Don't Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ
ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1 บทที่ 7-8 #นิยายวาย
บทที่ 8
เรื่องคำค้นหายอดนิยมก็สงบลงไปแบบนี้ ลู่เหยาจือพูดได้ทำได้จริงๆ
แต่คลื่นลูกใหญ่ภายในใจของหลินเหว่ยทำยังไงก็สงบลงไม่ได้เสียที
เขายังคงรู้สึกไม่คาดคิดอยู่เล็กน้อย หรือว่าที่จริงแล้วแมรี่ไม่ใช่เสียงคล้าย แต่หน้าตาก็คล้ายด้วย เพื่อที่จะล้อเขาเล่นถึงบอกว่าตัวเองคือลู่เหยาจือ?
ทว่าก็ไม่ใช่ อาจจะเพื่อยืนยันตัวเอง พวกเขาสองคนแอดวีแชตเพียงไม่นาน แมรี่ก็ถามว่า
‘ผมจำได้คุณบอกว่ามีคนในบ้านคุณเป็นแฟนคลับของผม? งั้นจะมาดูงานแถลงข่าวของผมพร้อมกันกับเธอไหม’
ด้านหลังตามมาด้วยอีโมจิยิ้ม
หลินเหว่ยได้แต่อึ้ง “…”
หลินเหว่ยจึงต้องเชื่อแล้ว
ความหมายของแมรี่…เอ่อ…ลู่เหยาจือก็คือส่งบัตรให้หลินเหว่ยสองใบเพื่อเป็นการ ‘ชดเชย’ ให้กับเรื่องในครั้งนี้
“พูดจริงๆ แล้วเป็นเพราะผมเปิดไมค์ถึงได้เกิดเรื่องพวกนี้” ในข้อความเสียงดาราดังกำลังตั้งใจอธิบาย “แต่ทำให้คุณต้องเดือดร้อนถูกด่าโดยไม่มีสาเหตุ ผมอยากขอโทษคุณ ครั้งที่แล้วคุณบอกว่าคุณพักที่เมืองตงไห่ใช่ไหม งานแถลงข่าวจัดที่เมืองตงไห่ ถ้ามีเวลาคุณยินดีมาไหม”
น้ำเสียงของเขายังคงทุ้มไพเราะ และไม่เหมือนอย่างที่คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ว่า ‘ทื่อๆ ไม่มีความอ่อนโยน’ หลินเหว่ยเปิดฟังรอบที่สองพลางคิดในใจว่าภาพลักษณ์ของคนในวงการบันเทิงเป็นของปลอมจริงด้วย ทั้งที่ไม่ว่าจะเป็นแมรี่ก็ดีหรือลู่เหยาจือเองก็ตาม ทั้งคู่นุ่มนวลอ่อนโยนมาก นี่คือ ‘หนุ่มประเภทเกลือ’ อย่างที่พวกเขาพูดที่ไหนกัน หลินเหว่ยเคยค้นหา คำว่าประเภทเกลือใช้สำหรับคนที่เฉยเมยเย็นชาไม่ใช่เหรอ
ขณะเดียวกันหลินเหว่ยก็มีความคิดแตกแยกอยู่บ้าง ความรู้สึกของเขาที่มีต่อลู่เหยาจือซึ่งปิดบังตัวตน กับแมรี่ตอนที่เป็นเพียงแค่ ‘แฟนคลับ’ ธรรมดาคนหนึ่งนั้นไม่เหมือนกัน เวลาแมรี่ไม่พูดก็แล้วไป แต่พอพูดแล้วก็มีอารมณ์ขันแสนเย็นชาที่ทำให้คนตะลึง พูดสรุปง่ายๆ ก็คือเป็นคนมีมุกและน่ารักคนหนึ่ง ไม่มีความรู้สึกเว้นระยะห่างกับหลินเหว่ยหรือว่าชาวเน็ตคนอื่น ตอนนี้ ‘เหยา’ ที่คุยกับเขา คล้ายกับอยู่ตรงกลางระหว่างแมรี่ที่เขารู้จักกับลู่เหยาจือที่เขาคุ้นเคยแต่ไม่รู้จัก ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหนึ่งกับหลินเหว่ย แต่แน่นอนว่าไม่ได้รังเกียจ
