everY
ทดลองอ่าน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 3 บทที่ 82-83 #นิยายวาย
บทที่ 82
ด้วยข้อจำกัดเรื่องการตั้งท้อง ดันเจี้ยนระดับสูงสุดที่พวกเขาสามารถลงได้จึงเป็นระดับสามดาวเท่านั้น ความยากที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของมันเลยไม่จำเป็นต้องตั้งใจบังคับตัวละครมากนักทำให้จิ่งฮวนมีเวลาว่างครุ่นคิดเรื่องอื่นระหว่างลงดันเจี้ยน
อย่างเช่นเซี่ยงไหวจือรู้ว่าเขาคือจิ่งแสนหวานตัวน้อยตั้งแต่เมื่อไร
จิ่งฮวนขมวดคิ้วมุ่น เขารู้ดีว่าเซี่ยงไหวจือมีนิสัยค่อนข้างเย็นชา แต่คงไม่ถึงกับโดนสาวปลอมหลอกแล้วยังเป็นทองไม่รู้ร้อนหรอกมั้ง
ยิ่งกว่านั้นคนที่หลอกเขาก็คือจิ่งฮวน…ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันขนาดนี้ ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนเขามีแผนการอื่นอยู่ชัดๆ
จิ่งฮวนเท้าคางครุ่นคิดอยู่นานจนทำให้เขาคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
ในช่วงก่อนหน้านี้เขาลงไปซื้อยาก็เจอเซี่ยงไหวจือมาวิ่งรอบดึกพอดี พอมาคิดดูแล้วตอนนั้นเซี่ยงไหวจือไม่มีเหงื่อสักหยด แถมยังไม่มีเพื่อนวิ่งด้วยเลย ดูไม่เหมือนมาวิ่งรอบดึกเลยสักนิด…เหมือนอีกฝ่ายมาดักรอเขามากกว่า
จิ่งฮวนนึกได้ทันที เซี่ยงไหวจือจะต้องมาดักรอเขาแน่นอน! ที่แท้เซี่ยงไหวจือก็อยากจัดการเขาจริงๆ ด้วย!
แต่หลังจากนั้นทำไมไม่ลงมือทำอะไรเลยล่ะ เพราะเขาไม่สบายอยู่เหรอ
จิ่งฮวนขบคิดอยู่นาน คิดวกไปวนมาก็ได้ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น…
เซี่ยงไหวจือช่างเป็นคนดีจริงๆ
จิ่งฮวนลงดันเจี้ยนจนถึงช่วงบ่ายก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมานิดหน่อยจึงลุกไปหยิบยา ในบ้านเขาไม่มียาลดไข้ แต่ยาแก้หวัดที่ซื้อมาเมื่อคราวก่อนก็ยังเหลืออยู่มาก
เขาฝืนกินมันเข้าไป แค่กินก็น่าจะพอแล้วล่ะ
เดิมทีเขารู้สึกปวดหัวจนทรมาน หลังจากกินยาเข้าไปก็ยิ่งรู้สึกง่วงนอน แต่เมื่อเคลียร์ดันเจี้ยนระดับต่ำเสร็จเรียบร้อยเขาก็ยังชักช้าไม่ยอมออกจากปาร์ตี้
“เสี่ยวจิ่งจิ่ง” ลู่หังพูด “ฉันยินดีพาเธอลงดันเจี้ยนระดับสูงนะ แต่สามีเธอเหมือนจะไม่พอใจสุดๆ เลยล่ะ”
จิ่งฮวนพลันได้สติกลับมา เขารีบออกจากปาร์ตี้และเข้าร่วมปาร์ตี้ของเซี่ยงไหวจือ
“ไปทำอะไรมาน่ะ” เซี่ยงไหวจือถาม
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ไปรินน้ำมาค่ะ
เซี่ยงไหวจือเอ่ย “ดื่มน้ำร้อนนะ”
จิ่งฮวนกำลังคิดจะส่งอีโมจิไปสักตัว แต่ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ?
