Don't Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ
ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1 บทที่ 3-4 #นิยายวาย
ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1
ผู้เขียน : 柚子冰 (You Zi Bing)
แปลโดย : ซิ่งหลัน
ผลงานเรื่อง : 不要轻易开麦 (Bu Yao Qing Yi Kai Mai)
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
บทที่ 3
เดิมทีนั่นเป็นการสตรีมที่ปกติมากครั้งหนึ่ง ตอนบ่ายวันพฤหัสบดี มีผู้ชมไม่เยอะมาก หลินเหว่ยหยิบพัสดุกลับมาก็ใช้โทรศัพท์มือถือโพสต์แจ้งการสตรีมล่วงหน้า เตรียมว่าพอแกะพัสดุเสร็จก็จะขึ้นไปเล่นโหมดจัดอันดับสักสองสามเกมเพื่อทำเวลาที่กำหนดของเดือนนี้ให้ครบ
หลินเหว่ยเลยไม่ค่อยใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองมากนัก เพราะอย่างไรก็ตามข้อแรกเขาไม่เผยใบหน้าตอนสตรีม สองในบ้านมีเขาแค่คนเดียว อากาศร้อนอบอ้าวเพิ่งเปิดแอร์จึงยังไม่เย็นเท่าไหร่ เขาสวมเพียงแค่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้น หยิบหวานเย็นแท่งหนึ่งออกมาจากในตู้เย็นคาบเอาไว้แล้วเริ่มแกะห่อพัสดุ นอกจากจดหมายกับของขวัญบางส่วนของแฟนคลับและสินค้าที่ระลึกออกใหม่ที่โต้วหลงทีวีส่งมาให้ ของห่อใหญ่ห่อเล็กที่เหลือทั้งหมดล้วนเป็นของคุณแม่หลิน
หลินเหว่ยเปิดกล่องออกมากล่องหนึ่ง ด้านในเป็นแชมพูสิบขวด หลังจากนั้นก็เห็นใบหน้าหนึ่งที่เขาคุ้นเคยมากอยู่ในกล่องบรรจุแชมพูตามที่คาดคิด เขากัดหวานเย็นแล้วส่งเสียงหึในจมูก จากนั้นก็แกะอีกหนึ่งห่อ ครั้งนี้เป็นนิตยสาร คร่าวๆ น่าจะมีประมาณยี่สิบเล่ม ถูกมัดส่งมาพร้อมกับโปสเตอร์ เขาไม่ต้องแกะบับเบิ้ลออกก็รู้ว่าหน้าปกเป็นใคร
หลินเหว่ยถอนหายใจ จากนั้นก็รื้อกาแฟลังหนึ่งที่บนนั้นมีรูปใบหน้าหนึ่งพิมพ์เอาไว้ พร้อมกับเสื้อผ้าถุงหนึ่งที่มีฉลากแบบเดียวกัน เขาจัดเก็บพัสดุที่อยู่บนพื้นเล็กน้อยก่อนจะยืนขึ้นมาถ่ายรูปส่งวีแชตให้แม่ เพื่อบอกว่าตัวเองได้รับของแล้ว
ใครจะคิดกันล่ะว่าคุณแม่ของหลินเหว่ย คุณครูภาษาอังกฤษอาวุโสคนหนึ่งที่สอนหนังสือมาสามสิบปี ลูกชายออกมาทำงานเองมีแฟนคลับนับล้านทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ตัวเธอเพิ่งเริ่มมาตามดารา…