แม้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ของ ‘สตรีมเมอร์’ และ ‘แฟนคลับ’ แต่หลินเหว่ยก็รู้จักแมรี่มาครึ่งค่อนปีแล้ว รู้ว่าถึงแม้เขาพูดน้อย แต่ก็มีนิสัยพูดคำไหนคำนั้น
เคยมีครั้งหนึ่งโต้วหลงเลียนแบบกิจกรรมในวงการบันเทิง โดยการจัดอันดับสตรีมเมอร์ที่มีความนิยมสูงสุด แฟนคลับที่เช็กอินทุกวันสามารถโหวตได้หนึ่งคะแนน ถ้าเติมเงินจำนวนที่กำหนดเป็นพิเศษในหน้าเว็บนั้นก็จะสามารถโหวตได้มากขึ้น โต้วหลงให้คำมั่นว่าสุดท้ายแล้วสตรีมเมอร์ที่ได้อันดับหนึ่งของการจัดอันดับรวมจะมีงานทั้งออฟไลน์ออนไลน์เป็นจำนวนมาก หลินจื่อไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนัก ปกติแล้วนี่เป็นสนามรบที่โกลาหลของบรรดาสตรีมเมอร์สาวๆ จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาที่ไม่เปิดเผยแม้แต่ใบหน้า
ผลสุดท้ายไม่รู้ว่าใครไปพูดกับแมรี่ เขาเลยทิ้งข้อความให้หลินจื่อประโยคหนึ่ง
‘ตารางจัดอันดับนี้น่าสนใจ ผมจะทำให้คุณคว้าที่หนึ่งได้แน่นอน’
จากนั้นก็บุกเดี่ยวไปแบตเทิล
ความจริงแล้วตารางจัดอันดับความนิยมนั่น ที่บอกว่าแฟนคลับเช็กอินก็สามารถโหวตได้เป็นเรื่องเท็จ ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์จริงๆ ก็คือการเติมเงิน ทางฝั่งสตรีมเมอร์สาวๆ มีคนจัดตั้งการระดมเงิน ส่วนหลินจื่อล่ะ? ชาวด้อมนกไม่แคร์เรื่องนี้เช่นกัน พอนึกขึ้นได้ถึงค่อยไปเช็กอินโหวตเป็นบางครั้งเท่านั้น
มีแค่แมรี่คนเดียวที่มุ่งมั่นต่อสู้ในแนวหน้า ‘ต้องให้หลินจื่อชนะให้ได้’ ผลปรากฏว่าสุดท้ายถูกเขาคนเดียวทุ่มเงินจนนั่งบัลลังก์ที่หนึ่งอย่างมั่นคงติดต่อกันสามสิบวัน ถึงแม้รายชื่อบนตารางจะมีห้าแอ็กเคานต์ แต่ว่าคนที่อยู่ในโต้วหลงมานานแล้ว ใครไม่รู้เรื่องที่สายเปย์แสนห่วยคนเดียวมีห้าแอ็กเคานต์กันบ้าง
ระหว่างที่แบตเทิล เสี่ยวหลี่เคยรายงานกับหลินจื่อว่าคุณชายหลิน ขอร้องคุณล่ะ คุณไม่เปิดเผยแม้แต่ใบหน้า แล้วเราจะติดป้ายโฆษณาได้ยังไง ให้ปล่อยคาแร็กเตอร์การ์ตูนของคุณหรือว่าตัวละครซิงป้า*? คุณกล่อมแมรี่ของคุณว่าอย่ากดดันเด็กน้อยอีกเลย ให้ทางออกกับพวกสตรีมเมอร์สาวที่อยู่อันดับสองอันดับสามบ้างเถอะ!