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ทำไมพี่ไม่ไปลงดันเจี้ยนระดับสูงกับพวกนั้นล่ะคะ…
เซี่ยงไหวจือบอกว่า “ไม่ไป ไม่ได้ขาดค่าประสบการณ์”
ถ้าจิ่งฮวนเป็นมือใหม่ Nine Heroes จริงๆ คงเชื่ออยู่หรอก
แต่ในเกม Nine Heroes นั้นสามารถเล่นได้ไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัพเลเวล แต้มสกิล ไปจนถึงไอเทมและอัญมณีประดับ ทุกอย่างล้วนต้องใช้ค่าประสบการณ์ของผู้เล่น ดังนั้นทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์จึงไม่มีผู้เล่นคนไหนกล้าบอกว่าตัวเองไม่ขาดค่าประสบการณ์
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ต้องสนใจฉันหรอก ฉันเล่นอีกแป๊บเดียวก็พอแล้ว
“ถ้าฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ” เซี่ยงไหวจือขมวดคิ้วถาม
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : …
เซี่ยงไหวจือหันกลับมามองแวบหนึ่งก็สบตาเข้ากับลู่หังพอดี
ลู่หัง “…”
ลู่หัง “อะไร”
เซี่ยงไหวจือบอกว่า “ใส่หูฟัง”
ลู่หัง “…?”
“ห้ามแอบฟัง”
“แม่ง นายเห็นฉันเป็นคนยังไงวะ คิดว่าฉันจะรำคาญที่นายเสียงดังเหรอ!”
ถึงเขาจะกำลังแอบฟังอยู่จริงๆ แต่ก็จะยืนกรานแถต่อไป
ลู่หังรู้สึกแปลกจริงๆ ปกติเซี่ยงไหวจือแม้แต่สายตาก็ยังไม่ชอบจะส่งให้คนอื่น แต่ตอนนี้กลับแชตกับแฟนในอินเตอร์เน็ตทุกวัน…
เขามองไปที่จิ่งแสนหวานตัวน้อยอีกครั้ง ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าพวกเขายังแสดงออกขนาดนี้ ถ้าอยู่ในที่ส่วนตัวจะไม่แสดงออกยิ่งกว่านี้อีกเหรอ!
ลู่หังสูดลมหายใจ สายตาทอประกายลุ่มลึกขึ้นมาเล็กน้อย
เซี่ยงไหวจือหรี่ตาลง “นายกำลังคิดอะไรอยู่”
“คิดว่า…” ลู่หังยอมสวมหูฟังแต่โดยดี “ดันเจี้ยนคงใกล้จะเริ่มแล้ว ฉันเข้าไปจอย YY กิลด์ดีกว่า ไปแจมกับพวกนั้นน่าจะสะดวกกว่า”
จิ่งฮวนดื่มน้ำร้อนเป็นแก้วที่สามแล้ว ทั่วทั้งร่างของเขาเหมือนแช่อยู่ในน้ำร้อน รู้สึกอึดอัดจนไม่สบายตัวแถมยังหายใจไม่ออกอีกต่างหาก
ทว่าเขาก็ไม่อยากไปพักผ่อนเลยสักนิด
เซี่ยงไหวจือพาเขาไปทำเควสต์คู่รัก ทำถึงรอบที่แปด คนในปาร์ตี้ก็ยังไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เซี่ยงไหวจือถาม “ไม่อยากทำอันนี้เหรอ”
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : อยากค่ะ
