X
    Categories: everYทดลองอ่านรัชทายาทบัญชา

ทดลองอ่าน รัชทายาทบัญชา เล่มที่ 1 บทที่ 13 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

บทที่ 13

 

ในตำหนักอวี้ซิ่ว องค์หญิงใหญ่ตุนซู่อุทาน “เจ้าไม่ต้องการโหรวจยาแล้ว?”

ในใจของฉีเซียวยังรู้สึกละอายกับองค์หญิงใหญ่ตุนซู่อยู่บ้าง เดิมเขาก็ไม่สมัครใจจะรับชายารอง ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งหมดเป็นอุบายที่เขาวางไว้ องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ทุ่มเททำเพื่อเขากลับโดนใช้ประโยชน์ บัดนี้ได้ไป่เริ่นอยู่ในมือแล้วฉีเซียวจึงไม่ปิดบังองค์หญิงใหญ่ตุนซู่อีก สารภาพเรื่องราวก่อนหน้าออกไปโดยละเอียด

“ฝั่งโหราราชบัณฑิต ข้าส่งคนไปนัดแนะเรียบร้อย พวกเขาจะบอกว่าปีนี้ข้าไม่เหมาะที่จะมีงานมงคล ฝ่าบาทคงแทบรอไม่ไหวที่ข้าจะสูญเสียแรงหนุนจากหลิ่งหนาน แน่นอนว่าต้องรีบร้อนตกปากรับคำไม่ให้สงสัยมาถึงตัวข้า เช่นนี้จึงจะปัดเรื่องงานแต่งกับหลิ่งหนานให้ตกไปได้” ฉีเซียวพูดแผนการขั้นต่อไปของตนเองออกมาเสียเลย “เสด็จป้าคงไม่รู้…ฮองเฮายังวางแผนจะถือโอกาสนี้ประทานหลานสาวที่เกิดจากอนุภรรยาให้ข้าเช่นกัน ประจวบเหมาะจะปัดไปทั้งคู่ เสด็จป้า…คิดเห็นเช่นไร”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่สีหน้าเขียวคล้ำพยายามสะกดเพลิงโทสะสุดความสามารถจนฟังฉีเซียวพูดจบ ครั้นได้ยินเขาถามเช่นนั้นก็เอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าคิดเห็นเช่นไร?! ในสายตาเจ้ายังมีข้าอีกหรือ เรื่องเกี่ยวดองกับหลิ่งหนานข้าเสียแรงกายแรงใจไปมากเพียงไรเพื่อแย่งชิงมาให้เจ้า! วันนี้เป็นเพราะซื่อจื่ออายุสั้นที่ไม่รู้จะตายเมื่อไรคนนั้นทำเสียเรื่อง! เจ้ายังกล้าถามว่าข้าคิดเห็นเช่นไร!”

ฉีเซียวร้องย่ำแย่ในใจ เขารู้ว่าหลังจากองค์หญิงใหญ่ตุนซู่รู้เรื่องจะต้องโกรธ แต่นึกไม่ถึงว่าจะโกรธขนาดนี้ เขาพลันเดินเข้าไปดึงมือองค์หญิงใหญ่ตุนซู่หว่านล้อมซ้ำๆ “หากเสด็จป้าโกรธจะทุบตีข้ายกหนึ่งก็เอาเถิด แต่อย่าโมโหจนกระเทือนสุขภาพ…”

“วันนี้เจ้าเล่ห์เหลี่ยมล้นฟ้า ยังสนใจความเป็นตายของข้าอีกหรือ ยั่วโมโหข้าให้ตายไปแต่เนิ่นๆ ก็ยิ่งดี! ข้าจะได้กลับไปขอรับผิดกับเสด็จพ่อเสด็จแม่เจ้าเร็วๆ หลายปีมานี้ทุ่มเทความคิดและจิตใจเต็มที่ก็ยังไม่อาจอบรมองค์รัชทายาทให้ดีได้ กลับทำลายกำลังตนเองเพื่อผู้ชายคนเดียว!” องค์หญิงใหญ่ตุนซู่สะบัดมือฉีเซียว ตะคอกอย่างเดือดดาล “เจียงเต๋อชิงเล่า! ให้เขาเข้ามา!”