ที่จริงหลินจื่อรู้สึกว่าการร้องขอของเสี่ยวหลี่มีเจตนาก่อกวนนิดหน่อย เพราะแมรี่ไม่ได้โกงการแข่งขันและทำเกินเลย การที่เต็มใจช่วยเขาชิงที่หนึ่งเป็นการตัดสินใจของอีกฝ่าย แต่เขารู้สึกว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นการหลอกลวงเงิน ไม่คุ้มกับแมรี่ เขาพูดกับเสี่ยวหลี่ว่าถ้าหากเขาเกลี้ยกล่อมแมรี่ให้ยอมเลิกได้ โต้วหลงจะคืนเงินกลับไปได้ไหม
การกระทำของฝั่งโต้วหลงเองก็น่าสนใจ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเห็นด้วย บอกว่าถ้าแมรี่ยอมเลิกเพียงเท่านี้ก็จะคืนเงินให้ทั้งหมด หลินจื่อจึงไปพูดกับแมรี่
‘แมรี่ๆ พวกเราไม่เล่นเรื่องนี้แล้วเถอะนะ จะคืนเงินให้คุณหมดเลย ผมไม่อยากได้ที่หนึ่งนี้จริงๆ’
ใครจะรู้แมรี่ถึงกับพูดว่า
‘ไม่ได้ ฉันอาศัยความสามารถโหวตคุณจนเป็นที่หนึ่ง ใครก็อย่ามาขวางฉันทั้งนั้น…คุณเองก็ไม่ได้’
ผลสรุปของเรื่องนี้คือโต้วหลงทีวียอมศิโรราบเพื่อเงิน แม้แต่ตอนจะติดตั้งป้ายโฆษณาก็ยังมาถามแมรี่ว่าคุณท่านครับ คุณคิดว่าภาพพวกนี้ที่พวกเราเลือกเป็นยังไงบ้าง และนั่นเลยทำให้หลินจื่อได้รู้จักแมรี่อย่างชัดเจนอีกครั้งว่าเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก สิ่งที่เขาถูกใจ ไม่ว่านั่นคืออะไร เขาต้องได้มันมา เรื่องที่เขาจะทำ หากเริ่มทำแล้ว ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมายก็ไม่มีทางวางมือเด็ดขาด
ดังนั้นตอนนี้ที่รู้ว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ หลินเหว่ยเองก็รู้ว่าคงไม่มีหนทางปฏิเสธการ ‘ชดเชย’ ด้วยบัตรมีตติ้งสองใบนี้ได้แน่นอน เขาถึงขนาดคิดด้วยว่าถ้าตัวเองปฏิเสธ ลู่เหยาจือคงโทรศัพท์หาโต้วหลงทีวีโดยตรงเพื่อเอาที่อยู่ของครอบครัวเขา จากนั้นก็มาส่งบัตรให้ด้วยตัวเอง… อืม แม้ว่าการคาดเดานี้จะทำให้หลินเหว่ยใจเต้นเล็กน้อย เพราะในงานมีตติ้งต่อให้ใกล้แค่ไหนก็ยังอยู่ด้านบนเวทีกับด้านล่างเวที แต่หากลู่เหยาจือมาด้วยตัวเองนั้นความหมายคงต่างออกไป
แต่ว่าสภาพที่ในบ้านของหลินเหว่ยอัดแน่นไปด้วยสินค้าที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์และโปสเตอร์ อย่าเพิ่งให้ลู่เหยาจือเห็นดีกว่า ไม่อย่างนั้นต่อให้มีปากมากมายก็อธิบายได้ไม่ชัดเจนเรื่องที่หลินเหว่ยไม่ใช่หนุ่มตำหนักเหยาฉือ แต่เพียงแค่ชอบใบหน้าของเขาเท่านั้น อ้อ ตอนนี้คิดขึ้นมาได้ เรื่องที่ ‘ชอบใบหน้าของเขา’ ทางที่ดีที่สุดก็อย่าพูดเลย เพราะเขินมากจริงๆ!
หลินเหว่ยจึงต้องยอมรับเอาไว้
เขายังไม่ได้คิดให้ดีว่าจะพูดเรื่องในครั้งนี้กับคุณแม่หลินยังไง คุณแม่หลินไม่เข้ากลุ่มแฟนคลับ แต่เรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้แถมยังพัวพันถึงลูกชายของเธออีก ต้องมีช่องทางให้ได้รู้ข่าวภายหลังแน่ เดิมทีหลินเหว่ยเตรียมคำอธิบายไว้ดีแล้วว่า ‘นี่เป็นความเข้าใจผิดเท่านั้น’ แต่ตอนนี้แมรี่เปิดเผยตัวตนยอมรับว่าตัวเองคือลู่เหยาจือ แถมยังแอดวีแชตส่งบัตรมาด้วย หลินเหว่ยคงโกหกคุณแม่หลินแล้วยังไม่ให้เธอไปเจอกับไอดอลไม่ได้หรอกใช่ไหม คุณแม่หลินพูดถึงมานานมากแล้วว่าอยากเจอลู่เหยาจือสักครั้ง ไม่ควรปล่อยโอกาสดีให้หลุดมือ สามารถทำให้ความฝันของคุณแม่หลินเป็นจริง การถูกแฟนคลับของลู่เหยาจือด่าก็ถือว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่
ผืนป่าโตแล้ว งั้นผมรับไว้แล้วกัน ขอบคุณแทนแม่ของผมด้วย
เหยา ?