รอบที่เก้าของเควสต์คู่รักก็คือคำถามปรนัยสำหรับคู่รักจาก NPC เพื่อทดสอบความเข้าใจซึ่งกันและกันของคู่รัก
ปกติในรอบนี้พวกผู้เล่นจะใช้ระบบคุยผ่านเสียง
เซี่ยงไหวจือมองดูหัวข้อก่อนเอ่ยถาม “เธอชอบสีอะไร”
ช่องแชตปาร์ตี้เงียบกริบ
เมื่อจิ่งฮวนมีปฏิกิริยาตอบสนอง เวลาในการตอบคำถามก็เหลือเพียงแค่สี่วินาทีเท่านั้น
เขาได้สติขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อมทั้งเปิดไมค์โดยไม่รู้ตัว และเนื่องจากไม่ได้ใช้เสียงมานานเสียงของเขาจึงแหบจนน่าตกใจ “อา สีขาว…”
เวลาสิ้นสุดลงแล้ว การท้าทายล้มเหลว
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : อ๊าๆ ขอโทษค่ะ เมื่อกี้ฉันเหม่อไปหน่อย ลองกดอีกทีเถอะค่ะ
เงื่อนไขของเควสต์คู่รักไม่ได้เข้มงวด ล้มเหลวแล้วก็สามารถท้าทายใหม่ได้
แต่เซี่ยงไหวจือไม่ได้กดที่ NPC อีกครั้ง เขาถาม “เธอเป็นไข้เหรอ”
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : อืม…แค่นิดเดียวเอง
เซี่ยงไหวจือถามต่อ “เป็นไข้กี่องศา”
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ไข้ต่ำ 37.7
เซี่ยงไหวจือว่า “ถ่ายรูปเครื่องวัดอุณหภูมิมาให้ฉันดูสิ”
“…”
จิ่งฮวนถูกจับได้โดยไม่ทันตั้งตัว ความจริงวันนี้เขาวัดอุณหภูมิไปแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แถมมันยังสูงถึง 38.7 องศาด้วย
จิ่งฮวนหยิบเครื่องวัดอุณหภูมิออกมาวัดใหม่อีกครั้ง เมื่อก้มลงมองตัวเลขในใจก็ได้แต่คิดว่า 37.7…37.7…
เสียงติ๊ดดังขึ้นมา เทอร์โมมิเตอร์ก็แสดงตัวเลข
38.9
จิ่งฮวน “…”
อีกนิดก็จะสูงเกินไปแล้วไหม!?
เซี่ยงไหวจือเอ่ย “ถ่ายหรือยัง”
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : เครื่องวัดอุณหภูมิเหมือนจะเสียเลยค่ะ จู่ๆ มันก็วัดไม่ได้ O.O! จริงๆ นะคะ!
ทันใดนั้นไหล่ของลู่หังที่กำลังลงดันเจี้ยนอย่างตื่นเต้นก็ถูกตบเบาๆ
เขาเจียดเวลาหันหน้ามา “อะไรอีกล่ะ คราวนี้ฉันไม่ได้แอบฟังจริงๆ นะ!”
หมายความว่าหลายครั้งก่อนหน้านี้ก็แอบฟังหมดเลยสินะ
เซี่ยงไหวจือขี้เกียจคิดเล็กคิดน้อย “ของขวัญที่นายเตรียมไว้ให้จิ่งฮวนอยู่ไหน”
“อยู่บนเตียง ขนส่งเพิ่งมาส่งเมื่อเช้า…” ลู่หังชะงักไป “เฮ้ย นายจะเอาของขวัญไปทำไมวะ!”
“ฉันจะไปส่งให้นายไง”
…?