เจียงเต๋อชิงที่เฝ้าอยู่นอกตำหนักมาตลอดได้ยินก็พลันร้องย่ำแย่ไม่หยุดปาก จากนั้นจึงค้อมกายเดินเข้ามาด้วยท่าทีขมขื่น องค์หญิงใหญ่ตุนซู่หัวเราะเย็น “หึๆ…เจ้ากลับยังมีหน้ามาพบข้า! เจียงเต๋อชิง ก่อนหน้านี้ข้ากำชับเจ้าอย่างไร ห้ามชักนำให้รัชทายาทเล่นกับพวกเบี่ยงเบนเหล่านั้น! เจ้ากลับปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เหลือเกิน บัดนี้รัชทายาทเล่นกับชายบำเรอลามไปถึงหลิ่งหนานซื่อจื่อแล้ว! เจ้าตาบอดหรือหูหนวกกันแน่ รู้ทั้งรู้ไยไม่ห้ามปรามสักคำ! หรือว่าเป็นใบ้! กระทั่งมาตำหนักอวี้ซิ่วเพื่อบอกข้าสักประโยคก็ทำไม่เป็น!

เจียงเต๋อชิงไหนเลยจะกล้าชี้แจง คุกเข่าลงโขกศีรษะไม่หยุด

ในใจฉีเซียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก องค์หญิงใหญ่ตุนซู่รักใคร่เมตตาเขามาตลอด ก่อนหน้านี้เขาคาดว่าตนคงถูกอบรมสั่งสอนสักคำรบ กลับคิดไม่ถึงว่าสองสามวันนี้องค์หญิงใหญ่ตุนซู่พำนักในวังหลวง สิ่งที่ตาเห็นหูได้ยินล้วนเป็นการแก่งแย่งชิงอำนาจระหว่างบรรดาองค์ชาย และการวางอุบายชิงดีชิงเด่นของเหล่าสนมชายา ในใจเหลืออดมาตั้งแต่แรก ด้วยตำแหน่งฐานะและเกียรติยศของนางทำให้นางไม่อาจเสียกิริยาอันดีต่อหน้าผู้อื่น และฉีเซียวก็ดันมาเวลานี้รับเพลิงโทสะติดกันหลายวันขององค์หญิงใหญ่ตุนซู่เข้าอย่างจัง

ฉีเซียวหมดหนทางจึงเดินเข้าไปก้าวหนึ่ง คุกเข่าลงข้างกายองค์หญิงใหญ่ตุนซู่แล้วยิ้มขื่น “เสด็จป้าอย่าได้ถือโทษเจียงเต๋อชิง เขาห้ามปรามข้าตลอดแต่ข้าไม่ฟังเท่านั้น เสด็จป้าโกรธก็มาลงกับข้าเถิดอย่ากลั้นไว้เลย หากยังไม่หายโกรธ…” ฉีเซียวดึงมือองค์หญิงใหญ่ตุนซู่มา เอ่ยอย่างหน้าไม่อาย “ตีข้าสองสามทีเถิด ขอเพียงเสด็จป้าเห็นแก่ที่อีกพักหนึ่งข้าต้องพบหน้าคน ไม่ตีหน้าก็พอแล้ว”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ขมวดคิ้วปัดมือฉีเซียวออก ปากดุว่า “ทำท่าทีเช่นนี้ให้มันน้อยหน่อย!”

ฉีเซียวเห็นองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ไม่คล้ายโมโหพลุ่งพล่านอย่างเมื่อครู่ก็เบือนหน้าไปขยิบตาให้เจียงเต๋อชิง เจียงเต๋อชิงรู้ความนัย ค่อยๆ ลุกขึ้นและถอยออกไป ฉีเซียวคลี่ยิ้มเอ่ยเนิบช้า “เช่นนั้นข้าจะคุกเข่าไปเรื่อยๆ รอจนเสด็จป้าหายโกรธ”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ปรายตามองฉีเซียวปราดหนึ่ง แม้ฉีเซียวจะคุกเข่าบนพื้นพรม ทว่าก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว พื้นย่อมเย็น…

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ในใจยังคงเอ็นดูฉีเซียว มีหรือจะยอมให้เขาคุกเข่าไปตลอด เพียงไม่ถึงครึ่งถ้วยชาก็กล่าวอย่างทนไม่ได้ “ทำเช่นนี้ให้น้อยลงเสีย ข้ายังมีเรื่องถามเจ้า ลุกขึ้น…ก้มหน้ามองเจ้าทำข้าล้าจนปวดคอ…”