เหยา [แพนด้ามีเครื่องหมายคำถาม.jpg]
เหยา ‘คนในบ้าน’…ที่ชอบผม…คนนั้น คือคุณป้า?
ผืนป่าโตแล้ว [แพนด้ามีเครื่องหมายคำถาม.jpg]
ผืนป่าโตแล้ว ใช่แล้ว! แม่ผมเอง ชอบจนหัวปักหัวปำ
ผืนป่าโตแล้ว ไม่ได้เหรอ 🙂
เหยา …
เหยา เปล่าๆ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก
ผืนป่าโตแล้ว งั้นก็ดี
ทางนั้นส่งมีมเหงื่อไหลมาอีก หลินเหว่ยมองๆ ไปแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ความกระวนกระวายใจและความรู้สึกไม่คุ้นเคยตอนเพิ่งแอดวีแชตหายไปแล้ว แมรี่ก็คือแมรี่ ต่อให้ความจริงแล้วเขาเป็นดาราดังคนหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงเป็นแมรี่
หลังจากคิดถึงจุดนี้ได้แล้ว เขาก็มีความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
แม้เขาสามารถถือว่าคำพูดคำด่าของคนพวกนั้นไม่มีอยู่ เพราะลู่เหยาจือเองก็รับปากแล้วว่าจะจัดการปัญหาเละเทะนี้ให้เรียบร้อย แต่ถึงขั้นนี้แล้ว แมรี่ยังสามารถออนไลน์ได้อยู่ไหม ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยเปิดสตรีมเลย แต่ข่าวจากทางเสี่ยวหลี่บอกว่าถึงแม้เขาไม่ได้สตรีมแต่ในห้องสตรีมก็มีคนแปลกๆ เข้ามาเยอะมาก ความหมายของเสี่ยวหลี่และแพลตฟอร์มคือทางที่ดีช่วงนี้ควรระมัดระวังหน่อย ถึงแม้พวกเขาต้องการกระแส แต่ก็ไม่อยากให้คนสำคัญของตัวเองถูกรุมโจมตี
บางทีเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งถึงจะผ่านพ้นไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนหลินจื่อก็สามารถสตรีมต่อได้ แต่เขาไม่กล้าไว้ใจว่าแมรี่ที่เป็นศูนย์กลางของหัวข้อ ถ้าปรากฏตัวอีกครั้งในห้องสตรีมจะชักนำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ยังไงบ้าง ไม่ว่าจะมีคนเชื่อหรือไม่ก็ตามว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ แต่ ‘ช่างประปาแมรี่’ ก็คือระเบิดที่ตั้งเวลาลูกหนึ่ง
ลู่เหยาจือเองคิดยังไง เขายังจะใช้แอ็กเคานต์ของแมรี่ไหม
หลินเหว่ยอยากรู้ แต่เขาไม่ได้ถาม เขารู้สึกว่าในใจของตัวเองมีคำตอบแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปยืนยันอีกรอบ การเซ้าซี้ทำให้คนรำคาญ
แมรี่ไม่ปรากฏตัวอีก เป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน หลินเหว่ยไม่อยากยอมรับแบบนี้ ยิ่งไม่อยากได้ยินจากปากของลู่เหยาจือ เขาจึงเลือกที่จะหลอกตัวเอง หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง
ทว่าความจริงก็เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่หลินเหว่ยได้รับบัตรงานมีตติ้งที่นั่งวีไอพีซึ่งส่งพัสดุมา แมรี่ก็ไม่เคยปรากฏตัวอีก