ลู่หังงุนงงเล็กน้อย “นี่ฉันไม่มีแขนไม่มีขาหรือไง ทำไมต้องให้นายไปส่งให้ฉันด้วย”
เซี่ยงไหวจือยัดของขวัญเข้าไปในกระเป๋า “มีอะไรจะฝากฉันไปบอกไหม”
ลู่หังพูดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “ฝากบอกว่าสุขสันต์วันเกิดแล้วกัน…”
เมื่อลู่หังลงดันเจี้ยนเสร็จ เซี่ยงไหวจือก็สวมเสื้อโค้ตเตรียมพร้อมจะออกจากห้องพอดี เขารู้สึกสงสัย “นายจะไปหาจิ่งฮวนทำไม”
“มีธุระ” เซี่ยงไหวจือพับหน้าจอคอมพิวเตอร์
“โอเค อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนนายนะ ของขวัญของฉันน่ะดีกว่าผ้าพันคอผืนเล็กกากๆ ของนายเยอะเลย ถึงตอนนั้นนายอย่ามาทำหน้าบูดแล้วกัน” ลู่หังหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง “จริงสิ จิ่งฮวนแอดวีแชตนายหรือยัง”
เซี่ยงไหวจือกำลังจะดึงประตูเปิดออก พอได้ยินคำนั้นฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงัก “วีแชตอะไร”
“ไอดีวีแชตไง” ลู่หังพูดยิ้มๆ “เมื่อวานหมอนั่นมาถามไอดีวีแชตนายจากฉัน…จะว่าไปนายทิ้งไอดีวีแชตสำรองไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเอากลับมาใช้อีกล่ะ”
เซี่ยงไหวจือมองเขาด้วยสายตาราบเรียบไม่พูดอะไร
ลู่หังถูกจ้องจนรู้สึกขนลุกซู่ รอยยิ้มค่อยๆ แข็งค้าง “ทะ…ทำไมวะ”
“นายได้เอาวีแชตฉันให้เขาหรือเปล่า” เซี่ยงไหวจือถาม
“ให้ดิ…ให้ไม่ได้เหรอ” ลู่หังงุนงง
เซี่ยงไหวจือนิ่งอยู่กับที่ทันที “ตอนนั้นเขาได้พูดอะไรไหม”
“ก็ไม่ได้พูดอะไรนะ” ลู่หังว่า “ที่จริงฉันก็อยากจะแอดวีแชตเขา แต่เขาดันทำโทรศัพท์ตกเลยไม่ได้แอด”
เซี่ยงไหวจือเงียบไปหลายวินาทีก่อนจะพยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
ลู่หังเห็นว่าน้ำเสียงอีกฝ่ายแปลกไปเลยคิดจะถามอีกสักประโยคสองประโยค แต่ก็ได้ยินเสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นมาก่อน รูมเมตของเขาปิดประตูเดินจากไปโดยไม่หันกลับมาซะแล้ว
ด้านนอกมีสายฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย เซี่ยงไหวจือติดกระดุมเสื้อโค้ตและสวมหมวกลวกๆ ขณะที่เดินไปยังประตูหน้าเขาก็ก้มลงมองโทรศัพท์ไปด้วย
มิน่าล่ะเมื่อวานสีหน้าของหมอนั่นถึงดูแปลกขนาดนั้น ตั้งแต่กลับมาจากห้องน้ำก็ไม่กล้ามองเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังหน้าแดงอีก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาเบาๆ เมื่อกี้เซี่ยงไหวจือทิ้งท้ายประโยคไว้ว่ามีธุระและต้องไปแล้ว ส่วนคนที่อยู่อีกฝั่งกลับเพิ่งจะตอบกลับมาอย่างเชื่องช้าเอาตอนนี้
เสี่ยวจิ่งยา ค่ะ งั้นฉันไปทำเควสต์ประจำวันแล้วนะ
เซี่ยง ไปนอน
เสี่ยวจิ่งยา นอนก็หลับสิคะ…
จิ่งฮวนมึนหัวจึงนั่งเอนหลังอยู่บนเก้าอี้โต๊ะคอมฯ ขาเรียวทั้งสองข้างวางพาดอยู่บนเตียงด้วยท่าทางไม่น่าดูเอาซะเลย
วันนี้เขาลาแล้ว ที่จริงนอนไปก็คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้านอนตื่นขึ้นมาเขาต้องถูกเซี่ยงไหวจืออัดแน่
พอคิดถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกว่าควรถนอมช่วงเวลาที่เขาไม่สบายแบบนี้เอาไว้
โทรศัพท์สั่นเล็กน้อย เขาค่อยๆ ก้มหน้าดู
เมื่อเห็นว่าไม่ใช่ข้อความที่เซี่ยงไหวจือส่งมา แม้แต่จะเปิดเขาก็ยังขี้เกียจ ทว่าคนที่อยู่ในกลุ่มแชตกลับไม่ยอมปล่อยเขาไปแถมยังแท็กเขาตรงๆ อีกต่างหาก
ลู่เหวินเฮ่า อาการนายเป็นยังไงบ้าง อยากให้เพื่อนไปมอบความอบอุ่นให้ที่บ้านไหมจ๊ะ อากาศหนาวชะมัด ฉันกับเสียงเอ๋อร์ว่าจะกินหม้อไฟ จะได้ใช้ห้องครัวแกพอดีเลย [เขิน]
ลู่เหวินเฮ่า @เสี่ยวจิ่งยา อยู่ไหม เฮ้ยวันนี้หอเราโชคร้ายหรือเปล่าวะ เมื่อกี้ฉันก็ตกบันได อีกนิดเดียวก็จะตกลงไปตายแล้ว
เกาจื้อเสียง ไม่เห็นจะตายสักหน่อย เพื่อนที่อยู่ข้างหน้านึกว่าแผ่นดินไหวเลยวิ่งอย่างเร็ว
ลู่เหวินเฮ่า : แม่ง &%#!@#…!
ลู่เหวินเฮ่าสบถด่าหยาบคายไปเป็นร้อยคำ แถมยังแท็กเขาพร้อมถามว่าเขาอยากใส่อะไรในหม้อไฟด้วย
จิ่งฮวนไม่มีแรงจะพิมพ์เลยกดปุ่มพูด “นายบ้าหรือเปล่า พ่อนายป่วยหนักขนาดนี้ยังจะมาทำหม้อไฟอีก อยากให้ฉันตายเร็วๆ หรือไง”
ลู่เหวินเฮ่ารีบตอบข้อความเสียงอย่างรวดเร็ว “เฮ้ย เสียงนาย ถ้าไม่รู้คงคิดว่านายร้องแหกปากทั้งคืนแน่”
จากนั้นสองวินาทีเขาก็ได้ยินเกาจื้อเสียงขำพรืด จิ่งฮวนกล่าวสั้นกระชับ “ไปไกลๆ”
ลู่เหวินเฮ่าว่า “ฉันคิดว่านายแกล้งป่วยหนีเรียน แต่นี่ป่วยจริงเหรอ ไม่งั้นให้ฉันเอายาไปให้ไหม ตอนนี้ฉันกำลังมาทายาที่ห้องพยาบาลพอดี”
จิ่งฮวนพูดเสียงแหบ “ไม่ต้องมา นายเสียงดังเกินไป แล้วนายไปหกล้มตรงไหนอะ”
ลู่เหวินเฮ่าส่งรูปมาให้เขาทันที ด้านหลังรูปภาพยังมีอีโมจิร้องไห้หนักอีกสองสามตัว จิ่งฮวนกวาดตามองผ่านๆ แล้วถึงกับพูดไม่ออกไปทันที
จากนั้นเขาก็พูดพลางยิ้มเย็น “คงรีบไปหาหมอสินะ ไม่อย่างงั้นคงไม่ใกล้หายแล้ว”
ลู่เหวินเฮ่ารัวอีโมจิมาทั้งหน้าด้วยความโมโห
จิ่งฮวนเลิกพูดจาไร้สาระกับเขา เมื่อเห็นว่าเซี่ยงไหวจือยังไม่ตอบเขาก็เปิดแอพฯ ไว่ม่ายเพื่อซื้อยา จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ไปบนเตียง ก่อนจะควบคุมตัวละครในเกมให้วิ่งไปทางแผนที่ป่าสักแห่ง
เขาคิดดีแล้ว ไม่ใช่แค่ต้องกล่าวขอโทษ แต่ยังต้องชดเชยความสูญเสียให้เซี่ยงไหวจือด้วย
ถ้าชดใช้ด้วยเงินไปตรงๆ เซี่ยงไหวจืออาจจะไม่รับ ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะสร้างเข็มขัดดีๆ สักเส้นให้เซี่ยงไหวจือ วันนั้นที่เขาล็อกอินเข้าไปจึงเห็นว่าไอเทมของเซี่ยงไหวจือแทบจะเป็นระดับสุดยอดทั้งหมด มีเพียงช่องเดียวเท่านั้นที่สามารถพัฒนาได้ นั่นก็คือเข็มขัด
การตีมอนสเตอร์ป่าในแผนที่ป่าก็มีโอกาสดร็อปวัตถุดิบเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถนำไปหลอมเข็มขัดได้อยู่พอสมควร แต่ไม่นานเขาก็พบปัญหายุ่งยากอย่างหนึ่ง
โดยภาพรวมของเขาไม่สามารถรับมือกับมอนสเตอร์ป่าในแผนที่ป่าได้
ในเซิร์ฟเวอร์เก่าจิ่งฮวนมีสมญานามว่าเสี่ยวป้าหวัง* แห่งแผนที่ป่า ความเร็วในการจัดการมอนสเตอร์เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมเป็นที่หนึ่ง แต่วันนี้เสี่ยวป้าหวังมึนหัวอยู่นิดหน่อย แม้แต่การตอบสนองก็ยังช้ากว่าคนอื่นอยู่หลายวินาทีจนมอนสเตอร์ป่าตัวเดียวก็ยังฆ่าไม่ได้
เขาสบถออกมาเสียงต่ำ ขณะที่กำลังจะไปแผนที่อื่นก็มีข้อความเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
[ชิวเฟิงส่งคำเชิญให้คุณเข้าร่วมปาร์ตี้ — (ยอมรับ) (ปฏิเสธ)]
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ปาร์ตี้เราก็กำลังฟาร์ม** อยู่เหมือนกัน ขาดอยู่พอดี มาด้วยกันสิ
จิ่งฮวนลังเลเล็กน้อยก่อนจะกดยอมรับ
ถึงยังไงก็ดีกว่าเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปคนเดียวโดยไม่มีเป้าหมาย
เขานำสัตว์อัญเชิญออกมา ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะ AFK ก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น
[ปาร์ตี้] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉัน AFK ไปเอาของที่สั่งไว้ก่อนนะ เดี๋ยวมา
เขาลุกขึ้นเดินออกไปนอกประตูและเปิดประตูออกโดยที่แม้แต่ตาแมวก็ยังขี้เกียจจะมอง
“…”
ด้านนอกประตูเซี่ยงไหวจือยืนตัวตรงสวมหมวกปกปิดเส้นผมไปกว่าครึ่ง ปอยผมที่โผล่ออกมาบนหน้าผากเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน ตอนนี้จึงดีดขึ้นมาเล็กน้อย
ดวงตาของชายหนุ่มเป็นสีดำสนิทและกำลังมองตรงมาที่เขา
ชั่วขณะนั้นจิ่งฮวนยังคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอน
“ลู่หังให้ฉันเอาของขวัญมาให้นาย” เซี่ยงไหวจือพูด
จิ่งฮวนก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัวก่อนจะมองเห็นกล่องเล็กๆ ที่เขาถือเอาไว้ในมือ แถมยังมีถุงพลาสติกอีกใบ
ด้านในถุงพลาสติกคือกล่องยาจำนวนหนึ่ง
“สีหน้านายไม่ค่อยดีเลย”
จิ่งฮวนอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าก็ยกมืออีกข้างขึ้นมาปัดเส้นผมของเขาขึ้นก่อนใช้หลังมือแตะลงบนหน้าผาก
มันให้ความรู้สึกเย็นเฉียบทั้งยังเปียกชื้นเล็กน้อย
“เป็นไข้เหรอ” เขาได้ยินเซี่ยงไหวจือถาม