ทว่าคุณแม่หลินเป็นแฟนคลับที่มีเหตุผลมาก เธอดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งแล้วรู้สึกว่าหนุ่มคนนี้ไม่เลว หลังจากนั้นก็บังเอิญเห็นสถานีโทรทัศน์กำลังออกอากาศละครที่เขาแสดงเป็นพระรองและรายการวาไรตี้ที่เป็นแขกรับเชิญประจำ พอรวมเข้าด้วยกันก็ทำให้เธอตกเป็นแฟนคลับเข้าอย่างจัง ไม่ว่ามองยังไงก็รู้สึกถูกชะตา และบังเอิญที่ในชั้นเรียนของคุณแม่หลินมีนักเรียนที่สนิทสนมกันคนหนึ่งก็เป็นแฟนคลับด้วย เลยจับมือสอนคุณแม่หลินลงทะเบียนเวยป๋อ
คุณแม่หลินมีจิตใจอยากเรียนรู้อยู่แล้ว หลังจากมีเวยป๋อก็เรียนรู้ ‘กฎของกลุ่มแฟนคลับ’ อย่างถ่อมตัว ไม่กี่วันก็รู้ชัดเจนแล้วว่าจะสนับสนุนไอดอลได้อย่างไร ในเมื่อไม่มีเวลาโหวต ตอบโต้แอนตี้ คอมเมนต์หรือแชร์โพสต์ ถ้าอย่างนั้นซื้อเอาก็ได้แล้ว
ฐานะของบ้านหลินนั้นไม่เลวเลย พ่อแม่ของหลินเหว่ยเองก็มีทัศนคติกับเงินว่า ‘หามาแล้วทำไมไม่ใช้’ มาโดยตลอด คุณพ่อหลินชอบถ่ายรูป ในหนึ่งปีต้องพาคุณแม่หลินออกไปท่องเที่ยวถ่ายรูปหลายครั้ง ในเมื่องานอดิเรกของตัวเองก็คือการผลาญเงินแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมไม่คัดค้านที่คุณแม่หลินจะมีความเพลิดเพลินของตัวเองในยามว่าง หลินเหว่ยยิ่งไม่มีความคิดเห็น ครึ่งค่อนปีที่คุณแม่ตามดารามา เธอมีความสุขทุกวัน แล้วมีเรื่องอะไรที่น่ายินดียิ่งกว่าคนในบ้านมีความสุขกันล่ะ
…แน่นอนว่าถ้าแม่ไม่เห็นที่บ้านเขาเป็นศูนย์จัดการพัสดุก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่
คุณแม่หลินรู้สึกว่าของกิน เครื่องดื่ม และนิตยสารแบบเดียวกันที่ตัวเองซื้อพวกนั้นไม่มีที่วางแต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้สิ้นเปลืองได้ ก็เลยเกิดความคิดว่างั้นส่งมาให้ลูกชายแล้วกัน ทั้งได้สนับสนุนไอดอลและเอาใจใส่ลูกชายไปด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวนะ!
สินค้าที่อาศัยกระแสของศิลปินแบบนี้มักจะส่งพวกโปสการ์ด โปสเตอร์มาเพื่อเป็นการตอบแทนแฟนคลับ ดังนั้นในบ้านของหลินเหว่ยจึงมีลู่เหยาจือที่ต่างลุคหลากสไตล์แต่มีจุดเด่นเหมือนกันคือความหล่อเท่อยู่กองหนึ่ง
ตอนนี้เขาแค่หลับตาก็สามารถวาดใบหน้าเกลือของลู่เหยาจือออกมาในหัวสมองได้…คำนี้เป็นคำที่เขาฟังมาจากที่คุณแม่หลินพูด ว่ากันว่าเป็นวิธีการพูดบรรยายถึงหน้าตาอย่างหนึ่งที่แพร่มาจากญี่ปุ่น หมายถึงหน้าตาจืดๆ หมดจด ให้ความรู้สึกค่อนข้างเย็นชา