แอ็กเคานต์รองของเขาไม่เคยออนไลน์ หลายแอ็กเคานต์ในโต้วหลงทีวีก็ไม่ทุ่มของขวัญอย่างลึกลับให้ผืนป่าโตแล้วอีก กระทั่งเตี๋ยอิ่งยังวิ่งมาหยอกล้อ เมื่อก่อนทั้งเว็บไซต์จะนำเสนอข่าวทุกวันว่าช่างประปาแมรี่ทุ่มกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้ผืนป่าโตแล้ว พอตอนนี้ไม่เห็น ก็เลยคิดถึงความรู้สึกที่ถูกคนรวยเหยียบหน้าอยู่บ้าง
หลินจื่อไม่มีอะไรจะพูด เขาส่งกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้เตี๋ยอิ่งเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรู้สึกของการที่ทั้งเว็บไซต์นำเสนอข่าว ท่าทีที่ผิดปกติของเขาทำให้เตี๋ยอิ่งสะดุ้งตกใจ จึงถามว่า ‘นายเป็นอะไร อารมณ์ไม่ดี?’ แล้วพูดอีกว่า ‘ฉันรับไว้ไม่ได้ รอนายสตรีมก่อนแล้วฉันจะคืนกล่องของขวัญแพลทตินั่มให้นาย’
หลินจื่อไม่สามารถพูดถึงฐานะที่แท้จริงของแมรี่กับเตี๋ยอิ่งได้แน่นอนอยู่แล้ว จึงพูดเรื่อยเปื่อยว่าตัวเองใกล้กลับมาสตรีมเหมือนเดิม เลยอาศัยโอกาสที่โยนของขวัญให้นายมาโปรโมต เตี๋ยอิ่งเชื่ออย่างว่าง่าย ดังนั้นจึงช่วยเขาโปรโมตในห้องสตรีมของตัวเอง ผู้ยิ่งใหญ่หลินจื่อที่เคยขึ้นคำค้นหายอดนิยมกลับมาแล้ว!
หลินเหว่ยเปิดสตรีมหลังจากเรื่องคำค้นหายอดนิยมจบไปแล้วสามวัน แม้ในห้องสตรีมจะมีคนก่อกวน แต่ก็สรุปได้ว่าบรรยากาศคึกคักกว่าเมื่อก่อน คนจำนวนมากที่เล่นเกม Summon Spirits แล้วไม่ดูสตรีมก็ได้รู้จักเขาเพราะเรื่องครั้งนี้ และมีบางส่วนที่ไม่เล่น Summon Spirits แต่ก็หันมาสนใจ เข้ามาดู ‘ตัวการสำคัญ’ ชาวด้อมนกคุยกันบอกว่าลูกชายดังแล้ว แล้วก็มีคนพูดว่าลูกชายได้รับความไม่เป็นธรรม ทุกคนจึงทุ่มของขวัญปลอบใจ ส่งซับกระสุนหยอกให้เขาสบายใจ
ซึ่งในนี้ไม่มีแมรี่
หลินจื่อจัดกิจกรรมพาแฟนคลับเล่นเกมอีกครั้ง ผู้ควบคุมถามว่าครั้งนี้ต้องเหลือที่ให้แมรี่ไหม พูดด้วยท่าทางระมัดระวังเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้โทษพวกเขาหรอก เพราะตลอดมาหลินจื่อเป็นคนติดต่อแมรี่ด้วยตัวเอง เมื่อคิดอย่างละเอียดเขาก็ไม่เคยสนิทสนมกับด้อมนกคนอื่น หลินเหว่ยมองบันทึกแชตที่หลังจากวันนั้นแล้วก็ไม่ได้คุยกันอีก จากนั้นไปค้นดูโมเมนต์วีแชตที่ลู่เหยาจือเปิดเป็นสาธารณะ ก็ไม่ได้อัพเดตมาสักระยะแล้วเหมือนกัน ไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายจนทำให้ลำบากใจ จึงพูดตรงๆ ว่าไม่ต้องหรอก เลือกคนอื่นเถอะ
ถึงแม้แมรี่ไม่ได้ออนไลน์ แต่ห้าอันดับของเขากลับไม่ได้หล่นลงจากอันดับสายเปย์ บางครั้งหลินจื่อเคยกดไปเห็นไอดี ก็จะรู้สึกไม่สบายใจเล็กๆ
พูดตามตรง หลินเหว่ยสามารถยอมรับได้ว่าแมรี่คือลู่เหยาจือ แต่เขาไม่มีทางยอมรับได้ถ้าแมรี่จะไม่ปรากฏตัวอีกเพราะเหตุการณ์นี้
เขาแคร์ ‘แมรี่’ มากกว่าลู่เหยาจือเยอะ
* ซิงป้า เป็นชื่อรองของกานหนิง
โปรดติดตามตอนต่อไป…