ทดลองอ่าน กระบี่คู่หานซาน เล่มที่ 1 บทที่ 5 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน กระบี่คู่หานซาน เล่มที่ 1 บทที่ 5 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

บทที่ 5 อุษาไร้เขตขัณฑ์

“อาวุโสเมิ่ง ได้โปรดระงับความโศกเศร้า รักษาสุขภาพด้วย”

“จี้เซียวเจินเหรินถึงแก่มรณกรรม ผู้คนบนโลกล้วนโศกเศร้า พวกเราเดินทางมาที่นี่เพื่อแสดงความเสียใจ หวังว่าเขาจะเดินทางไปสู่สัมปรายภพอย่างสงบ”

หลังเมิ่งเสวี่ยหลี่จุดธูปแสดงคารวะเสร็จ ตัวแทนสำนักอื่นๆ ก็ทยอยเดินขึ้นหน้าเข้ามาแสดงความเสียใจต่อญาติสนิทเพียงหนึ่งเดียวของจี้เซียวเจินเหริน

เมิ่งเสวี่ยหลี่เผชิญหน้ากับเหล่าผู้อาวุโสที่มีอายุมากกว่าเขาหลายสิบเท่า เพียรบำเพ็ญสูงส่งไปถึงไหนต่อไหนอย่างไม่สะทกสะท้าน เจอคนรู้จักคุ้นเคยเขาก็ทักทายโอภาปราศรัยมากหน่อย หากไม่รู้จักเขาก็สังเกตตัดสินฐานะอีกฝ่ายจากเสื้อผ้าวาจาน้ำเสียง มารยาทอันใดล้วนครบถ้วนรอบด้าน คำพูดคำจาไม่มีเผลอไผลพลั้งปาก

ทุกคนในหานซานต่างแอบถอนหายใจโล่งอก นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขามองดูคู่ร่วมบำเพ็ญของจี้เซียวได้อย่างไม่ขัดหูขัดตา เจ้าสำนักรู้สึกปลาบปลื้ม ถ่ายเสียงกล่าวกับเขา “ลำบากเจ้าแล้ว”

เมิ่งเสวี่ยหลี่ตะลึงงัน เรื่องนี้มีอะไรลำบากกัน กลัวก็แต่ละครยังไม่ทันเบิกโรง บทละครสามปีของข้าจะกลับกลายเสียเปล่าก็เท่านั้น

เขาหันมองไปยังป้ายวิญญาณของจี้เซียวที่ตั้งอยู่ด้านบน ทว่าสายตากลับถูกคนผู้หนึ่งบังขวางไว้

คนที่มาสวมอาภรณ์หลวงจีนสีเหลือง ใบหน้าวัยกลางคน ท่าทางอ่อนโยน “อาวุโสเมิ่งมาได้เวลาพอดี อาตมามีเรื่องใคร่ขอคำชี้แนะ”

เมิ่งเสวี่ยหลี่แสดงคารวะน้อยๆ “มิกล้า เชิญสมณะกล่าวมาเถิด”

สมณะคนดังกล่าวพูดขึ้นช้าๆ “อริยกระบี่ถึงแก่มรณกรรม ‘กระบี่อุษาไร้เขตขัณฑ์’ ของเขาอยู่ที่ใด”

ทันทีที่พูดจบ บรรยากาศก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงัดขึ้นมาทันใด

ไม่ว่าจะเจ้าภาพหรือแขก ในใจของทุกคนต่างรู้ดี วันนี้อย่างไรก็ต้องมีการพูดถึงกระบี่อุษาไร้เขตขัณฑ์แน่ เพียงแต่ไม่มีใครนึกถึงว่าอารามหนานหลิงซือที่ไม่ข้องแวะกับทางโลกจะถามออกมาเรียบง่ายตรงประเด็นเช่นนี้

เมิ่งเสวี่ยหลี่หน้าไม่เปลี่ยนสี “มันเป็นของต่างหน้าของคู่ร่วมบำเพ็ญข้า เช่นนั้นย่อมต้องอยู่บนยอดเขาฉางชุน”

ร้อยปีก่อนหมู่มารบุกแดนมนุษย์ หกสำนักใหญ่ทุ่มเทกำลังหลอมอาวุธวิเศษมอบมันแก่จี้เซียวให้เขาใช้รักษาสันติ

พวกเขาใช้เหล็กอุกกาบาตของหมิงเยวี่ยหูเป็นวัตถุดิบ ใช้หินเหล็กไฟกลางแดนดินของเป่ยหมิงซานจุดไฟ ใช้ไม้ศักดิ์สิทธิ์ของซงเฟิงกู่เป็นเชื้อไฟ ใช้น้ำพุวิเศษของหนานหลิงซือชุบไฟกระบี่ มีตราเวทของอู้อิ่นกวนประทับไว้บนตัวกระบี่ ยอดฝีมือจากทุกสำนักต่างมาชุมนุมกันอยู่ที่ผาเจียเทียน ดูจี้เซียวเจินเหรินเปิดเตาหลอมด้วยตนเอง

ตอนสร้างกระบี่สำเร็จโลกหล้ากำลังวุ่นวายด้วยภัยสงคราม ท่ามกลางเหตุร้ายโถมถา ไม่มีผู้ใดเคยคิดมาก่อนว่าหากจี้เซียวไม่อยู่แล้ว กระบี่เล่มนี้จะไปอยู่ที่ใดหรือควรกลับสู่มือผู้ใด

โลกผู้บำเพ็ญพรตมีคำพูดประโยคหนึ่งกล่าวเอาไว้ว่า ‘จี้เซียวตระหง่านเหนือหานซาน ห่างสวรรค์เพียงสามฉื่อ

สาม’ หมายถึงจี้เซียวบำเพ็ญเพียรบรรลุขั้นสูงสุด ยืนอยู่เหนือยอดเขาหานซาน ห่างจากนภาครอบปฐพีเพียงเอื้อม ส่วนกระบี่วิเศษของเขาที่ชื่อ ‘อุษาไร้เขตขัณฑ์’ ตัวกระบี่ก็ยาวสามฉื่อสามพอดีเช่นกัน

จากความเข้าใจเดิมของทุกคน จี้เซียวจะเป็นเจ้าของมันไปตราบนิรันดร์ ไม่ต่างอันใดกับตะวันที่แขวนตัวอยู่เหนือท้องนภา สายธาราที่ไหลลงสู่มหานที

บรรยากาศภายในศาลบรรพชนเปลี่ยนแปลงลึกล้ำ เมิ่งเสวี่ยหลี่สัมผัสได้ถึงสายตาเฉียบคมที่กำลังจับจ้องอยู่บนร่าง เขามองกลับไป ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงผู้หนึ่งกำลังจ้องเขาเขม็ง

“อาวุโสเมิ่งอาจมิรู้ กระบี่เล่มนี้หกสำนักใหญ่ร่วมหล่อหลอม ไม่อาจบอกได้ว่าเป็นของต่างหน้าที่คู่ร่วมบำเพ็ญของท่านทิ้งเอาไว้ให้”

ชายคนดังกล่าวสวมอาภรณ์ผู้ฝึกกระบี่สีครามเข้ม สะพายกระบี่โบราณเล่มหนึ่งไว้บนหลัง สีหน้าเรียบเฉย

เมิ่งเสวี่ยหลี่แสดงคารวะ “ที่แท้ก็อาวุโสแห่งหมิงเยวี่ยหู”

ได้ยินเช่นนั้นผู้คนบนหานซานก็ไม่พึงใจขึ้นมาเล็กๆ เจ้าสำนักเพียงกล่าววาจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ยามนั้นพวกเราร่วมหลอมกระบี่ ชั่วชีวิตของจี้เซียวจับกระบี่ทำศึกเพื่อผู้คนทั่วหล้าจวบจนวันสุดท้าย ท่านมีอันใดไม่ยินยอมกระนั้นหรือ”

ผู้อาวุโสแห่งหมิงเยวี่ยหูไม่คิดเช่นนั้น เขากลับเอ่ยวาจาอย่างทระนงว่า “คนตายก็ส่วนคนตาย ข้านับถือจี้เซียว แต่ไม่นับถือหานซาน”

สานุศิษย์สำนักหมิงเยวี่ยหูในอาภรณ์สีครามกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังเขา ประจันหน้าคุมเชิงอยู่เลาๆ กับสานุศิษย์หานซานในอาภรณ์สีขาว

เจ้าสำนักหานซานกล่าวอย่างเย็นชา “อาวุธวิเศษสิ้นผู้เป็นเจ้าของ หานซานเองก็ใช่ว่าจะละโมบอยากครอบครองของวิเศษ ในเมื่อไม่มีผู้ใดเหมาะกับกระบี่เล่มนี้ เช่นนั้นมิสู้ทำลายมันทิ้งเสีย!”

