่ 1 บทที่ 16 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน กระบี่คู่หานซาน เล่มที่ 1 บทที่ 16 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

หลังจากนั้นไม่นานนอกประตูก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเอะอะ สานุศิษย์กลุ่มหนึ่งกรูเข้ามาในห้องเรียน ในมือถือห่อผ้าและกระดาษไขสารพัดสี

“สุขสวัสดิ์ยามเช้าอาวุโสเมิ่ง เมื่อคืนท่านไม่ได้มา พวกเราห่อของดีๆ มาให้ท่านกันทั้งนั้น”

“เกาลัดคั่วน้ำตาล งาถั่ว เมล็ดแตงเคล้ามันปู ล้วนแต่ของดี ท่านรีบชิมดู”

ของขบเคี้ยวถูกวางกองไว้เต็มโต๊ะ หนำซ้ำยังมีคนแกะเกาลัดยื่นส่งให้เขาอีก

เมิ่งเสวี่ยหลี่เอ่ยขอบคุณ เขากินจนคิ้วเป็นวงโค้ง สองแก้มบวมตุ่ย ไม่มีท่าทีน่าเกรงขามเยี่ยงผู้อาวุโสเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าคือศิษย์น้องเซียว?” มีคนสังเกตเห็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงผอมที่อยู่ทางด้านหลังเมิ่งเสวี่ยหลี่

จี้เซียวพยักหน้า

เพราะอยากรู้อยากเห็น ทุกคนจึงล้อมวงเข้าไปหมายสนทนาด้วย ทว่าจู่ๆ เสียงตวาดทุ้มต่ำของใครบางคนก็ดังขึ้นที่นอกประตู

“อาวุโสเมิ่งอยู่หรือไม่!”

เสียงนั้นแม้จะไม่ดังนักแต่ก็ซ่อนแฝงไว้ซึ่งพลังปราณ ศิษย์น้องที่เพียรบำเพ็ญอ่อนด้อยต่างรู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมาทันควัน

ผู้บำเพ็ญพรตหนุ่มสี่คนยืนอยู่นอกประตู สวมเกี้ยวครอบผมหยกใส่อาภรณ์ขาว เหน็บกระบี่ไว้ข้างเอว จากการแต่งกายบอกให้รู้ว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นศิษย์ฝ่ายใน

เมิ่งเสวี่ยหลี่ตอบ “ข้าอยู่นี่”

พวกเขาทั้งสี่พิจารณาดูเมิ่งเสวี่ยหลี่อยู่ครู่หนึ่ง เห็นบนโต๊ะเต็มไปด้วยขนมขบเคี้ยวเช่นนั้นก็แอบเผยสีหน้าเหยียดหยันออกมารางๆ

ชายหน้ายาวหนึ่งในผู้บำเพ็ญพรตทั้งสี่กล่าว “เชิญท่านออกไปคุยกันข้างนอกสักครู่”

ขณะที่เมิ่งเสวี่ยหลี่กำลังจะลุกขึ้น เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง “มีเรื่องอันใดก็คุยกันเสียที่นี่เถอะ”

ได้ยินเซียวถิงอวิ๋นพูดเช่นนั้น อวี๋ฉี่ซูก็รู้สึกตัวขึ้นได้ทันที “ทุกคนล้วนกำลังขอคำชี้แนะจากอาวุโสเมิ่งอยู่ ตอนนี้ยังไปที่ใดไม่ได้”

สานุศิษย์คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องรับรู้ได้ถึงบรรยากาศไม่ปกติ พวกเขาต่างพากันลุกขึ้นยืน

ชายหนุ่มหน้ายาวกวาดตามองดูพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา หัวเราะเหยียดหยันออกมาคำหนึ่งก่อนจะพูดกับเมิ่งเสวี่ยหลี่ “พวกข้ารับคำสั่งเจินเหรินเจ้าสำนักให้คอยคุ้มครองอาวุโสเมิ่งตอนอยู่ในแดนสนธยาฮั่นไห่ ในเมื่อมีคำสั่งมาเช่นนี้ พวกเราย่อมต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ จึงใคร่ขอให้ผู้อาวุโสร่วมมือด้วย!”

