ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1 บทที่ 9-10 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Don't Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ

ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1 บทที่ 9-10 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ทดลองอ่าน Don’t Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ เล่ม 1

ผู้เขียน : 柚子冰 (You Zi Bing)

แปลโดย : ซิ่งหลัน

ผลงานเรื่อง : 不要轻易开麦 (Bu Yao Qing Yi Kai Mai)

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – –

บทที่ 9

 

ลู่เหยาจือมาตงไห่ร่วมงานแถลงข่าวกำหนดวันฉายของละครสะท้อนชีวิตเรื่องหนึ่งที่เขารับบทพระเอก เนื่องจากเขาถูกกักตัวให้ถ่ายทำอย่างหนักในกองถ่ายเรื่อง ‘กลียุคฉางอัน’ นี่จึงเป็นครั้งแรกหลังจากหลายเดือนที่เขาถูกปล่อยมาออกงานอย่างเปิดเผย ดังนั้นพวกแฟนคลับจึงให้ความสนใจกันมาก พวกหวงหนิว* โก่งราคาบัตรขึ้นไปจนเป็นหมื่น แต่ก็ยังมีสาวๆ ตำหนักเหยาฉือกัดฟันซื้อ เพราะเมื่อเทียบกับเงินแล้ว การไปในงานเพื่อดูพี่ชายที่กว่าจะกลับมาในสังคมปัจจุบันได้นั้นสำคัญยิ่งกว่า

นานมากแล้วที่สาวตำหนักเหยาฉือไม่ได้เห็นเมนของพวกเธอ จึงพากันตื่นเต้นนิดหน่อย พากันพูดคุยในเวยป๋อและกรุ๊ปวีแชตว่าต้องซัพพอร์ตให้ดี ต้องรักษาความเป็นระเบียบในงานให้ดีด้วยเช่นกัน จะทำให้เหยาเหยาเสียหน้าไม่ได้

ที่พวกเธอไม่รู้ก็คือบางทีตัวลู่เหยาจือเองอาจจะตื่นเต้นมากกว่าพวกเธอเสียอีก ซึ่งก็เป็นเหตุผลประมาณเดียวกัน

ห้องพักผ่อนหลังเวทีงานแถลงข่าว ช่างแต่งหน้ากำลังจัดแต่งทรงผมให้ลู่เหยาจือ ถ่ายภาพยนตร์พีเรียดอยู่นานมากจนไม่ได้ออกงานเลย เส้นผมของเขาที่เดิมทีก็ยาวนิดหน่อยอยู่แล้วเลยยิ่งยาวมากขึ้น เป็นระดับความยาวที่สามารถมัดเป็นจุกเล็กๆ ตรงด้านหลังได้พอดี เหมาะกับการจัดแต่งทรงมาก ช่างแต่งหน้าสนิทกับเขา ตอนที่เป่าผมไปก็เริ่มพูดคุย “ช่วงนี้เส้นผมของคุณแย่นะ พักผ่อนไม่พอใช่ไหม” พูดเสร็จไม่ได้รับการตอบกลับ จึงชำเลืองมองแล้วพบว่าลู่เหยาจือเอาแต่มองโทรศัพท์อยู่ตลอด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนิดหน่อย

ช่างแต่งหน้า “ทำไมเหรอ มีเรื่องด่วน?”

ลู่เหยาจือ “ฮะ?” คำหนึ่ง

ช่างแต่งหน้าเห็นท่าทางเซ่อซ่าน่ารักที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยของเขา เลยอดยิ้มไม่ได้ “จิตใจล่องลอย คุณกำลังรอคนตอบข้อความเหรอ”

ลู่เหยาจือเหลือบตาขึ้นมองตัวเองในกระจก มีท่าทางจิตใจไม่อยู่กับตัวจริงด้วย ตอนแรกอยากพูดว่าเปล่า แต่รู้สึกว่าเห็นชัดเจนเกินไป ถ้าปฏิเสธจะยิ่งเด่นชัดกว่าเดิม เขาจึงพูด “อืม” เบาๆ แล้วไม่คิดจะพูดต่อ ช่างแต่งหน้าเองก็รู้จักวางตัว ได้แต่แอบคาดเดาอยู่ในใจ งานชิ้นใหญ่อะไรที่ยังไม่คอนเฟิร์มถึงทำให้ลู่เหยาจือกระวนกระวายขนาดนี้

ช่างแต่งหน้าเดาผิดแล้วว่าเขากำลังกังวลอะไรอยู่

สิ่งที่ทำให้ลู่เหยาจือจิตใจไม่สงบก็คืออีกไม่ถึงชั่วโมงงานแถลงข่าวก็จะเริ่มแล้ว แต่หลินจื่อกลับไม่ติดต่อเขามา เจ้าเด็กสตรีมเมอร์จะมาจริงไหม

แต่ว่าบัตรที่ส่งไปก็มีคนเซ็นรับแล้ว ทำไมจะไม่มาล่ะ เขาอยากให้ตัวเองไม่ต้องคิดมากแล้วรอคอยการพบหน้าในอีกสักครู่ก็พอ เขาเป็นคนเลือกบัตรวีไอพีเองกับมือ มันเป็นตำแหน่งที่เห็นหน้าได้ชัดพอดี เขาอยากใช้วิธีนี้เจอหลินจื่อ แล้วก็คิดอยู่ตลอดตั้งแต่วินาทีที่ส่งบัตรไปให้จนถึงตอนนี้ ความจริงเหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีแล้ว แต่กลับอดไม่ได้ที่จะเปิดวีแชตดูบันทึกแชตซ้ำไปมา

ทำไมหลินจื่อไม่ติดต่อมาล่ะ

เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะขายตั๋วไปแล้ว เจ้าเด็กสตรีมเมอร์ไม่ใช่คนที่ขาดแคลนเงิน สถานที่จัดงานก็เดินทางสะดวกมาก แถมวันนี้ยังเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่มีเหตุผลที่จะไม่มาเพราะเรื่องเวลาว่างเลย…งั้นทำไมถึงไม่ติดต่อมา โดยทั่วไปแล้วสถานการณ์แบบนี้จะต้องพูดอย่างมีมารยาทว่า ‘ผมถึงงานแล้ว’ ประมาณนี้นะ แล้วทำไมถึงไม่มีข้อความอะไรเลย

เป็นเพราะช่วงนี้ตัวเองไม่ได้ส่งวีแชตหาเขาเหรอ…ดังนั้นก็เลยเกรงใจไม่กล้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน?

ถ้าหากเป็นเพราะเหตุผลแบบนี้จริงงั้นคงต่อว่าไม่ได้ แต่คิดถึงตรงนี้แล้วลู่เหยาจือก็รู้สึกโมโห จบงานแถลงข่าวแล้วอยากบินไปเมืองหลวงแพ่นกบาลแจ็คใจแทบขาด

วันนั้นที่เรื่อง ‘กลียุคฉางอัน’ ถ่ายทำเสร็จและปิดกล้อง ลู่เหยาจือนั่งอยู่บนรถที่กลับโรงแรมยังคิดอยู่เลยว่าในที่สุดก็เป็นอิสระแล้ว วันหยุดสิบกว่าวันหลังจากนี้ไม่เพียงสามารถเล่นเกมดูโอ้กับเจ้าเด็กสตรีมเมอร์ได้ หลังจากแอดวีแชตยังคุยเรื่องอื่นนอกเหนือจากเกมได้ด้วย คิดแล้วมีความสุข

แต่ดีใจได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พอถึงโรงแรมเขาก็เห็นใบหน้าน่ารำคาญของแจ็ค และข่าวที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว

แจ็คพูดอย่างภาคภูมิใจมากว่ามีงานถ่ายปกนิตยสารที่เก็บตกมาจากมือคนอื่นได้ ข้อกำหนดสูงเป็นพิเศษ ต้องรีบเดินทางไปต่างประเทศทันที ไม่ใช่ไปต่างประเทศธรรมดา พวกเขาต้องไปถ่ายที่แอฟริกาใต้!

ลู่เหยาจือไม่มีทางปฏิเสธ เพราะการถ่ายครั้งนี้เป็นหน้าปกเดือนเก้าของนิตยสารแฟชั่นผู้หญิงชั้นนำ ถึงแม้จะไม่ใช่ปกเดี่ยวและไม่ใช่ตัวหลัก แค่ไปเสริมให้นางเอกภาพยนตร์ที่โด่งดังคนหนึ่งเด่นขึ้น แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นหัวนิตยสารเองหรือว่าฐานะของดาราสาวคนนั้น ล้วนสามารถทำให้ชื่อเสียงของลู่เหยาจือเพิ่มขึ้นได้

นิตยสารเสียเวลากว่าครึ่งปีถึงสามารถเชิญนางเอกดังระดับอินเตอร์ที่เก็บตัวมานานออกมาจนได้ นอกจากนี้ยังตัดสินใจแผนการขั้นสุดท้ายของการถ่ายภาพทั้งหมด โดยธีมคือราชินีและอัศวิน เดิมที ‘อัศวิน’ ที่ถูกกำหนดไว้คือดาราชายที่กำลังโด่งดังอีกคนหนึ่งในบริษัทเดียวกันของพวกเขา แต่โชคไม่ดีอย่างมาก ตอนถ่ายภาพยนตร์สลิงของดาราชายคนนั้นเกิดปัญหา ตกลงมาตอนที่ต่อสู้จนขาได้รับบาดเจ็บ เส้นเอ็นและกระดูกเสียหายต้องพักรักษาตัวหนึ่งร้อยวัน ไม่สามารถไปถ่ายภาพได้แล้ว

ไม่รู้ว่าแจ็คทราบข่าวนี้ได้อย่างไร และไม่สนด้วยว่าคนในบริษัทจะนินทาหรือเปล่า เขารีบเอาข้อมูลของลู่เหยาจือเข้าไปหาหัวหน้าบรรณาธิการคนนั้นทันที เดิมทีหัวหน้าบรรณาธิการรู้สึกว่าทำแบบนี้ไม่ค่อยดี แต่บังเอิญว่าผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวคนนั้นอยู่ด้วยพอดี มองรูปของลู่เหยาจือแล้วรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่เลว จึงส่งให้นางเอกสาวดูแล้วถามว่าได้ไหม ลู่เหยาจือจึงอาศัยหน้าตาของตัวเองและความหน้าไม่อายของแจ็คคว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้สถานการณ์ที่ตัวเขาเองไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลัง

การเดินทางครั้งนี้กระชั้นชิดมาก ตอนที่ลู่เหยาจือถือพาสปอร์ตขึ้นเครื่องบิน เขาไม่ได้คิดเลยว่าแจ็คจะทำเพื่อให้เขาตั้งใจกับการถ่ายภาพ อีกฝ่ายไม่ได้เตรียมแม้กระทั่งพ็อกเก็ตไวไฟหรือซิมการ์ดของต่างประเทศให้เขาเลย สถานที่ที่พวกเขาพักก็ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ สัญญาณไวไฟของที่นั่นจะมีหรือไม่มีก็ไม่ได้แตกต่างกัน ดังนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาจึงกลายเป็นเครื่องสำหรับเล่นเกม Anipop* และฟังเพลงเท่านั้น การเดินทางสี่วันจึงขาดการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง

ลู่เหยาจือรักการทำงาน ดังนั้นในระหว่างการถ่ายภาพจึงตั้งอกตั้งใจโดยไม่ติดอะไร ถึงแม้เขาอยากพัฒนากับหลินจื่อในสภาพความเป็นจริง แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนในเวลาชั่วครู่ชั่วยามนี้ ทว่าปัญหาคือหลังเขากลับประเทศก็พบความจริงเรื่องหนึ่ง ตัวเองไม่มีข้อความเลย ดูเหมือนหลินจื่อไม่สนใจที่ ‘ลู่เหยาจือ’ และ ‘แมรี่’ ไม่ได้ปรากฏตัวเลยแม้แต่น้อย เขายังสตรีมและทำกิจกรรมตามปกติ รีเพลย์ดูบันทึกการสตรีมสามสี่ชั่วโมง ลู่เหยาจือไม่ได้ยิน ‘แมรี่’ แม้สักคำ ส่วนวีแชตยิ่งไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย

แม้ไม่ถึงกับทำให้ลู่เหยาจือเสียกำลังใจ แต่ก็เพียงพอที่จะกระทบจิตใจเขา

เขาครุ่นคิด บางทีวันที่จะได้เจอหน้ากันใกล้มาถึงแล้ว ทางหลินจื่อเองก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนเหมือนกับตัวลู่เหยาจือ ดังนั้นเขาก็เลยอดทนรอแล้วรอเล่า รอจนกระทั่งมาถึงวันแถลงข่าว

แต่กลับยังคงรอจนไม่ได้อะไรเลยเหมือนเดิม

 

เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีงานแถลงข่าวจะเริ่มขึ้น ดาราสาวสวี่หลินจู๋ที่แสดงเป็นแฟนสาวในละครซึ่งพัวพันคบๆ เลิกๆ กันมาหลายปีเดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับพาพิธีกรที่ทางผู้จัดเชิญมาด้วยกัน เตรียมคุยเรื่องขั้นตอนในอีกสักครู่อย่างง่ายๆ เพื่อให้เข้าใจตรงกัน นั่งอยู่ในห้องพักผ่อนยังสามารถได้ยินเสียงคนคึกคักที่ด้านนอก สื่อมวลชนกับแฟนคลับทยอยเข้างานแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวของสวี่หลินจู๋กำลังพูดถึงเรื่องที่ต้องระวังกับพิธีกร ส่วนไหนที่สามารถถามได้ ส่วนไหนถามไม่ได้ ลู่เหยาจือไม่สนใจฟังคำพูดที่ห้ามถามตอนสัมภาษณ์ของดาราสาวที่ร่วมงานด้วยกัน พอไม่มีสมาธิก็อดไม่ได้ที่จะไปดูโทรศัพท์มือถือ

ข้อความสุดท้ายที่หลินจื่อส่งให้เขาคือกระต่ายน้อยที่หมุนตัวเป็นวงกลม ซึ่งก็ผ่านไปหลายวันแล้ว และยังคงหมุนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ลู่เหยาจือคล้ายกับคิดตกอะไรอย่างนั้น จึงรีบพิมพ์ตัวอักษรแถวหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

เหยา ใกล้จะเริ่มแล้ว คุณอยู่ในงานหรือยัง

เหยา ตั้งใจดูผมให้ดีนะ 🙂

 

จากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์มือถือลง เงยหน้าขึ้นยิ้ม เหมือนยกภูเขาออกจากอก

‘ไร้จุดหมาย’ ละครสะท้อนชีวิตรักและการงานจำนวนสี่สิบตอน กำหนดเวลาเริ่มแถลงข่าวไว้ตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง บริเวณลานด้านนอกโรงแรมตงไห่เบียดแน่นไปด้วยสื่อมวลชนที่ได้รับเชิญและแฟนคลับผู้โชคดี ป้ายไฟแบนเนอร์ของพระเอกนางเอกมองแล้วทำให้คนตาลาย เสียงเชียร์ดังขึ้นต่อเนื่อง ส่วนพวกแฟนคลับที่เข้าไปในงานไม่ได้ก็ทำได้แค่เฝ้ารอดูไลฟ์สดทางออฟฟิเชียลที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ตอนนับเวลาถอยหลัง หน้าจอก็ค้างอยู่บ่อยๆ เพราะถูกฟลัดด้วยของขวัญ เห็นได้ชัดเจนว่าลู่เหยาจือบวกกับสวี่หลินจู๋มีกระแสความนิยมอย่างมาก

หลังจากโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ คนเขียนบท และทีมงานกองถ่ายโชว์ตัวเสร็จ ลู่เหยาจือกับสวี่หลินจู๋ที่เป็นพระเอกนางเอกถึงได้ขึ้นเวทีพร้อมกัน

อาจเป็นเพราะว่าเกือบสองเดือนแล้วที่ไม่ได้เห็นลู่เหยาจือในภาพลักษณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่ ‘ของค้างสต็อก’ พอแฟนคลับเห็นเขาก็เลยคลั่งกันมาก กรี๊ดกันในงานจนควบคุมไม่ได้ ซับกระสุนในแพลตฟอร์มไลฟ์ก็เต็มจนมองไม่เห็นหน้า เขายังคงมีท่าทางเย็นชาเหมือนเดิม หลังจากยิ้มอย่างมีมารยาทเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรมากอีก แต่สาวตำหนักเหยาฉือก็ชอบความรู้สึกเว้นระยะห่างแบบนี้ เสียงกรี๊ดจึงยิ่งดังมากขึ้น รอจนลู่เหยาจือหยิบไมโครโฟนพูดว่า “เงียบหน่อยครับ” ถึงได้ค่อยๆ สงบลง

แฟนคลับเองก็ใจเต้นใจสั่นอยู่นานจนหัวสมองเลอะเลือน ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าหลังจากลู่เหยาจือปลอบโยนแฟนคลับเสร็จ สายตาที่มองหาอะไรอยู่ไม่ไกลก็เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่มีคนชี้ออกมาว่าหลังการไลฟ์ครั้งนี้เริ่มต้นไม่นาน ดูเหมือนลู่เหยาจือใจลอยอยู่บ้าง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร จากนั้นก็โทษว่าตารางงานแน่นเกินไป พี่ชายเลยเหนื่อย

ลู่เหยาจือรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ เพราะเห็นคนซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งของบัตรสองใบนั้นที่ตัวเองให้ไปเป็นสุภาพสตรีสองคนที่อายุใกล้เคียงกัน เพราะอยู่ค่อนข้างไกลนิดหน่อยเลยมองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน แต่ด้วยสถานที่แบบนี้ พวกเธอจึงตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ บนใบหน้าเองก็ประดับด้วยรอยยิ้ม ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสบายใจ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงนึกว่าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับกองถ่ายหรือทางแพลตฟอร์ม เพราะในฐานะ ‘แฟนคลับ’ พวกเธอดูจะมีอายุมากสักหน่อย แต่ลู่เหยาจือก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็ว สองคนในนี้น่าจะมีคนหนึ่งที่เป็นแม่ของหลินจื่อซึ่งชอบตัวเองอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่ง…ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่ใช่หลินจื่อแน่นอน

แล้วเขาก็ไม่ได้มา

ถ้าบอกว่าไม่ผิดหวังก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ลู่เหยาจือจึงมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า ‘ไม่ได้เจออีกฝ่ายง่ายๆ อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย’ ดูท่าเมื่อก่อนที่ตัวเองนึกว่าหลินจื่อพูดพึมพำอะไรจำพวก ‘ลู่เหยาจือหล่อมาก’ ‘หลิงถ่งคล้ายเขาก็เลยหล่อ’ เป็นเพราะว่าชอบตน แต่ที่จริงคือเขาหลงตัวเองเกินไป ถ้ามีความรู้สึกชอบ ‘ลู่เหยาจือ’ จริง อีกฝ่ายก็คงใส่ใจมาตั้งนานแล้ว หลายวันนี้ตัวเองจะต้องมากระวนกระวาย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคอยเฝ้าวีแชตเหรอ

พอคิดดูแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผล สำหรับหลินจื่อแล้ว ดูเหมือนลู่เหยาจือเป็นคนที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลมาโดยตลอด ส่วนคนที่สนิทสนมกับเขา สามารถคุยเล่นหยอกล้อ เล่นเกมด้วยกันได้คือแมรี่ ไม่ใช่ลู่เหยาจือ

เขาเองก็คิดถึงจุดนี้ได้นานแล้ว ถึงได้คิดวิธีหนึ่งออกหลังจากเกิดเรื่องคำค้นหายอดนิยม อยากอาศัยโอกาสนี้ใช้ฐานะของ ‘ลู่เหยาจือ’ ไปสนิทสนมกับหลินจื่อ แต่เรื่องราวไม่ได้พัฒนาไปตามที่เขาคาดหวัง หลินจื่อไม่ได้สนใจลู่เหยาจือขนาดนั้น เหยื่อที่ลู่เหยาจือล่อ หลินจื่อกลับไม่ได้งับ

แต่ลู่เหยาจือไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ มาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่เล็กจนโต ขอเพียงแค่เป็นสิ่งที่เขาถูกใจ ต่อให้พ่ายแพ้ยับเยินแต่เขาก็ต้องคว้ามาไว้ในมือให้ได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ได้ จิตใจของลู่เหยาจือก็ค่อยๆ ฮึกเหิมขึ้นมา พิธีกรกำลังถามถึงพอดีว่าในเรื่องทำไมพระเอกที่เป็นเด็กหนุ่มยากจนถึงจีบนางเอกที่เป็นสาวสวยรวยอายุมากกว่าได้ มีเคล็ดลับอะไรมาแบ่งปันกับทุกคนบ้าง

ลู่เหยาจือพูดยิ้มๆ “ทำไมนายพรานถึงล่อลวงสัตว์ที่ถูกล่าให้เข้ามาในกับดักของตัวเองได้ ขอให้ทุกคนไปดูด้วยตัวเองนะครับ ถ้าสามารถใช้เพียงประโยคสองประโยคมาแบ่งปันได้ จะเรียกว่าเป็นนายพรานที่ดีได้ยังไงกันครับ” ไม่ผิด ลู่เหยาจือคือนายพรานที่มีความอดทนคนหนึ่ง

ประโยคนี้แมนเป็นที่สุด ท่าทางที่ลู่เหยาจือพูดช้าๆ พร้อมกับรอยยิ้มก็หล่อเท่จนทำให้แฟนคลับขาอ่อน ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคนไปวิเคราะห์ว่าทำไมเขาถึงใจลอยไปครู่หนึ่ง ก่อนจู่ๆ จะเหมือนเกิดประกายความคิดจนสภาพกลับมาเป็นปกติ ถึงอย่างไรก็เป็นหนุ่มหล่อประเภทเกลือที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หน้าเกลือ นิสัยก็เกลือ จะเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมายังไงแต่ก็ไม่ทำให้ ‘ภาพลักษณ์พังทลาย’

แล้วงานแถลงข่าวที่สถานการณ์ภายนอกดูสงบสุข ทว่าทำให้อารมณ์ของลู่เหยาจือเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ก็จบลงแบบนั้น นอกเหนือจากตอนทำงานลู่เหยาจือจะคอยแอบสังเกตตรงที่นั่งของคุณแม่หลินและเพื่อนของเธออยู่ตลอด เห็นพวกเธอยิ้มมีความสุขมากก็วางใจ คิดว่าต่อให้หลินจื่อไม่ได้มาด้วยตัวเอง จะดีจะดีเลวอย่างไรกลับไปคุณแม่หลินชมเขาสักประโยคสองประโยคก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว แต่ที่คิดไม่ถึงก็คืองานแถลงข่าวเพิ่งเสร็จสิ้น เขาลงจากเวที ผู้ช่วยก็วิ่งเข้ามาพูดว่าพี่ลู่ มีคุณน้าหน้าตาดีมากสองคนอยากพบคุณ เพราะว่าพวกเธอถือบัตรที่คุณมอบให้ ผมเช็กจนแน่ใจแล้ว ก็เลยให้พวกเธอรออยู่ในห้องพักผ่อน คุณอยากพบพวกเธอไหม

ลู่เหยาจือตะลึงงันครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจได้ภายในไม่กี่วินาทีว่าพบ

เขาก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเดินไปทางห้องพักผ่อน โดยไม่รู้เลยว่าที่นั่นมีอะไรกำลังรอคอยตัวเองอยู่

 

* หวงหนิว คือพวกที่เหมาตั๋วเพื่อมาขายโก่งราคาในภายหลัง

* Anipop เป็นเกมจับคู่ไอคอนน่ารัก 3 อันขึ้นไปเพื่อล้างกระดานทั้งหมด

 

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Don't Do That! คุณครับ อย่าเปิดไมค์ง่ายๆ

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com