ฉีเซียวคลี่ยิ้มแล้วลุกขึ้นอย่างปราดเปรียว หันกายไปรินชาให้องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ก่อนส่งขึ้นมาอย่างนอบน้อม เขายิ้มกล่าว “เรื่องนี้เป็นข้าที่คิดน้อยไป ชาถ้วยนี้ถือเป็นการขออภัยกับเสด็จป้าดีหรือไม่”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่กลอกตาใส่เขาทีหนึ่งก่อนรับถ้วยชามาจิบ แล้วถอนใจว่า “มิใช่ข้าเป็นคนเจ้าอารมณ์ แต่เจ้าก็น่าโมโหเกินไป เหตุใดจึงไม่เลียนแบบตัวอย่างที่ดี กลับไปเลี้ยงเด็กผู้ชายอย่างคนชั้นต่ำพวกนั้นเสียได้”

‘พวกนั้น’ ที่องค์หญิงใหญ่ตุนซู่เอ่ยหมายถึงองค์ชายรองฉีหวาและองค์ชายสามฉีฉี ปีก่อนองค์ชายทั้งสองล้วนเลี้ยงดูชายบำเรอไว้ในจวน ถึงขนาดมีข่าวลือว่าทั้งสองยังแลกเปลี่ยนชายบำเรอที่เคยปรนนิบัติกันด้วย ข่าวลือสารพัดสุดที่จะทนรับได้อย่างยิ่ง ต่อมาเสียงเล่าลือแพร่ไปถึงหูฮ่องเต้ ฮ่องเต้โกรธมากจึงดุด่าองค์ชายทั้งสองอย่างรุนแรง บรรดาชายบำเรอพลันหายลับไปในหนึ่งราตรี เสียงโจษจันจึงค่อยๆ เบาบางลง

ฉีเซียวฝืนยิ้ม “ไป่เริ่นมิใช่ชายบำ…”

“ใช่ เขาเป็นซื่อจื่อ เจ้ารู้จักเล่นยิ่งกว่าพวกฉีหวา!” องค์หญิงใหญ่ตุนซู่อดไม่ได้ที่จะเขกหัวฉีเซียวทีหนึ่งและเอ่ยอย่างดุดัน “เจ้าเห็นเขาเป็นตัวประกันที่ไม่สะดุดตาเท่านั้น แต่ไยจึงไม่คิดบ้าง! ย่ำแย่แค่ไหนเขาก็เป็นบุตรชายคนเดียวที่เกิดจากชายาเอกของหลิ่งหนานอ๋อง! เป็นทายาทวงศ์สกุลสูงส่งเหมือนกับเจ้า! เจ้าบีบคั้นเขาเช่นนี้ ไม่กลัวเขาสบโอกาสแว้งกัดเจ้าหรือ!”

ฉีเซียวยิ้มน้อยๆ “เสด็จป้าคิดว่าข้าไร้สามารถเช่นนั้นหรือ ฮ่องเต้ข้ายังไม่กลัว แล้วจะกลัวเขา?”

เดิมองค์หญิงใหญ่ตุนซู่คิดจะสั่งสอนเขาอีกสองสามประโยค ทว่าพอเห็นสีหน้านี้ของฉีเซียวก็ตะลึงไปโดยไม่รู้ตัว ข้างในลอบถอนใจ ท่าทีเหมือนพ่อเขาไม่มีผิด สิ่งของที่ต้องการไม่มีที่เอามาไม่ได้…

“ช่างเถิด…” องค์หญิงใหญ่ตุนซู่นวดหว่างคิ้วอย่างอ่อนล้า “แค่ชายารองคนหนึ่ง ไม่รับก็ไม่รับ…”

ฉีเซียวเห็นเพลิงโทสะขององค์หญิงใหญ่ตุนซู่บรรเทาลงในที่สุดก็เร่งตีเหล็กตอนยังร้อน “ถึงตอนนี้ยังต้องขอเสด็จป้าช่วยข้าอีกครั้ง…เรื่องมงคลของข้ากับโหรวจยาล่มแล้ว เสด็จป้าเพียงบอกว่าชมชอบโหรวจยา และรู้สึกเสียดายจึงรับนางเป็นธิดาบุญธรรม ด้วยหน้าตาสูงส่งของเสด็จป้าหลิ่งหนานอ๋องกับชายาย่อมยินดี มีความสัมพันธ์ขั้นนี้วันข้างหน้าหาคู่หมั้นคู่หมายให้โหรวจยาจะจัดการได้ง่าย…”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่มีสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้าก่อเรื่องเช่นนี้ ข้าไม่สั่งสอนเจ้าอีกถือว่าแล้วไป ยังมีหน้าหาเรื่องใส่หัวข้า ในเมื่อโหรวจยาไม่เป็นชายารองของเจ้าแล้วข้าจะสนใจความเป็นตายของนางไปไย”

