ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 13-14 #นิยายวาย – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 13-14 #นิยายวาย

2 of 2หน้าถัดไป

บทที่ 14

ทัศนคติ

 

ทั้งสองฝั่งต่างเงียบกริบไปครึ่งนาทีเต็มๆ

คุณพ่อหมิงมีร่องลึกตรงหว่างคิ้วสองเส้นซึ่งเกิดจากการขมวดคิ้วบ่อยๆ เป็นเวลาหลายปี แค่มองก็รู้ว่าเป็นชายอาวุโสที่เข้มงวด เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเขาใบหน้าก็เคร่งขรึม เม้มปากอยากพูดอะไรสักอย่างแต่พูดไม่ออก สุดท้ายกล่าวออกมาแค่หนึ่งประโยคว่า “วางสายเถอะ”

เมื่อลู่อวี๋เห็นว่าจะแย่แล้วก็รีบยืนอธิบายตัวตรงแหน็ว “คุณลุง อา…ฮ่าๆ ไม่รู้ว่ากำลังคอลล์กันอยู่ คือว่ามันแบบ…ไม่ใช่อย่างที่คุณลุงคิด…”

ไม่รอให้ลู่อวี๋พูดตะกุกตะกักจบ คุณพ่อหมิงพลันถามเสียงขรึม “อาการอะไร”

หมิงเยี่ยน “ติดเหล้า”

ลู่อวี๋ “ติดโซเชียล”

เสียงทั้งคู่ดังขึ้นพร้อมกัน

คุณพ่อหมิง “…” ร่องตรงหว่างคิ้วลึกขึ้น

ทั้งสองคนรีบกู้สถานการณ์ แก้คำพูด

หมิงเยี่ยน “ติดโซเชียล!”

ลู่อวี๋ “ติดเหล้า!”

คุณพ่อหมิง “…วางสายเถอะ”

หมิงเยี่ยนยกมือข้างหนึ่งปิดหน้า ลู่อวี๋หมุนวนอยู่กับที่เหมือนแฮมสเตอร์ถูกไฟลนก้น “คุณลุง ฟังผมอธิบายก่อน”

ตอนนี้เองบนหน้าจออีกฝั่งก็มีใบหน้าสวยหวานเบียดเข้ามา “สรุปเป็นอะไรกันแน่จ๊ะ โถ่ๆ หนูลู่อวี๋ ป้าไม่ได้จะว่าหนูนะ แต่ขอบตาดำหนูจะยาวลงไปถึงหลังเท้าอยู่แล้ว อย่าไปคิดเรื่องไร้สาระพวกนั้นเลย ดูแลตัวเองด้วยสิจ๊ะ”

หมิงเยี่ยนกระซิบอธิบายกับลู่อวี๋ “นี่แม่ฉัน”

ลู่อวี๋เบิกตากว้าง ไม่คิดว่าแม่ของหมิงเยี่ยนจะตัวเล็กน่ารักแบบนี้ คุณพ่อหมิงดูดุดันตัวสูงใหญ่ คุณแม่หมิงกลับตัวเล็กตัวน้อย ในที่สุดเขาก็รู้ได้สักทีว่าโครงกระดูกเล็กๆ แต่ว่าตัวสูงของหมิงเยี่ยนได้มายังไง

เขารีบยิ้มชี้แจง “คุณป้าครับ ผมแค่นึกคึกอยากล้อเขาเล่นเฉยๆ พวกคุณคุยกันต่อเลยครับ” ว่าพลางก็คุกเข่าลง หายออกไปจากภาพในกล้อง แล้วคลานถอยออกไป

หมิงเยี่ยนหันกลับไปดูเขาคลานกับพื้นพรมอย่างกับกบยักษ์บูลฟร็อกที่สวมแค่ชุดนอน มุมปากก็กระตุกกึกๆ ลู่อวี๋นอนหมอบกับพื้น ยกมือทำสัญญาณในสนามรบบอกว่า ‘สู้ต่อไป’ จากนั้นตัวเองก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติง

ตอนแรกเขาอาการลงแดงกำเริบ แต่ตอนนี้เขาไม่เหลือพลังกายแล้ว

คุณพ่อหมิงยังมีเรื่องที่อยากคุยอีกจริงๆ พอเห็นลู่อวี๋หายตัวไปประหนึ่งลงลิฟต์ก็เงียบครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ฉันไม่สนว่าเธอกำลังเตรียมทำอะไรอยู่ แต่มีอย่างหนึ่ง อาเยี่ยน คำสอนของตระกูลเรา เธอยังจำได้หรือเปล่า”

หมิงเยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ “จงหยัดยืนอย่างซื่อสัตย์ กระทำการอย่างเที่ยงตรงและเปิดเผย”

คุณพ่อหมิงพยักหน้า “เวลาไหนที่คิดไม่ออก ก็ท่องหนึ่งรอบ หลังจากพวกเธอไลฟ์ครั้งแรกจบแล้วก็กลับมาบ้านสักหน่อยนะ”

หมิงเยี่ยน “ครับ”

คุยประเด็นหลักจบแล้ว คุณแม่หมิงก็เบียดกลับเข้ามาเอ่ยแทรก “อาเยี่ยน ตุ๋นแกงนกพิราบกับแกงตะพาบอะไรพวกนี้ให้ลู่อวี๋บำรุงกำลังสักหน่อยสิลูก อายุยังน้อยอยู่แท้ๆ แต่สภาพดันอย่างกับถูกสูบพลังแบบนั้น ไม่ดีเลยนะจ๊ะ”

เธอพูดติดสำเนียงคนเจียงหนาน* แผ่วๆ นุ่มๆ น่าฟังมากๆ

ลู่อวี๋อดไม่ได้ โผล่หัวออกมาครึ่งหนึ่ง “ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมแค่อดนอนเยอะไปหน่อย แค่นอนไวๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว”

“อุ๊ยตาย เสี่ยวลู่ ตกใจหมดเลยจ้ะ” คุณแม่หมิงเอามือตบอกแล้วก็ยิ้มออกมา เผยให้เห็นลักยิ้มมุมปากเล็กๆ สองข้าง “เสี่ยวลู่จ๊ะ ถ้าว่างก็มาบ้านบ้างนะ เดี๋ยวป้าทำลูกนกพิราบย่างให้ทานเนอะ เพิ่งไปศึกษามาเลย อร่อยมากนะ”

ลู่อวี๋พยักหน้าอย่างกับตำกระเทียม “ได้เลยครับ ได้เลย”

หลังวางสาย ลู่อวี๋ที่นั่งอยู่บนพื้นมึนๆ นิดหน่อยว่าทำไมพ่อแม่หมิงเยี่ยนมีท่าทีแบบนี้ คุณพ่อหมิงไม่ต้องพูดถึง คุณแม่หมิงดีกับเขาเกินไปแล้ว อย่างกับว่าเขาเป็นลูกเขยที่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากตระกูลหมิงจริงๆ อย่างนั้นแหละ

หมิงเยี่ยนนั่งยองลงมองเขา ขำขันนิดหน่อย “งั้นนายคิดว่าพวกเขาควรจะทำยังไงล่ะ”

“ยังไงก็ต้องตำหนิเสียงดังใส่สิ” ลู่อวี๋ว่า แล้วโรคโอเวอร์แอ็กติ้งก็กำเริบ เขาชี้ลูกโป่งท่านประธานที่ลอยกลางอากาศ “เจ้าอันธพาลน้อยนี่ อยู่ห่างๆ จากลูกชายของฉันซะ ลูกชายของฉันเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็ก จะเป็นพวกชอบเพศเดียวกันได้ยังไง จะไปถูกพวกกุ๊ยอย่างแกพาเดินผิดทางได้ยังไง! รออยู่นั่น ฉันจะไปหาแก จะไปหักขาสุนัขของแกทิ้งเดี๋ยวนี้!” ว่าพลางก็หันไปหาท่อนไม้ข้างหลังอย่างอินบทบาท

น้องรองถูกเขาปาบทใส่ก็ทำอะไรไม่ถูก ลูกโป่งลูกหนึ่งลอยเออร์เรอร์กลางอากาศไปหลายวินาที โมโหฮึดฮัด “ฉันไม่ได้พาลูกชายคุณเดินผิดทาง ฉันประธานเสิ่นเป็นชายแท้ระดับเพชร ผู้ครองฮาเร็มสาวงามสามพันนางต่างหาก!” จากนั้นก็กระแทกลูกโป่งเงือกอย่างไม่ชอบใจไปทีหนึ่ง แล้วก็ถูกพี่ใหญ่ฟาดหางกลับไปหนึ่งป้าบ

“ฮ่าๆๆๆ” หมิงเยี่ยนโดนจี้เส้นก็นั่งลงกับพื้นไปด้วย ตบๆ ศีรษะลูกหมาของลู่อวี๋ปุๆ “พวกเขา…พวกเขารู้ว่าเราเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกัน ไม่ทำให้นายลำบากใจหรอก”

ลู่อวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่ใช่แค่ไม่โล่งใจขึ้นเลย แต่กลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เขายอมโดนพ่อตาทุบสักยกดีกว่าได้รับความถ่อมตัวแบบนี้ เขาเซ้าซี้อย่างไม่ยอมแพ้ “งั้นที่พ่อเราบอกให้พี่จงหยัดยืนอย่างซื่อสัตย์คืออะไรเหรอ”

คุณพ่อหมิงรู้สึกแคลงใจที่พวกเขาสองคนมีอะไรไม่สุจริต อยากเตือนสติให้หมิงเยี่ยนไม่ทำอะไรสกปรกโสมมหรือเปล่า

หมิงเยี่ยนเหลือบมองเขา

ลู่อวี๋ใจฝ่อ กระแอมแห้งหนึ่งที “แค่กๆ แบบ…เราสองคนแต่งงานกันแล้ว พ่อพี่ก็คือพ่อของผมเหมือนกัน มีผลยอมรับทางกฎหมาย”

หมิงเยี่ยนไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา “ก็แค่บอกให้ฉันไม่แกล้งนายนั่นแหละ”

ลู่อวี๋ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันใด คิดไว้แล้วเชียว พ่อตาช่างมีนัยน์ตาทิพย์สุวรรณอัคคี* มองออกว่าพวกเขามีอะไรไม่บริสุทธิ์ เขาจะทำเป็นโดนรังแกแล้วไปฟ้องเพื่อทวงหาความเป็นธรรมดีไหม ยังไงเขาก็เด็กกว่าหมิงเยี่ยน ดูเหมือนเขาเสียเปรียบมากๆ ด้วย

ไม่ได้!

ลู่อวี๋หันหน้าไปมองหมิงเยี่ยน เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าเหมือนใจลอยไปไกล ก็มองออกเลยว่ากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ คำพูดเมื่อกี้ก็คงแค่จะหลอกเขาเฉยๆ เขาทำทีเป็นถอนหายใจอย่างสมบทบาท “ลู่ต้าอวี๋นี่น้า เหลวแหลกจนน่าเวทนา ขนาดพ่อตายังไม่อยากตีนายเลย”

“ปะป๊า ทำไมถึงอยากให้พ่อตาตีล่ะครับ” ลูกโป่งเงือกลอยเข้ามาถามอย่างไม่เข้าใจ ปกติแล้วการฝึกสมองอัจฉริยะ ผู้ฝึกจะเป็นคนถามคำถาม และ AI จะค้นหาคำตอบมาตอบด้วยตัวเอง จะป้อนความรู้เข้าไปก็เอาความรู้เข้าปากให้ AI ไปเลยตรงๆ แต่ลู่ตงตงนั้นพัฒนาไปอีกระดับแล้วอย่างชัดเจน เขาสามารถตั้งคำถามด้วยตัวเองได้

ลู่อวี๋ตั้งใจอธิบาย “พ่อตาโกรธ ก็แปลว่าเขายอมรับความสัมพันธ์ของเราสองคน แล้วจะรู้สึกถึงอันตรายเหมือนลูกชายของเขาจะถูกเด็กเกเรพาเสียคน”

หมิงเยี่ยนไม่ได้เข้าร่วมการปฏิสัมพันธ์ของพวกเขา ลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากวงสนทนา ทว่ากลับถูกลู่อวี๋ตาไวมือไวกอดขาหมับ

“พี่เยี่ยนครับ ผมลงแดงอีกแล้ว ทรมานมากเลย ในฐานะพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ พี่ต้องให้ความช่วยเหลือผมในยามจำเป็นด้วยนะครับ” ลู่อวี๋เอาหน้าแนบกางเกงนอนเนื้อผ้าไหมตรงน่องขาของหมิงเยี่ยน คลอเคลียสุดฤทธิ์

หมิงเยี่ยนถูกเขาเกาะแกะจนเดินเซ ลงไปนั่งบนโซฟา

ลู่อวี๋ถือโอกาสปีนขึ้นโซฟา ซุกหน้ากับไหล่หมิงเยี่ยนแล้วสูดหายใจสุดปอด กลิ่นต้นไม้ใบหญ้าผสมกับกลิ่นไม้จันทน์สดชื่นรื่นใจ ดมแล้วรู้สึกเมามายยิ่งกว่าซิการ์ที่เขาว่าแรงที่สุดอีก โดพามีนที่ให้ความสุขจำนวนมากกำลังหลั่งอยู่ในสมอง ช่วยต่อต้านความกระหายโดพามีนจากอาการติดเหล้าได้

หมิงเยี่ยนจั๊กจี้ ทำอะไรไม่ได้ “ฉันไม่เคยได้ยินพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่ไหนเขาขอความช่วยเหลือแบบนี้มาก่อน”

“งั้นตอนนี้ก็ได้ยินแล้วนี่ไง” ลู่อวี๋สูดต่ออีกหลายฟอด ล่องลอยอย่างกับบรรลุเป็นเซียน เขาซุกจมูกกับคอเสื้อเนื้อนุ่มของอีกฝ่าย “การช่วยพาร์ตเนอร์เอาชนะอุปสรรค ปรับทัศนคติ เป็นหน้าที่ที่พี่ควรทำให้เต็มที่นะ”

ลู่อวี๋ฉุกนึกบทสุดคลาสสิกในนิยายวายที่พระเอกชอบบีบบังคับขึ้นมาได้ ‘นายคงไม่อยากให้คนอื่นเห็นคลิปของนายใช่ไหมล่ะ’ เขาถึงกับเงยหน้าขึ้น ยิ้มร้ายหนึ่งที แล้วใช้เสียงสั่นต่ำแหบพร่าเหมือนฟองอากาศกระซิบข้างหูหมิงเยี่ยน “พี่คงไม่อยากให้คนอื่นเห็นไอ้ขี้เหล้าออกไลฟ์ใช่ไหมล่ะ”

“พรืด…” หมิงเยี่ยนโดนเขากระตุกต่อมหัวเราะ ยกมือขึ้นขยี้ศีรษะลูกสุนัขของเขา ยีเส้นขนที่เพิ่งจะเป่าแห้งจนสภาพเป็นรังนก

ลู่อวี๋ถูไถคลอเคลียฝ่ามือของหมิงเยี่ยน แล้วก็ฉวยจังหวะนี้ไหลตัวลงไปนอนทับตักของอีกฝ่ายอย่างกระเง้ากระงอด “ผมจะต้องเลิกเหล้าให้ได้ ไอ้นี่มันทำร้ายคนเกินไปแล้ว ถึงตอนนั้นผมจะคืนลู่ต้าอวี๋ที่สุขภาพแข็งแรงให้พี่ ลู่ต้าอวี๋นี่ดีจริงจริ๊ง อุปสรรคอะไรผมก็ต้องมาแบกแทนหมด เขาแทบไม่ต้องออกแรงเลย เจ้าหมอนี่ย้อนกลับไปสิบปีที่แล้ว ก็ยังไม่รู้อีกว่าจะย่ำยีร่างกายอันอ่อนเยาว์ของผมแบบไหน”

หมิงเยี่ยนมองเจ้าคนที่เนียนเอนลงนอนตักเขาอย่างเป็นธรรมชาติแล้วก็ต้องส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ

เวลานั้นเองลูกโป่งท่านประธานลอยเข้ามาหา กระซิบเสียงเบา “ข้อความใหม่ครับ”

หมิงเยี่ยนกดเปิดสมองอัจฉริยะ แล้วก็เห็นข้อความที่ลู่เจินนีส่งมาให้ เขาก็คือลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของลู่อวี๋ที่ค่อนข้างเอะอะโวยวายคนนั้น

 

‘ลู่เจินนี : หมิงเยี่ยน พรุ่งนี้พวกเรามาเจอกันหน่อย เกี่ยวกับเรื่องเข้าตลาดหลักทรัพย์ของเฉินอวี๋เทคโนโลยี ตระกูลลู่ของเราช่วยได้นะ’

 

หมิงเยี่ยนก้มหน้ามองลู่อวี๋ เจ้าเด็กนี่ไม่รู้ผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พลังกายของลู่ต้าอวี๋แย่มากจริงๆ วุ่นวายมาทั้งวันแป๊บเดียวก็หมดเรี่ยวแรง เขาเกลี่ยผมที่เข้ามาใต้ชายเสื้อนอนตรงเอวของตัวเอง ยกมือขึ้นตอบข้อความ

 

ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลา ถ้าจะนัดล่วงหน้าแจ้งเลขาฯ ฉันได้เลย’

 

ลู่เจินนีที่อยู่อีกฝั่งราวกับกินรังแตน ส่งข้อความเสียงยาวเหยียดเข้ามา หมิงเยี่ยนไม่ได้กดเปิดฟัง แต่กดแปลงเสียงเป็นข้อความ

 

ลู่เจินนี : คนแซ่หมิงทำไมถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้? ที่ลู่อวี๋แตกหักกับตระกูลลู่เป็นเพราะนายเข้ามายุแยงใช่หรือเปล่า? นายรู้หรือเปล่าว่าคุณลุงกับคุณป้าของฉันเสียใจแค่ไหน? คอยดูเลยนะ พรุ่งนี้ฉันจะไปหานายที่บริษัท!’

 

หมิงเยี่ยนตอบกลับ

 

ถ้าเกิดพวกเขาเสียใจ ก็กรุณาให้พวกเขามาคุยกับลู่อวี๋ด้วยตัวเองครับ’

 

หมิงเยี่ยนถอนหายใจ ก้มหน้าลงมองลู่เสี่ยวอวี๋ที่นอนหลับเคลิ้ม อดไม่ได้ที่จะลูบๆ ผมนุ่มฟูของเขา ก่อนพูดเสียงแผ่ว “ปลาน้อยปลาน้อย* อย่าโตเลยนะ ไม่ต้องมองไม่ต้องฟังไม่ต้องกลัว”

มันเป็นเพลงกล่อมเด็กที่เขาฟังในวัยเด็ก เนื้อร้องเดิมคือ ‘เด็กดีเด็กดี รีบๆ โตนะ ลมโบกพายุฝนไม่ต้องกลัว’

 

วันรุ่งขึ้นลู่อวี๋ตื่นขึ้นจากการนอนอิ่มเต็มที่ ก่อนจะพบว่าตัวเองนอนหลับอยู่บนโซฟา แล้วก็ต้องรู้สึกอ้างว้างขึ้นมาทันที เทพบุตรของเขาใจดำเกินไปแล้ว ปล่อยให้เขานอนอยู่บนโซฟาอย่างนี้ทั้งคืนเลยเหรอ

จากนั้นเขาก็เห็นผ้าห่มสักหลาดที่คลุมอยู่บนตัว พิมพ์ลายเหรียญสีทองอร่าม แล้วก็ยังเอาชายผ้าห่มคลุมรอบคอเขาให้มิดชิดอย่างใส่ใจด้วย

“ฮิๆๆ เมียจ๋าห่มผ้าให้ด้วยอะ! ใช่ๆ เขาอุ้มฉันไม่ไหว แต่ก็ปลุกฉันไม่ลงสินะ ฮิๆๆๆ!” ลู่อวี๋เริ่มไม่อยากขยับตัวไปไหน เขาเรียกลู่ตงตงให้มาถ่ายรูปเต็มตัวให้เขา จากนั้นก็กลิ้งตัวคลานลุกขึ้น รีบส่งรูปให้หยางเฉิน

 

สุนัขลู่ : เคยเห็นผ้าห่มที่น่ารักขนาดนี้หรือเปล่า? [แนบรูป]’

 

เหล่าหยางลืมตาตื่นยามเช้าด้วยความสะลึมสะลือ แล้วก็ต้องมาเห็นรูปแบบนี้ เขาหมดคำจะบรรยาย ได้แต่ตอบกลับไป

 

ไข่หยาง : นี่มันกู๊ดส์ของน้องรองไม่ใช่เหรอ ฉันก็ต้องเคยเห็นสิ’

 

มันเป็นกู๊ดส์อะนิเมะของเสิ่นไป๋สุ่ย ในห้องรับรองของบริษัทมีวางเรียงเป็นตับ

 

สุนัขลู่ : ไม่ นายไม่เคยเห็น มันคือผ้าห่มผืนน้อยที่พี่เยี่ยนห่มให้ตอนฉันหลับ’

ไข่หยาง : ชิ่วๆๆๆๆๆๆๆๆ!’

 

ไปอวดกับเหล่าหยางเสร็จ ลู่อวี๋ก็เดาะลิ้นอย่างพึงพอใจ ครุ่นคิดว่าจะส่งไปอวดกับใครได้อีก น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะมาอยู่ในอนาคตสิบปีข้างหน้าได้แค่สองวัน จำนวนคนที่รู้จักยังมีจำกัด

 

จ้าวเยียนชิงที่มาถึงบริษัทแต่เช้าเพื่อมาดูแผนการแล้วจะได้เอาไปเตรียมประชุม จู่ๆ ก็ได้รับข้อความหนึ่งจากลู่อวี๋ เขายิ้มเย็น ตอนนี้มาตรัสรู้แล้วว่าไม่ควรจาบจ้วงเสาทองคำ เลยทักมาขอโทษงั้นสินะ

เมื่อกดเปิดอ่าน

 

ลู่อวี๋ : เคยเจอผ้าห่มที่น่ารักขนาดนี้หรือเปล่า นี่น่ะ พี่เยี่ยนเขามาห่มให้ผมตอนนอนแหละ [แนบรูปลู่อวี๋นอนอยู่ใต้ผ้าห่มที่เต็มไปด้วยเหรียญสีทอง]’

 

จ้าวเยียนชิง “…” เขาส่งเครื่องหมายคำถามกลับไปตัวโตๆ

พริบตาฝั่งลู่อวี๋ก็ส่งมาอีกข้อความ แต่ก็ไม่ได้ยกเลิกข้อความก่อนหน้านี้คืน

 

ลู่อวี๋ : ขอโทษที ส่งผิดอะ’

 

จ้าวเยียนชิงกดวิดีโอคอลล์มาหา “ลู่อวี๋ ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผมผิดนะ”

ลู่อวี๋มองจ้าวเยียนชิงในกล้องที่สวมสูทใส่รองเท้าหนังโปะแป้งและเซ็ตผมมันย่องแล้วก็ไม่ชอบใจมาก เขาดึงผ้าห่มมาคลุมขาตัวเอง “ไม่นี่ครับ ผมเข้าใจคุณอย่างแจ่มแจ้งแถมยังลึกถึงแก่นด้วย”

จ้าวเยียนชิงขมวดคิ้ว “เรามาคุยกันหน่อยสิครับ”

ลู่อวี๋ส่ายหน้า “วันนี้ไม่ได้ครับ ผมยังเตรียมตัวไม่พร้อม อีกสักพักแล้วกันนะ”

จ้าวเยียนชิงกัดฟัน “มากินมื้อเที่ยงด้วยกันสักมื้อก็ได้ครับ คุณต้องเตรียมตัวอะไรด้วยเหรอ”

ลู่อวี๋ไม่ตอบ ใช้คีย์บอร์ดสมมติค้นหาบนหน้าจอออพติคอลอย่างเร็วจี๋

 

คอร์สสอนต่อสู้ฉบับเร่งรัด’

สามสิบหกกระบวนท่าเด็ดใช้จัดการเมียน้อยสำหรับเมียหลวง’

จะทำให้ผู้ชายที่มักมากอยากได้ผู้ชายของฉันยอมถอดใจในหนึ่งกระบวนท่าได้ยังไง’

 

จ้าวเยียนชิง “…เวลาเสิร์ชหาข้อมูลก็ไม่จำเป็นต้องอ่านออกเสียงก็ได้นะคุณ”

 

 

* เจียงหนาน คือพื้นที่บริเวณตอนล่างของแม่น้ำแยงซีในประเทศจีนปัจจุบัน

* นัยน์ตาทิพย์สุวรรณอัคคี หมายถึงดวงตาเฉียบแหลม แยกแยะเท็จจริงได้

* ปลาน้อย ออกเสียงว่าเสี่ยวอวี๋

  

โปรดติดตามตอนต่อไป

2 of 2หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เสียงเคาะระฆังบอกโมงยามดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงอันคุ้นเคยเตือนให้คนเก่าคนแก่ในวังตระหนักได้ว่าเพลานี้เป็น...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าสีฟ้าคราม สายลมโชยอ่อนพัดแผ่ว ม่านโปร่งบนศาลาริมน้ำขยับไหว ที่อยู่หลังม่านโปร่งคือโฉมสะคร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 1-2

บทที่ 1 เวลาเช้าตรู่กู้เจี้ยนหลีรออยู่หน้าโรงจำนำเป็นเวลานานมากแล้ว ในมือของนางกำปิ่นรูปผีเสื้อคู่ประดับพู่ระย้าไว้อันหน...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน เชิดรักมังกรซ่อนเงาหงส์ บทที่ 3-4

บทที่ 3 เนี่ยชิงหลินได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงเงยหน้าขึ้นเหลือบมองสีหน้าเย็นชาเข้มงวดของเว่ยเหลิ่งเหยาปราดหนึ่ง นางลังเลอยู่ช...

community.jamsai.com