“อีกไม่ช้าแดนสนธยาฮั่นไห่ก็จะเปิด ในช่วงเวลาจำกัดนี้ขอผู้อาวุโสเตรียมตัวให้พร้อม อย่าได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเสียเปล่า ช่วงนี้พวกเราสี่พี่น้องกำลังร่วมกันฝึกค่ายกระบี่ชุดหนึ่ง นับแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ยามเหม่า ของทุกสามวัน ขอผู้อาวุโสเดินทางไปร่วมการฝึกยังลานสำแดงกระบี่ฝั่งตะวันตก”

ผู้บำเพ็ญพรตอีกคนกล่าวต่อ “ท่านไม่ต้องใช้กระบี่ เพียงหัดย่างก้าวตามการเปลี่ยนแปลงของค่ายกระบี่ให้ทันเท่านั้นก็พอ ถึงตอนนั้นแม้นพบพานศัตรู พวกเราย่อมช่วยคุ้มครองท่านได้”

ยามกล่าวคำว่า ‘คุ้มครอง’ น้ำเสียงของพวกเขากลับแฝงไว้ซึ่งสำเนียงดูแคลน หนำซ้ำก่อนหน้านี้ยังไม่แม้แต่จะแนะนำตัว

เจตนาร้ายใดๆ ในโลกล้วนมีต้นสายปลายเหตุ การคุ้มครองให้เมิ่งเสวี่ยหลี่รอดพ้นการต่อสู้ตลอดเจ็ดวันและสามารถถอนตัวออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้น แปลว่าพวกเขาเองก็ต้องสละสิทธิ์แย่งชิง ละทิ้งการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นยี่สิบปีครั้ง ละทิ้งโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ประจักษ์

พวกเขาทั้งสี่ไม่กล้าปฏิเสธแผนการของเจินเหรินเจ้าสำนัก ไม่กล้าแม้แต่จะเผยความรู้สึกไม่พึงพอใจอันใดออกมา ทำได้เพียงเก็บความเคียดแค้นมาระบายใส่เมิ่งเสวี่ยหลี่

ไม่มีปัญญาปกป้องตัวเองก็ควรอยู่นิ่งๆ บนยอดเขาฉางชุน ไยต้องลำบากคนอื่นด้วย คิดว่าเดินทางไปแดนสนธยาฮั่นไห่ไม่ต่างอันใดกับการเดินทางท่องเที่ยวชมนกชมไม้ยามวสันต์หรือไรกัน

จี้เซียวขมวดคิ้วน้อยๆ

สีหน้าเมิ่งเสวี่ยหลี่ยังคงสงบนิ่งเหมือนเก่า เขาทำเพียงพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่”

ทั้งสี่มองตากันคราหนึ่ง เดิมได้ยินว่าเมิ่งเสวี่ยหลี่ผู้นี้เป็นพวกชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ หากถูกยั่วโมโหโวยวายก่นด่าอะไรออกมา ถึงตอนนั้นพวกเขาย่อมสามารถชิงลงมือร่ำไห้ฟ้องเจ้าสำนัก ประกาศก้องให้รู้กันทั่วว่าอีกฝ่ายไร้เหตุผล ไม่แน่ว่าอาจบอกปัดภารกิจนี้ได้

ยามนี้แผนการล้มเหลว ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คนมากมาย แม้ในใจพวกเขาจะเต็มไปด้วยความรู้สึกคับข้องแต่ไหนเลยยังจะพูดอะไรได้อีก ผู้บำเพ็ญพรตหน้ายาวที่เป็นหัวหน้าประสานมือ

“ไม่รบกวนผู้อาวุโสศึกษาตำราแล้ว พวกข้าขอตัว”

ศิษย์สายตรงทั้งสี่เดินโมโหดุดันจากไปไกล ในห้องเรียนเอ็ดอึงไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์นานา

“อาวุโสเมิ่ง ท่านจะไปแดนสนธยาฮั่นไห่จริงหรือ ท่าทางพวกเขาเหมือนจะพึ่งพาไม่ได้”

“วันหน้ารอให้ข้าได้คำนับอาจารย์ฝึกฝนวิชากระบี่ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นข้าจะคุ้มครองผู้อาวุโสเอง”

“เชอะ ตอนนี้เจ้าเพิ่งฝึกปราณได้แค่ขั้นหนึ่ง กว่าจะได้ฝึกกระบี่ กับข้าวมีหวังเย็นชืดหมดก่อนแล้ว!”

อวี๋ฉี่ซูหันหลังไปเคาะโต๊ะศิษย์น้องเซียว

“ท่าทางของเจ้าเมื่อครู่นับว่าไม่เลว! มีคุณธรรมเช่นนี้อยากเข้าร่วมพรรคยงจี้ตั่งของพวกเราหรือไม่” เขาชี้ไปที่เมิ่งเสวี่ยหลี่กับตัวเอง “วันหน้ามีหัวหน้าพรรคกับรองหัวหน้าพรรคคุ้มครอง วิหารถกสัจธรรมหกห้องเรียนเจ้าจะทำอันใดก็ย่อมได้”

จี้เซียวสงสัย “พรรคอะไร”

อวี๋ฉี่ซูยิ้มจริงใจ เผยให้เห็นฟันขาวราวหิมะ “ขอเพียงเจ้าคอยปกป้องชื่อเสียงของจี้เซียวเจินเหริน พวกเราก็เท่ากับเป็นสหายกัน”

เมิ่งเสวี่ยหลี่โอดครวญอยู่ในใจ โมโหจนนึกอยากมุดหายเข้าไปในกองหิมะ

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com