everY
ทดลองอ่าน How to… เดตออนไลน์ยังไงให้พัง เล่ม 3 บทที่ 84-85 #นิยายวาย
บทที่ 84
จิ่งฮวนมองเซี่ยงไหวจือออกจากปาร์ตี้ก่อนพูดขึ้น “หาที่ AFK สักที่ก็พอแล้วครับ”
แต่เซี่ยงไหวจือกลับไม่ขยับเขยื้อนและเอ่ยถามเขา “ไม่ไปพักผ่อนเหรอ”
จิ่งฮวนชะงักไปครู่หนึ่ง “ผมยังต้องรอรับของที่สั่งนะครับ”
“เดี๋ยวฉันรับให้เอง” เซี่ยงไหวจือมองดูแผนที่ตัวละคร ไม่นานเขาก็เดาจุดประสงค์ของอีกฝ่ายออก “นายอยากได้เขี้ยวมังกรครามเหรอ”
เขี้ยวมังกรครามเป็นวัตถุดิบในการหลอมที่จิ่งฮวนกำลังอยากได้
จิ่งฮวนส่งเสียง “อืม” เป็นการตอบรับ “ของอันนี้หาไม่ง่ายเลยนะ ผมก็คิดว่าจะตีไปเก็บไปเหมือนกัน”
เซี่ยงไหวจือพยักหน้า “ฉันช่วยนายตีแล้วกัน”
จิ่งฮวน “…?”
เรื่องที่เขาทำพลาดไปครั้งใหญ่น่ะช่างเถอะ แต่ตอนนี้ยังจะให้เซี่ยงไหวจือใช้ไอดีสาวปลอมของเขาไปตีมอนสเตอร์หาวัตถุดิบอีกเหรอ
จิ่งฮวนคิดแล้วก็รู้สึกชาวาบไปทั้งหนังศีรษะ
เขามองดูตัวละครในเกมของตัวเองก่อนจะมองใบหน้าด้านข้างของเซี่ยงไหวจืออีกครั้ง
จมูกโด่งจริงๆ
ไม่สิ…ตอนนี้มันใช่เวลามาคิดเรื่องพรรค์นี้ไหมเนี่ย
ในใจจิ่งฮวนไม่อยากนอนจริงๆ แต่ตอนนี้เขาหมดเรี่ยวแรงแล้ว หนังตาก็ปวดไปหมด โดยเฉพาะหลังจากที่กินยาไปแล้วความง่วงก็ถาโถมเข้ามาใส่เขาเหมือนกระแสน้ำ
เขาสะบัดหัว “ผมยังไม่ง่วง”
พูดจบเขาก็ทนไม่ไหวจนต้องหาวออกมา
จิ่งฮวน “…”
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังกังวลเรื่องอะไร เซี่ยงไหวจือก็พูดขึ้น “ฉันแค่ช่วยนายตีหาเขี้ยวมังกรคราม ไม่ดูความลับของนายหรอกน่า”
จิ่งฮวนมีสีหน้าซับซ้อน
ในคอมพิวเตอร์ของเขายังจะมีความลับอะไรอีก
Nine Heroes นี่แหละคือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา!!!
ถ้าเป็นเวลาปกติจิ่งฮวนคงลากเก้าอี้เล็กๆ มานั่งข้างๆ เซี่ยงไหวจือและดูเขาเล่นเกมโดยไม่ละสายตาแน่นอน แต่ตอนนี้ไข้สูงจริงๆ แม้แต่การกลืนที่เป็นเรื่องง่ายที่สุดก็ยังทำให้เขาเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้วได้
เซี่ยงไหวจือลืมตาขึ้น “ฝันดียามบ่าย”
“…” จิ่งฮวนเอ่ย “ฝันดียามบ่ายครับ…”
จิ่งฮวนหยิบโทรศัพท์ปีนขึ้นไปบนเตียงพร้อมสภาพจิตใจที่แตกสลาย
เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองคงกังวลจนนอนไม่หลับ แต่ในความเป็นจริงทันทีที่หัวถึงหมอน ความง่วงก็ปกคลุมเขาไว้อย่างหนาแน่นเหมือนสายฝนที่อยู่ด้านนอก สักพักโทรศัพท์ก็หลุดร่วงจากฝ่ามือของเขาและตกลงไปข้างหมอน
เซี่ยงไหวจือขยับเม้าส์ฆ่าบอสใหญ่ประจำแผนที่ป่าที่เพิ่งเกิดขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
ทุกหกชั่วโมงในแผนที่ป่าทุกแห่งจะมีบอสใหญ่ประจำแผนที่เกิดขึ้น อัตราการดร็อปรางวัลพิเศษก็สูงลิ่ว แถมบอสของแผนที่ป่าแห่งนี้ยังจัดการยากเป็นพิเศษด้วย
แต่การต่อสู้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เซี่ยงไหวจือที่กำลังอยู่ระหว่างการต่อสู้จึงพอมีเวลาให้เหลือบมองคนบนเตียง
ผ้าปูที่นอนของจิ่งฮวนเป็นลายการ์ตูนเรื่องนารูโตะ ส่วนที่โป่งนูนขึ้นมาจากที่นอนก็เป็นลายตัวการ์ตูนนารูโตะพอดีและกำลังขยับขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ
เซี่ยงไหวจือมองอยู่หลายวินาทีก่อนจะละสายตากลับมา ในเกมจิ้งจอกเซียนเก้าหางสะบัดหางกดบอสตัวโตล้มลงกับพื้น
[คุณได้รับ 2 ทองแดง]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ 1,101 หน่วย]
[คุณได้รับเขี้ยวมังกรครามx1]
เซี่ยงไหวจือเปิดกระเป๋าดู เขี้ยวมังกรครามถูกจิ่งฮวนลากไปไว้ตรงมุมขวาล่างของช่องเก็บของเพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย และปัจจุบันก็มีแค่สองชิ้นเท่านั้น
เซี่ยงไหวจือลังเลเล็กน้อยแล้วตัดสินใจเปิดไอดีของตัวเองเพื่อประกาศรับสินค้าผ่านโทรโข่ง แต่เขายังไม่ทันได้เปิดหน้าให้ล็อกอินใหม่อีกครั้งข้อความจากเพื่อนก็สว่างวาบขึ้นมา
[เพื่อน] ชิวเฟิง : เสี่ยวจิ่งจิ่ง ออกจากตี้ทำไมล่ะ
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ?