ฉีเซียวยิ้มอย่างจนใจ “ไม่ปิดบังเสด็จป้า…เพื่อกำราบม้าพยศเช่นไป่เริ่น ข้าให้คำมั่นต่อเขาว่าการแต่งงานของโหรวจยาในวันหน้าจะให้เขาเป็นคนตัดสินใจ แต่เรื่องการแต่งงานของหญิงชายอย่างไรก็ไม่มีธรรมเนียมที่รัชทายาทคนหนึ่งจะยุ่มย่ามเรื่องในบ้านผู้อื่นจำต้องอาศัยเสด็จป้า ฐานะของเสด็จป้าไม่จำเป็นต้องมีสิ่งอื่น ออกหน้ากล่าววาจานี้ฝ่ายหลิ่งหนานย่อมยินยอม”

ฉีเซียวเห็นองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ยังไม่ปรารถนาจะใส่ใจก็เอ่ยอีก “เสด็จป้า…ถือเสียว่าเอ็นดูข้าเถิด”

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่หันมองฉีเซียวก็อดรักสงสารขึ้นมาไม่ได้ เด็กคนนี้เกิดมาอาภัพซ้ำยังนิสัยเย็นชา ตั้งแต่เล็กจนโตกระทั่งคนที่ชอบยังไม่มี ในเมื่อวันนี้ชอบพอซื่อจื่อน้อยผู้นั้นไฉนจึงไม่ส่งเสริมเขา นอกจากนี้บัดนี้การเกี่ยวดองกับหลิ่งหนานก็ไปไม่รอด พูดมากไปไร้ประโยชน์ที่ทำได้คือพยายามช่วงชิงผลประโยชน์ให้มากที่สุดอย่างเต็มกำลัง เรื่องการแต่งงานของโหรวจยานั้นก็แค่เรื่องประโยคเดียวของตน…

องค์หญิงใหญ่ตุนซู่กลอกตามองฉีเซียว “เจ้ากรรมนายเวรมาแต่ชาติปางก่อน…”

ไม่รอให้ฉีเซียวขอบคุณ องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ชิงเอ่ย “ตกลงกันแล้ว แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว! หากเป็นเพราะแม่นางสกุลใดให้ข้าจัดการแทนเจ้าก็แล้วไป แต่นี่เป็นเด็กชาย ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าจะเห่อไปได้สักกี่วัน”

การเลี้ยงดูชายบำเรอในหมู่เชื้อพระวงศ์มิใช่เรื่องใหม่ ดังนั้นส่วนใหญ่เมื่อความงามลดลงความรักก็ลดตาม โปรดปรานไปได้ไม่กี่ปี องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าฉีเซียวจะจริงจังขึ้นมาจริงๆ

ฉีเซียวคลี่ยิ้ม “ยังคงเป็นเสด็จป้าที่เอ็นดูข้า”

“เฮอะ…” เลือดข้นกว่าน้ำไม่ว่าก่อเรื่องใหญ่เพียงไรโทสะย่อมสงบลง ฉีเซียวยอมรับผิด องค์หญิงใหญ่ตุนซู่ก็ยังคงรักใคร่เอาใจเขาเหมือนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง จับมือเขากำชับกำชาเหมือนตอนฉีเซียวยังเล็กอีกครึ่งค่อนวัน ก็มีแต่พร่ำบ่นเรื่องจำพวก ‘ห้ามก่อเรื่องอีก’ กับ ‘ห้ามหลงระเริงจนกระทบเรื่องสำคัญ’ ฉีเซียวรับปากทั้งหมดอย่างสัตย์จริง องค์หญิงใหญ่ตุนซู่พยักหน้า “งานเลี้ยงอาหารค่ำยังเหลือเวลาอีกพักใหญ่ ข้าสั่งให้คนยกของว่างมาสองสามจานให้เจ้ารองท้องก่อน อีกประเดี๋ยวจะได้ไม่ดื่มสุราทั้งท้องว่างจะเสียสุขภาพเอา”

ฉีเซียวจะอย่างไรก็ได้ จึงก้มหน้ารับคำ ครั้นนางกำนัลนำของว่างมาส่งเขาก็ยกถวายองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ก่อน ความกตัญญูรู้คุณประจักษ์ชัด เอาใจจนองค์หญิงใหญ่ตุนซู่ลืมโทสะเมื่อครู่สนิท

ฉีเซียวแสดงความกตเวทีอย่างเคารพนบนอบที่ตำหนักอวี้ซิ่ว กลับไม่รู้เลยว่าไม่ไกลนักขวางกั้นเพียงตำหนักไม่กี่แห่ง ไป่เริ่นได้หาเรื่องใส่ตัวครั้งใหญ่เข้าแล้ว

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: