ทดลองอ่าน แฟนสาวของผมเป็นผู้ชายครับ เล่ม 1 บทที่ 10-12 #นิยายวาย – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน แฟนสาวของผมเป็นผู้ชายครับ เล่ม 1 บทที่ 10-12 #นิยายวาย

3 of 3หน้าถัดไป

บทที่ 12

 

ด้วยมิตรภาพของไอศกรีมโคนนี้ เซวียโย่วข่าเลยหายโกรธเขา เฉิงอวี้ให้อีกฝ่ายเป่าลมร้อนกลิ่นช็อกโกแลตสองสามทีด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก็เบือนหน้าหนี

“พอแล้วๆ”

“งั้นยังเจ็บอยู่ไหม”

“ฉันไม่ใช่เธอ”

“อ๋อ” เซวียโย่วข่าพูดหลังจากที่กินเสร็จ “งั้นวันหลังฉันจะไปจับหิ่งห้อยที่เขาจงซานให้พี่นะ แต่ต้องไปตอนกลางคืนนะถึงจะมี…ต้องให้ปู่พาไป”

“ไม่ต้องไปแล้ว” เฉิงอวี้ตอบ

“แต่พี่อยากดูไม่ใช่เหรอ”

“ตอนนี้ไม่อยากดูแล้ว” เฉิงอวี้ทำหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจเอามากๆ “ไม่มีอะไรน่าดูหรอก”

“ถึงฉันจะดีใจมากที่พี่จะไม่ให้ไปจับ แต่ฉันก็ยังอยากบอกว่าเวลากลางคืนถ้าจับหิ่งห้อยมาไว้ในมุ้งตอนนอนมันจะสวยมากเลยนะ เหมือนดาวในภาพฝันเลย…” เนื่องจากคลังคำศัพท์ของเขามีจำกัด เลยอธิบายความรู้สึกนั้นในความทรงจำไม่ได้ “หลายอย่างสมัยเด็กฉันก็ลืมไปหมดแล้ว แต่มีปีหนึ่งไม่รู้ตอนนั้นอายุเท่าไร จู่ๆ พ่อก็จับหิ่งห้อยใส่ขวดแก้วให้ขวดหนึ่งแล้วเอามาปล่อยในมุ้ง ฉันกับพ่อนอนอยู่บนเตียงแล้วตั้งชื่อให้พวกมันทีละตัวๆ เลย”

“…”

“แต่ตอนนี้หิ่งห้อยเหลือน้อยลงแล้ว พ่อมีเวลาน้อยลงด้วย” เซวียโย่วข่าเท้าคางนั่งถอนหายใจเศร้าๆ อยู่บนเตียง “วันนั้นที่ไม่ได้จับหิ่งห้อยให้พี่ ฉันฝันว่าฉันกำลังปีนเขาจงซานแล้วจับหิ่งห้อยมาได้เยอะมากเลย” เขาคิดว่าถึงเฉิงอวี้จะไม่ค่อยยิ้ม แต่ถ้าได้เห็นอะไรสวยๆ งามๆ แบบนั้นจะต้องยิ้มออกแน่

เฉิงอวี้คุยเรื่องตอนเด็กกับเขาได้สักพักก็ได้ยินเสียงคนกลับมาถึงบ้าน

เซวียโย่วข่าชะโงกศีรษะออกไปมอง “ย่ากลับมาจากเล่นไพ่แล้ว”

“งั้นฉันกลับก่อนนะ” เฉิงอวี้ลุกขึ้น

“เดี๋ยวฉันไปส่ง” เซวียโย่วข่าพาเขาลงไปชั้นล่าง แต่พอเห็นย่าอยู่ที่ลานบ้านก็รีบดึงเฉิงอวี้ไปทางประตูหลัง

บริเวณหลังบ้านล้อมคอกเลี้ยงไก่ไว้ ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นเหม็นที่อธิบายไม่ถูกก็ตีขึ้นมาทันที…

ขี้ไก่ที่กองอยู่เต็มพื้นก็ได้ให้คำตอบนั้นกับเขาแล้ว

“ออกทางนี้เหรอ งั้นฉันออกประตูหน้าดีกว่า”

“รอแป๊บนึง” เซวียโย่วข่าเปิดประตูคอกไก่ ก่อนจะหยิบไข่จากรังมาได้สองฟอง โดยหลังจากที่ล้างน้ำสะอาดแล้วก็ส่งให้เฉิงอวี้ “ให้ไข่ไก่สองฟอง วันนี้แม่ไก่เพิ่งออกไข่ บำรุงได้ดีมากเลยนะ”

เฉิงอวี้มองไข่ไก่เปียกน้ำสองฟองนั้นด้วยแววตาซับซ้อน ไม่รู้จะรับดีหรือไม่รับดี

“เอาไปเถอะ! ไม่ต้องเกรงใจ” เซวียโย่วข่ายัดไข่ไก่ใส่มือเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง จากนั้นก็คว้าข้อมือพาเขาเดินออกไปทางหลังบ้านทันที

เฉิงอวี้สูดหายใจเข้าลึกแล้วกลั้นหายใจ ก้าวย่องหลบขี้ไก่บนพื้นด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ

“ออกทางนี้ ย่าจะได้ไม่รู้ว่าพี่มา”

“ฉันถึงกับต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้เลยเหรอ”

“ก็ไม่เชิง” เขารู้ว่าย่าเป็นคนชอบต้อนรับแขก ถ้าย่าเห็นเฉิงอวี้เข้าจะต้องชวนกินข้าวเย็นแน่นอน แล้วก็ต้องมาเหนื่อยทำอาหารเต็มโต๊ะ เซวียโย่วข่าทนเห็นย่าเหนื่อยขนาดนั้นไม่ได้ แต่จะพูดตรงๆ กับเฉิงอวี้ก็ไม่ได้อีก เขาจึงบอกว่า “ฉันเขินที่จะให้ย่าเห็นพี่น่ะ”

“เขินอะไรของเธอ”

พอพ้นจากบริเวณที่มีขี้ไก่ เฉิงอวี้ถึงได้หายใจสะดวก

“ก็เขินแหละ…” เซวียโย่วข่าคิดจนหัวแทบแตกก็ยังหาคำอธิบายดีๆ ไม่ได้

เฉิงอวี้เหมือนมองทะลุใจเขา เลยยิ้มน้อยๆ ในใจโดยไม่ซักไซ้ไล่เลียง

 

พอเฉิงอวี้กลับถึงบ้าน นกแก้วก็จามหนึ่งที ตากำลังจิบชาอยู่ เมื่อเห็นเขากลับมาก็เอ่ยถาม “ตอนบ่ายไปหาแม่หนูคนนั้นเหรอ”

“ไปเก็บเงินครับ”

“จริงเหรอ” ตาไม่เชื่อ เพราะเฉิงอวี้ไม่ค่อยสนใจเรื่องเงิน ต่อให้สร้อยทองตกพื้นยังขี้เกียจจะก้มเก็บเลย

“ไม่ได้เก็บเงินหรอกครับ” ไม่ใช่แค่ไม่เก็บ ยังเสียค่าไอศกรีมไปโคนหนึ่ง “เขาให้ไข่ไก่มาสองฟองแทน”

เฉิงอวี้ถือไข่ไก่สองฟองกลับมาจริงๆ

พอตาเห็นไข่ไก่เข้าก็หัวเราะเสียงดัง จากนั้นเฉิงอวี้ก็บอกว่าจะขึ้นไปชั้นบนแล้ว

ลุงเว่ยมองเขาเดินถือไข่ไก่ขึ้นไปก็ลูบผมสีดอกเลาของตัวเองแล้วกระซิบกับตาว่า “หรือว่าเสี่ยวอวี้กำลังมีความรัก”

“ก็ไม่แน่ ฉันว่าถึงจะไม่ใช่แบบนั้น แต่หลานคนนี้ต้องชอบเขาเข้าแล้วแน่ๆ”

ลุงเว่ยรู้สึกเหลือเชื่อ คุณชายใหญ่ตระกูลเฉิงผู้สูงส่ง ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา อารมณ์ก็ร้ายขนาดนั้น ดันยอมเสียเวลายี่สิบนาทีเดินไปหาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อทวงเงิน จากนั้นก็กลับมาพร้อมไข่ไก่สองฟอง…

แถมยังเอาไข่ไก่ขึ้นไปไว้บนห้องอีก

“ตาครับ” เสียงดังลงมาจากชั้นบน “ที่บ้านมียาทาลดรอยแผลเป็นไหมครับ”

“ต้องหาดูก่อนนะ เสี่ยวอวี้ หลานบาดเจ็บเหรอ”

เฉิงอวี้บอกว่าแค่เป็นแผลเล็กๆ ที่ขา ก่อนหน้านี้ไม่ได้สังเกต ไม่ได้เป็นอะไรมาก

ผ่านไปสักพักเฉิงอวี้ก็ถามอีกว่า “ตาครับ ที่บ้านมีมุ้งไหม” และ “ตาครับ พรุ่งนี้ตอนกลางวันเราไปเขาจงซานกันไหม”

 

“หมี่หมี่” ตอนเช้าย่าได้เอาหมาทง ที่เพิ่งทำเสร็จร้อนๆ ใส่ลงในตะกร้า “เอาไปให้บ้านปู่ผีหน่อยสิ”

หมายถึงปู่ของหู่ผีนั่นเอง

เซวียโย่วข่ารับคำสั่ง เขาต้องเอาหนังสือการ์ตูนสองสามเล่มไปคืนหู่ผีพอดีจึงหยิบตะกร้าแล้วตรงไปที่บ้านหู่ผี เขากับหู่ผีแลกการ์ตูนกันอ่านบ่อยๆ ซึ่งก็ยังมีหนังสือของเขาอีกหลายเล่มอยู่ที่บ้านนั้น

พอมาถึงหน้าลานบ้านของหู่ผี ยังไม่ทันเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเขา

โดนตีอีกแล้วเหรอ

มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

เซวียโย่วข่าคิดว่าจะเข้าไปดีไหม จะได้ช่วยหู่ผีพอดี แต่ก็ได้ยินหู่ผีร้องว่า “ผมไม่ได้ขโมยนะ! ผมไม่ได้ขโมยเงิน!”

“ถ้างั้นใครขโมยเงินยี่สิบหยวนล่ะ นอกจากแกจะมีใครอีก! คุกเข่าซะ!”

เซวียโย่วข่าแอบมองเข้าไปทางช่องประตู

หู่ผีคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายอยู่กับพื้น “ไม่ใช่ผมนะ ต้องมีขโมยเข้าบ้านแน่ๆ!”

“ขโมยจะเข้าห้องแม่แกมาขโมยแค่ยี่สิบหยวนเหรอ ทำไมมันไม่ขโมยทีวีไปด้วยล่ะ!”

“ที…ทีวีมันใหญ่เกินไป ขโมยไม่โง่นะ…แต่ยังไงก็ไม่ใช่ผม!”

แม่ของหู่ผีทั้งโมโหทั้งขำ เลยฟาดเขาทีหนึ่ง “ยังจะไม่ยอมรับอีกเรอะ!”

“อ๊า ไม่ใช่ผมจริงๆ แม่…แม่! อย่าตีผมเลย!”

“ถ้าไม่ใช่แกแล้วใครล่ะ”

“คือ…คือ…เพื่อนครับ! พวกเขามาดูการ์ตูนที่บ้านผม อาจจะเป็นพวกเขาก็ได้”

“ลูกหมายถึงเซวียโย่วข่า”

“ผมไม่รู้อ่า แต่อย่าตีผมเลย โอ๊ยยย เจ็บ…ยังไงก็ไม่ใช่ผมนะ!”

“นอกจากเขา ใครจะมาดูการ์ตูนบ้านเราอีก! วิตามินซีคราวก่อนเขาก็แอบกินใช่ไหม! ฉันบอกแกหลายครั้งแล้วนะ! อย่าไปเล่นกับเขาให้มาก! ไม่รู้หรือไงว่าพ่อเขาเล่นการพนันอยู่ข้างนอก วันหลังถ้ามาขอยืมเงินบ้านเรา ฉันจะดูซิว่าแกจะทำยังไง!”

“…”

“ครั้งหน้าถ้าเขามาอีกก็เก็บเงินในบ้านให้หมด!”

เซวียโย่วข่ากอดตะกร้ายืนอยู่ข้างนอก ใบหน้าเล็กๆ ห่อเหี่ยวจนย่นไปหมดทั้งหน้า

เขากอดตะกร้าวิ่งหนีออกมา แต่ไม่ได้กลับบ้าน เขาไปนั่งอยู่ที่เขื่อนกั้นน้ำ กินหมาทงร้อนๆ ไปหลายคำด้วยความโมโห

เขาไม่อยากไปหาหู่ผีแล้ว

แล้วหมาทงพวกนี้จะทำยังไงดี

จะกินเองหมดเลยเหรอ

ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำมีบ้านเพียงหลังเดียวที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และมันก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเซวียโย่วข่าพอดี

เขายังเป็นหนี้เฉิงอวี้อยู่ แถมเฉิงอวี้ยังซื้อไอศกรีมให้เขาอีก ชัดเจนแล้วว่าไข่ไก่สองฟองไม่พอใช้หนี้อย่างแน่นอน

แต่พอเซวียโย่วข่าไปถึงก็กลับพบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน รถก็ไม่อยู่ ดูท่าแล้วคงออกไปข้างนอกกันหมด เขาได้ยินเสียงจามแว่วๆ เขาจำได้ว่านั่นเป็นเสียงของนกแก้ว

คราวนี้เซวียโย่วข่าไม่ต้องรอนาน พอได้ยินเสียงรถยนต์แล่นมา เขาก็ลุกขึ้นยืน

“อ้าว?” ลุงเว่ยเห็นเขาก็หันไปมองเฉิงอวี้ คุณชายใหญ่ที่เมื่อครู่ยังง่วงอยู่ในรถ ตอนนี้กลับดูสดชื่นขึ้นแล้ว

“ลุง นี่หมาทงที่ย่าเพิ่งทอด” เซวียโย่วข่ารีบบอกจุดประสงค์ “หนูตั้งใจเอามาให้พวกลุงชิม”

“ย่าทำเองเหรอ แล้วตั้งใจเอามาให้เลยเหรอ” ตานึกชื่นชมความมีน้ำใจของผู้คนละแวกนี้ขึ้นมาอีกครั้ง “หนูไม่น่าลำบากเลย เกรงใจจริงๆ วันนี้พวกเราซื้อเงาะมานิดหน่อย เดี๋ยวเอากลับไปฝากย่าหน่อยนะ”

“ไม่ลำบากเลย หนูเดินผ่านทางลัดในทุ่งมา แค่สิบนาทีก็ถึงแล้ว” เขายื่นตะกร้าให้ จากนั้นลุงเว่ยก็เปิดประตู และพอเฉิงอวี้ล้างมือเสร็จก็หยิบขนมมาชิมหนึ่งชิ้น

เซวียโย่วข่ากินเงาะที่ลุงเว่ยให้ ก่อนจะถามว่า “ลุง พวกลุงไปเที่ยวในเมืองกันเหรอ”

“ไม่ใช่หรอก เฉิงอวี้เขาบอกว่าจะไปเขาจง…”

“ลุงเว่ย” เฉิงอวี้ที่กำลังกินหมาทงรีบขัดขึ้น “ผมพาเขาขึ้นไปข้างบนก่อนนะ”

ตอนเซวียโย่วข่าเดินตามเฉิงอวี้ขึ้นบันไดไปชั้นบนก็ยังถามว่า “พวกพี่ไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอ สนุกไหม”

“ไม่เกี่ยวกับเธอ”

เซวียโย่วข่าชะงักฝีเท้าเล็กน้อย

พอเฉิงอวี้พูดจบก็รู้ตัวว่าใช้คำพูดแรงไปหน่อย “ไปปีนเขาแถวๆ นี้แหละ แล้วเธอล่ะ ไม่ใช่บอกว่าจะไม่เล่นกับฉันแล้วเหรอ”

“ฉันพูดตอนไหน”

เฉิงอวี้เดินเข้าห้องแล้วมองไปที่เขา “เมื่อวานนายพูดเองว่าจะไปเล่นกับเพื่อนซี้ ลืมแล้วเหรอ”

“ฉันไม่เล่นกับเขาแล้ว”

เซวียโย่วข่าเดินเข้าไปในห้องเขา สิ่งแรกที่ทำคือลอบมองไปที่คอมพิวเตอร์ แต่ปรากฏว่าเขาเห็นเฉิงอวี้วางไข่ไก่เอาไว้บนโต๊ะโดยพับผ้าขนหนูรองเอาไว้

ไข่สองฟองนั้นดูอย่างไรก็เหมือนไข่ที่แม่ไก่บ้านเขาเพิ่งออก

เซวียโย่วข่ารู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ในขณะที่กำลังจะถามก็เห็นเฉิงอวี้หยิบเอกสารปึกหนึ่งมาบังไข่ไว้พลางทำหน้านิ่ง

“ฉันแค่อยากลองดูว่ามันจะฟักเป็นลูกเจี๊ยบได้ไหม”

เซวียโย่วข่า “ที่บ้านฉันไม่มีไก่ตัวผู้นะ”

“…”

“แล้วฟักลูกเจี๊ยบก็ไม่ได้ฟักแบบนี้ พี่ต้อง…”

เฉิงอวี้ไม่สนใจเรื่องวิธีฟักไข่หรอก

“แล้วเพื่อนซี้ของเธอนั่นล่ะ” เขาเปลี่ยนเรื่อง “ทำไมไม่เล่นกับเขาแล้ว”

“ก็แค่…” พอพูดถึงหู่ผีก็อดนึกถึงคำพูดที่ได้ยินตรงหน้าบ้านอีกฝ่ายไม่ได้ ในใจเขารู้สึกเสียใจ เซวียโย่วข่าหันหน้าหนีเล็กน้อย ไม่ยอมมองเฉิงอวี้ “ฉันไม่อยากเล่นกับเขาแล้ว” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา “ฉันชอบเล่นกับพี่มากกว่า”

เฉิงอวี้คิดในใจว่าไอ้คนชื่อหู่ผีนั่นต้องหน้าตาขี้เหร่มากแน่ๆ

เขาไล่สายตาไปตามผมสีดำของอีกฝ่าย แล้วก็เห็นใบหูที่โผล่พ้นไรผมออกมา เฉิงอวี้สังเกตเห็นใบไม้ติดอยู่ในผม คงเพราะตอนมาเซวียโย่วข่าลัดมาจากทางป่าจึงเกี่ยวโดนต้นไม้เข้าโดยไม่รู้ตัว

“เซวียหมี่หมี่” เฉิงอวี้ยกมือขึ้นแหวกผมสั้นของเขาเพื่อเอาใบไม้ออก ก่อนจะพูดเสียงเนิบ “คืนนี้อยู่ต่อก่อน เดี๋ยวจะให้ดูอะไร”

“ดูอะไรเหรอ” เซวียโย่วข่ารู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังลูบศีรษะเขา แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

“เธอต้องชอบแน่ๆ”

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 71-73

บทที่ 71 จีเสวียนเค่อใช่ว่าจะมีวรยุทธ์เก่งกาจ ทว่าเขาพาคนมามากมาย คนจากสำนักบูรพาเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีนักจึงล่าถอยอย่างร...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 80-81

บทที่ 80 เสียงของกู้เจี้ยนหลีค่อยๆ เบาลงเรื่อยๆ ถึงท้ายประโยคก็แทบไม่ได้ยินแล้ว นางก้มหน้าลง มือกำชายเสื้ออย่างเก้อกระดา...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน สานวาสนากับท่านอาของอดีตคู่หมั้น บทที่ 74-76

บทที่ 74 กู้เจี้ยนหลีละล่ำละลักพูด “หากยังไม่กลับอีกจะสายเกินไปแล้ว ท่านพ่อ ครั้งหน้าลูกจะไปเยี่ยมที่จวนอ๋องนะเจ้าคะ จี้...

community.jamsai.com