จากสายตาที่ประเมินความงามของหลินเหว่ย ลู่เหยาจือหน้าตาดูดีจริงๆ เขาไม่ใช่ประเภทหล่อเหลาคมเข้ม แต่กลับมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ รู้สึกเหมือนมองคนด้วยหางตาอย่างเฉยเมยอยู่ตลอด ลู่เหยาจือผิวขาวมาก มักจะไว้ผมยาวประบ่าเสมอ ทว่าไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่า ‘สาว’ หรือ ‘อ่อนแอ’ อาจจะเป็นเพราะความสูงเกือบหนึ่งร้อยแปดสิบแปดของเขาด้วย ในละครเรื่องที่ทำให้คุณแม่หลินแค่มองแวบเดียวก็จิตใจหวั่นไหวเรื่องนั้น ลู่เหยาจือแสดงเป็นเด็กหนุ่มที่กลายเป็นคนเลวตอนกลางเรื่อง หลินเหว่ยเคยดูจากแผ่นบลูเรย์เป็นเพื่อนด้วยหลายครั้ง ต่อให้อยู่บนหน้าจอใหญ่ความคมชัดระดับเอชดี การแต่งหน้าแต่งตัวของลู่เหยาจือก็ยังคงทำให้คนหาจุดบกพร่องออกมาไม่เจอเลยสักนิด ก่อนเป็นคนเลวเขาทั้งบริสุทธิ์สง่างาม หลังกลายเป็นคนเลวแล้วความหล่อไม่ได้ลดลง ทั้งยังเพิ่มบุคลิกเคร่งขรึมขึ้นอีกหลายส่วน
แต่หลินเหว่ยไม่กล้าเอ่ยปากพูดกับแม่ตรงๆ ว่าแม่ ผมคิดว่าคนนี้ที่แม่ชอบก็เป็นสเป็กของผมด้วย ถึงแม้ปัญหาเรื่องรสนิยมทางเพศของเขาจะมีการปูพื้นแบบอ้อมๆ มาแล้วช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูดเปิดเผยออกไปโดยตรง
หลินเหว่ยเป็นคนให้ความสำคัญกับหน้าตามากทั้งโลกความเป็นจริงไปจนถึงในเกม เขาไม่เคยจู้จี้กับคนที่หน้าตาดี ดังนั้นถึงปากเขาจะพูดกับคุณแม่หลินว่าให้ซื้อน้อยหน่อย เพลาๆ การส่งมาหน่อย แต่หลังจากได้รับพัสดุเขาก็ยังคงแกะอย่างมีความสุข พอเห็นโปสเตอร์ที่สะดุดตาเป็นพิเศษก็จะหยิบมาติดเอาไว้ เกรงว่าคนที่ไม่รู้ถ้ามาบ้านเขาคงเข้าใจผิดว่าเขาเป็นแฟนคลับที่บ้าคลั่งของลู่เหยาจือ แม้ว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวเคยมาบ้านรกๆ ของเขาก็ตาม
แป๊บเดียวคุณแม่หลินก็ตอบกลับข้อความ เธอส่งมีมหนึ่งมาเป็นลู่เหยาจือในเวอร์ชั่นจิบิกำลังโปรยดอกไม้ บอกว่าได้รับก็ดีแล้ว หลินเหว่ยทั้งหมดคำพูดทั้งขำนิดหน่อย หลังรายงานกับคุณแม่เสร็จเขาก็เหงื่อออกท่วมศีรษะ หลินเหว่ยเลยเปิดกาแฟกระป๋องหนึ่งที่ลู่เหยาจือเป็นพรีเซ็นเตอร์มาดื่มแล้วเตรียมตัวสตรีม
วันพฤหัสบดีบ่ายสามโมงกว่า ประจวบเหมาะกับเป็นวันทำงาน ต่อให้มีการแจ้งล่วงหน้า ทว่าเวลานี้ในห้องสตรีมก็มีคนไม่มาก เขาค้างที่หน้าจอเดสก์ท็อปโดยยังไม่ได้กดเปิดเกม กรอกกาแฟก่อนสองอึก ถึงจะไม่ได้เปิดกล้อง แต่ก็ฟังออกถึงเสียงที่กำลังดื่มเครื่องดื่มอย่างชัดเจนนั้น ด้อมนกที่ว่างจนเบื่อจึงฟลัดซับกระสุนมาบนหน้าจอดำมืด
[สตรีมเมอร์อู้งานไลฟ์ไปดื่มเครื่องดื่มเหรอ]
[รับงานโปรโมตเครื่องดื่มมาแล้วก็รบกวนเปิดเผยหน้าด้วย ไม่อย่างนั้นไม่ซื้อ ขอบคุณ]
[ลูกชายดื่มอะไรน่ะ รีบเปิดเกมเร็วๆ เลย!]
[พี่ชายดื่มอะไรอยู่]
[แม่เจ้า คนที่เรียกพี่ชายโผล่มาจากไหนเนี่ย]
[ลูกชาย ฉันเปิดไลฟ์เธอในที่ทำงาน ไม่ใช่เพื่อมาฟังเธอ ASMR* นะ]
หลินจื่อกระแอม วางกระป๋องกาแฟลงก่อนจะหัวเราะ “พูดอะไรกัน แค่นอนหลับไม่เต็มอิ่มเลยดื่มกาแฟปลุกความสดชื่น ไม่อย่างนั้นถ้าอีกเดี๋ยวสตรีมไปแล้วเกิดหลับหน้ากระแทกคีย์บอร์ด AFK** ไปจะทำยังไง”
[สตรีมเมอร์บอกเป็นนัยว่าถึงหน้ากระแทกคีย์บอร์ดก็ยังชนะได้ เจ๋งจังนะ]
[ดื่มกาแฟอะไร ฉันอยากดื่มแบบเดียวกับลูกชายบ้าง]
[อีสปอร์ตไม่มีตอนเช้า สำหรับสตรีมเมอร์เกมคนหนึ่งแล้วเวลานี้คือตอนเที่ยง! คุณช่วยเข้าใจให้ชัดเจนหน่อย!]
[วันนี้ลูกชายจะเล่นอะไร ยังไงก็มีคนไม่เยอะเท่าไหร่ นายลองเล่นอย่างอื่นนอกจาก ADC ดูมั้ย เกมที่บดขยี้ดูจนเบื่อแล้ว!]
[ลูกชายจะทำเวลาสตรีมให้ครบแต่ก็ไม่ควรเปิดเวลานี้นะ…เมาอวี่ของฉีหลินเพิ่งเปิดสตรีมเหมือนกัน…กำลังเตรียมตัวเล่นอยู่น่ะ…]
[??? ทำไมพูดถึงแพลตฟอร์มคู่แข่งกับสตรีมเมอร์คนอื่น แอดมินล่ะ ออกมาแบนด้วย]
[แมว* nm** แมว มาป่วนอะไรในห้องสตรีมของลูกชายฉัน]
[@แอดมิน ออกมาทำงาน!!]
หลินเหว่ยเห็นในซับกระสุนมีคนพูดถึงเมาอวี่ก็ขมวดคิ้ว เขาไม่มีทางพูดคุยตอบโต้ บังเอิญที่แอดมินออนไลน์มาเริ่มแบนแล้ว
เขาดื่มกาแฟอีกอึกหนึ่งแล้วกดเปิดเซิร์ฟเวอร์เกม ก่อนจะพูดเบี่ยงไปหัวข้ออื่น “ผมกำลังดื่ม Bernachon คาราเมลเฮเซลนัทน่ะ อร่อยมากเลย” ชาวด้อมนกเองก็ใจกว้าง เริ่มคุยเรื่องอื่นทันที แต่ว่ามีแฟนคลับสาวที่ปกติคงตามดาราด้วย พอได้ยิน Bernachon ก็ส่งซับกระสุนมาว่า
[อ๊า Bernachon ที่เหยาเหยาเป็นพรีเซ็นเตอร์!!]
หลินเหว่ยเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วพูดยิ้มๆ “ใช่ครับ วันนี้ได้รับมาลังหนึ่งแล้วยังส่งโปสการ์ดของลู่เหยาจือมาด้วย” แล้วหัวข้อก็ถูกเบี่ยงออกไปได้
หลินเหว่ยเลือกที่จะคุยถึงลู่เหยาจือไปเรื่อยเปื่อยกับคนในห้องสตรีมเพราะไม่อยากพูดถึงเมาอวี่มากนัก เมาอวี่เองก็เป็นสตรีมเมอร์คนหนึ่งของ Summon Spirits เข้าวงการเร็วกว่าหลินเหว่ยหลายเดือน นอกจากนี้ยังทับทางการเล่นของหลินเหว่ยด้วย เพราะเล่นจังเกิ้ลกับ ADC เหมือนกัน แต่ในหัวข้อ Summon Spirits ของโต้วหลงทีวี หลินเหว่ยเหนือกว่าเขาอยู่ตลอด ความดังสู้ไม่ได้ ของรางวัลเยอะสู้ไม่ได้ ยอดขายสินค้าที่ระลึกก็สู้ไม่ได้ เป็นรองอยู่สามปี ในที่สุดเมื่อหลายปีก่อนก็ทนไม่ไหวจนต้องย้ายงาน โดยปล่อยข่าวออกมาว่าถูกฉีหลินทีวีคว้าตัวไปด้วยเงินยี่สิบล้าน เกี่ยวกับเรื่องนี้เสี่ยวหลี่ โบรกเกอร์* อาวุโสของโต้วหลงทีวีพูดไว้ว่าหน้าไม่อายจริงๆ ยี่สิบล้านตัดศูนย์ไปหนึ่งตัวยังพอว่า ใช้วิธีสร้างกระแสเชยๆ อะไรกันเนี่ย