แค่เพียงครู่ สีหน้าของผู้คนในศาลบรรพชนก็ต่างกลับกลาย

สมณะแห่งอารามหนานหลิงซือยิ้มกล่าว “อุษาไร้เขตขัณฑ์ติดตามจี้เซียวเจินเหรินนานปี ปักใจเลือกผู้เป็นนายนานเนิ่นแล้ว ไหนเลยจะยอมถูกผู้อื่นควบคุมเรียกใช้ สำนักอื่นได้กระบี่ไปก็ใช่ว่าจะใช้มันได้ ตามความคิดเห็นของอาตมา ทางอารามคิดว่าควรนำกระบี่นี้กลับไปหลอมใหม่ สร้างเวทศัสตราขึ้นมาหกชิ้น แบ่งให้กับสำนักทั้งหก เช่นนี้ย่อมเป็นการดีต่อทุกฝ่าย”

เหล่าบรรพชิตที่อยู่รอบกายเขาต่างขานนามพระพุทธองค์ขึ้นพร้อมกัน เสียงกล่าวอมิตาภพุทธดังขึ้นติดๆ

สานุศิษย์หนุ่มจำนวนมากไม่เข้าใจว่าเรื่องราวแท้จริงเป็นเช่นไร บ้างก็ถ่ายเสียงถามพรรคพวกข้างกาย “อารามหนานหลิงซือคิดจะทำอะไรกันแน่ เป็นคนก่อเรื่องขึ้นคนแรกแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับเอ่ยปากแทนหานซาน”

“กระบี่อยู่ในมือผู้ใดล้วนไม่เกี่ยวอันใดกับเหล่าบรรพชิต ทว่าพวกเขาเพียงไม่ปรารถนาจะเห็นหกสำนักต้องห้ำหั่นกันเองเพียงเพื่ออาวุธวิเศษจนผู้คนทั่วหล้าต้องแปดเปื้อนไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ถึงได้ยอมออกหน้าไกล่เกลี่ย ‘ใต้หู เหนือซาน’ จะได้ยอมถอยกันคนละก้าว…น่าเสียดายใจคนแค่ผืนหนังกั้น ผู้ออกบวชไร้ลุ่มหลง เกรงก็แต่ผู้อื่นหายินดีไม่”

“ไต้ซือ กล่าวเช่นนี้หาได้ถูกต้องไม่” ผู้อาวุโสแห่งสำนักอู้อิ่นกวนกล่าว “อาวุธวิเศษสร้างสำเร็จ นั่นย่อมเป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้ พวกเราทุ่มเทเลือดเนื้อแรงกายแรงใจหลอมกระบี่ จะทำลายง่ายๆ ได้เช่นไร หลอมขึ้นใหม่ทำลายสิ่งของตามอำเภอใจ ต่อให้กระบี่อุษาไร้เขตขัณฑ์ไม่ออกจากฝัก อย่างไรก็เป็นอาวุธวิเศษ มีพลังของมันควบคุม ไม่ว่าค่ายเวทใดๆ ย่อมมีอานุภาพเพิ่มพูนหลายสิบเท่า…”

สำนักอู้อิ่นกวนไม่ใช้อาวุธ ทำเพียงศึกษามรรคาเวทสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนต่างรู้ดีว่าที่อีกฝ่ายพูดนั้นล้วนเป็นความจริง

ผู้อาวุโสเขาเป่ยหมิงซานเอ่ยขึ้นว่า “หากอริยกระบี่มีศิษย์สืบทอดวิชา เช่นนั้นกระบี่เล่มนี้ย่อมสมควรส่งต่อให้ผู้เป็นศิษย์ แต่ต่อให้ไม่มี ขอเพียงเขากล่าวมาคำเดียว กระบี่เล่มนี้ก็สมควรตกสู่คนผู้นั้น ถึงตอนนั้นเป่ยหมิงซานของข้าย่อมยินยอมพร้อมใจไม่มีคำพูดอื่นใดอีก! ทว่าอริยกระบี่เคยเอ่ยปากเรื่องนี้หรือไม่”

แม้หานซานจะได้เปรียบที่เป็นเจ้าบ้าน แต่พวกเขาก็ไม่ปรารถนาที่จะแตกหักกับสำนักอื่นๆ พร้อมกันเป็นจำนวนมาก ถึงพวกเขาจะคิดว่าตนมีเหตุผลมากมายที่สามารถอ้างได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดอยากได้ชื่อว่ารบกวนดวงวิญญาณของจี้เซียว

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com