หลินเหว่ยไม่มีความคิดเห็นอะไรเรื่องที่เมาอวี่ย้ายงาน ใครจะไปมีความคิดเห็นอะไรกับคู่แข่งที่คุกคามตัวเองไม่ได้กันล่ะ แต่ว่าเมาอวี่กับแฟนคลับของเขาคอยจ้องหาเรื่องหลินเหว่ยมาโดยตลอด การกระทำสกปรกลับหลังแบบนี้พอเวลานานเข้าก็ทำให้คนรู้สึกเบื่อหน่าย ตอนที่อยู่โต้วหลงด้วยกันเขารู้สึกว่าเมาอวี่คนนี้สมองน่าจะมีปัญหานิดหน่อย หลินเหว่ยไม่ได้มีเจตนา ‘ข่ม’ หรือแข่งขันกับเมาอวี่เลย ตอนแรกสุดเขายังหลีกเลี่ยงไม่เปิดสตรีมเวลาเดียวกับเมาอวี่ตามคำแนะนำของเสี่ยวหลี่เพื่อจะได้ไม่เป็นการแย่งคนดู
แต่ความจริงก็เป็นสิ่งพิสูจน์ว่าคนดูของโต้วหลงชอบผืนป่าโตแล้ว ไม่ชอบเมาอวี่ แล้วจะทำยังไงได้ เมาอวี่ย้ายงานแล้วยังทำท่าทางเหมือนคนต่ำต้อยที่ประสบผลสำเร็จ ‘ฉันถูกผืนป่าโตแล้วข่มมานานมาก ในที่สุดก็มีวันได้ลืมตาอ้าปากแล้ว’ พิลึกจริง
คุยเล่นกับคนอื่นเรื่องลู่เหยาจือยังดีกว่าอีก! เพราะยังไงลู่เหยาจือก็หน้าตาดี พูดถึงลู่เหยาจือขึ้นมา ตอนนี้เขาดังมาก นึกไม่ถึงเลยว่าในห้องสตรีมจะมีแฟนคลับที่ซ่อนตัวอยู่ของเขาเผยตัวออกมากลุ่มหนึ่ง
[ขอบคุณลูกชายที่สนับสนุนสินค้าที่สามีฉันเป็นพรีเซ็นเตอร์~~~]
[เป็นทั้งคนในตำหนักเหยาฉือ อยู่ทั้งด้อมนก ฉันรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ!!]
[ลูกชายก็ตามดาราเหมือนกันเหรอ วัยรุ่นคึกคักขนาดนี้เลย แม่น้ำตาไหลแล้ว]
หลินเหว่ยหลุดปากตอบ “หืม? ผมไม่ตามดารานะ คนในบ้านผมตามน่ะ แต่ลู่เหยาจือหล่อมากเลย พวกคุณรู้สึกไหมว่าเขาคล้ายหลิงถ่งนิดหน่อย”
เขากดเปิดหน้าจอตัวละครเพื่อโชว์แบบจำลองหลิงถ่งให้ทุกคนดู
ความจริงแล้วทีมอาร์ตของ Summon Spirits เจ้าแผนการนิดหน่อย ตอนที่พวกเขากำลังทำแบบจำลองสามมิติก็มักจะโหนกระแสอย่างฉลาดหลักแหลม ฮีโร่ที่สร้างขึ้นมาส่วนมากต่างนำใบหน้าของดารามาอ้างอิงไม่มากก็น้อย แต่ไม่ใช่หยิบใบหน้าของคนอื่นเขามาใช้โดยตรงเลย เพียงแค่เลียนแบบเค้าโครงที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นมุกตลกว่าถ้าคุณบอกว่าฮีโร่ตัวนี้คล้ายดาราคนไหน ก็คือมีความคล้ายเล็กน้อย หากคุ้นเคยหน่อยก็จะสามารถมองออก แต่ถ้าพูดตรงๆ ว่า ‘ต้นแบบก็คือ XXX’ สินะ ก็จะทำให้คนรู้สึกว่าหน้าไม่อายไปหน่อย
หลินเหว่ยรู้สึกมานานแล้วว่าคุ้นเคยใบหน้าของหลิงถ่ง หลังจากแม่เริ่มตามลู่เหยาจือ เขาถึงนึกได้ทันที หลิงถ่งคล้ายกับลู่เหยาจือที่ผมยาวมากจริงๆ! ที่แท้ก็คือเด็กหนุ่มที่กลายเป็นคนเลวในละครรีเมกเรื่องนั้นที่ทำให้เขาโด่งดังใช่ไหม แม้แต่ไฝที่หางตาก็ยังอยู่ตำแหน่งเดียวกัน!
เขาหมุนแบบจำลองของหลิงถ่งพลางพูดความรู้สึกออกมาว่า “คล้ายฉินเซ่าจริงๆ นะ แล้วยังเป็นเวอร์ชั่นคนเลวด้วย สตูดิโอ Summon Spirits ก็จริงๆ เลย…กลัวคนอื่นมองไม่ออก”
ในซับกระสุนเองก็มีคนคล้อยตามไม่น้อย
[ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันก็รู้สึกว่าคล้าย แต่ไม่กล้าพูด 2333*]
[ตอนหลิงถ่งออกมา ละครเรื่องนั้นเพิ่งฉายจบไม่กี่เดือน กำลังดังเลย]
[ไม่น่าล่ะ แค่มองแวบเดียวฉันก็ถูกใจหลิงถ่งแล้ว! ที่แท้ก็เหมือนสามีของฉัน??]
[ลูกชายยังจะบอกว่าไม่ใช่แฟนคลับอีก นี่เธอมองออกหมดเลย]
[ท่าทางบ้าผู้ชายของลูกชายนี่แปลกๆ อยู่นะ แล้วยังบอกว่าตัวเองไม่ใช่แฟนคลับอีก?]
แต่ก็มีคนบอกว่าไม่คล้าย อย่าเอาพวกสาวแตกมาทำให้ฮีโร่แปดเปื้อน หลินเหว่ยกลอกตามองบน ถือโอกาสกดแบนหลายคนที่พูดจาไม่ดี ทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น พูดกลั้วหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ผมไม่เล่นกานหนิงแล้ว แต่จะเล่นหลิงถ่งคู่จิ้นของเขา?”
ตำแหน่งของหลิงถ่งคือเมจ แต่ถือว่าเป็นเมจอัสแซสซิน* ทว่าก็เหมาะสมกับสไตล์ของหลินเหว่ย เขาคิดแบบนี้จากนั้นก็ซื้อสกินให้หลิงถ่งสวมเซ็ตหนึ่ง จากนั้นก็เตรียมรูน** ที่เหมาะกับสายเวท แล้วค่อยมาศึกษาไอเทม ขณะที่กำลังเตรียมตัวอยู่ เซิร์ฟเวอร์เครือข่ายก็มีป็อปอัพหนึ่งเด้งขึ้นมา
[ช่างประปาแมรี่1111 เพื่อนของคุณออนไลน์แล้ว]
* ASMR (Autonomous sensory meridian response) คืออาการตอบสนองต่อประสาทรับความรู้สึกอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส จนทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
** AFK ย่อมาจาก Away from Keyboard หมายถึงการปล่อยตัวละครทิ้งไว้ ไม่มีการเคลื่อนไหว
* คำว่าแมว ในภาษาจีน อ่านว่าเมา เป็นตัวจีนตัวเดียวกับชื่อของเมาอวี่
** nm ย่อมาจาก Ni Ma เป็นคำด่าที่ไม่สุภาพ
* โบรกเกอร์ คือนายหน้า ตัวแทนหรือคนกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย รวมถึงเป็นตัวแทนในการเจรจา ต่อรองต่างๆ
* 2333 เป็นหมายเลขสัญลักษณ์หัวเราะบนเว็บไซต์ ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 233 ต่อมาจึงใช้มันแทนเสียงหัวเราะ
* อัสแซสซิน คือตำแหน่งนักฆ่าที่มีความคล่องตัวสูง สามารถทำแดเมจและเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
** รูน เป็นตราสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับฮีโร่ การเลือกรูนที่เข้ากับฮีโร่และแนวทางการเล่นของผู้เล่นจะช่วยสร้างความได้เปรียบแก่ทีมอย่างมาก