[เพื่อน] ชิวเฟิง : เธอทิ้งฉันไปฆ่าบอสเองเหรอ…
ที่จริงคำพูดของชิวเฟิงไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นเลย ปกติเขาก็มีท่าทีแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนอยู่แล้ว สนิทสนม ดูคลุมเครือ ชอบหยั่งเชิงเส้นแบ่งระหว่างเพื่อนกับแฟนสุดๆ สิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ของผู้หญิงจำนวนมากได้อย่างราบรื่น
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ทำไมไม่ตอบฉันล่ะ [ปาดน้ำตา] เป็นไงบ้าง บอสดร็อปเขี้ยวมังกรครามมาไหม
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉันไม่ใช่เจ้าของไอดี
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ฮะ? เหอะ เป็นพี่คนส่งของเหรอ
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : เป็นสามีของเธอ
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ?
ชิวเฟิงคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่นี่จะเป็นการกลั่นแกล้งของรูมเมต
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ฮ่าๆ สามีคนไหนของเธอล่ะ
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : สามีที่อยู่บนฉายาไง
ชิวเฟิงฉุกคิดขึ้นมาได้ แถมยังเปิดหน้าโพรไฟล์ของจิ่งแสนหวานตัวน้อยแล้วรีเฟรชใหม่อีกรอบ
เธอเป็นภรรยาของหัวใจเพรียกหาไม่ผิดแน่
…?
ชิวเฟิงมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาก่อนเบิกตากว้างทันที
เซี่ยงไหวจือและจิ่งแสนหวานตัวน้อยเจอกันแล้วเหรอ
เร็วขนาดนี้เลย? ทั้งสองคนเพิ่งจะแต่งงานกันอาทิตย์เดียวเองนี่
[เพื่อน] ชิวเฟิง : …เทพเซี่ยง?
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ?
[เพื่อน] ชิวเฟิง : ไม่มีอะไรครับ ท่านเล่นต่อเลยไปเลยครับ
ชิวเฟิงยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง กระทั่งเขากลับมาจากเดินเตร่ในแผนที่ป่าได้รอบหนึ่งก็เห็นหัวใจเพรียกหาปรากฏตัวอยู่ในแผนที่ป่า กำลังรวมตี้เพื่อตีเอาเขี้ยวมังกรครามกับจิ่งแสนหวานตัวน้อย
“ฉันก็ว่าอยู่ว่าทำไมจิ่งแสนหวานตัวน้อยถึงตีเอาตีเอาแล้วไปเลย” อย่าถามหาวันกลับพูดในช่องแชตปาร์ตี้ “ที่แท้เทพเซี่ยงก็มานี่เอง”
ชิวเฟิงพูด “ไม่ใช่เทพเซี่ยงมา…” แต่เทพเซี่ยงเล่นมาตลอดต่างหาก
ชิวเฟิงเริ่มนึกถึงบทสนทนาที่ตัวเองพูดออกไปเมื่อกี้นี้และคิดถึงท่าทีที่หัวใจเพรียกหาตอบเขามาอีกครั้ง…เขาถึงกับเงียบไปก่อนจะพาปาร์ตี้ไปอีกด้านหนึ่งของแผนที่ป่า เพราะกลัวว่าหัวใจเพรียกหาจะไม่พอใจจนหันมาเปิดโหมด PK กับเขา
อย่าถามหาวันกลับเอ่ย “เฮ้ย อย่าเพิ่งไปดิ ฉันยังอยากแซวจิ่งแสนหวานตัวน้อยอยู่เลย”
“เลิกแซวได้แล้ว มีชีวิตอยู่นี่ไม่มีความสุขหรือไง” ชิวเฟิงถาม
อย่าถามหาวันกลับตกใจ “หมายความว่าไงวะ”
ชิวเฟิงตอบสั้นกระชับ “ตอนนี้เทพเซี่ยงใช้ไอดีจิ่งแสนหวานตัวน้อยอยู่”
อย่าถามหาวันกลับหัวเราะ “จะเป็นงั้นได้ไง เมื่อกี้เธอยังคุยกับพวกเราอยู่เลยไม่ใช่เหรอ”
ช่องแชตปาร์ตี้เงียบไปหลายวินาที
อย่าถามหาวันกลับพูด “แป๊บนะ ใช่แบบที่ฉันคิดหรือเปล่า ไม่ใช่หรอกมั้ง…”
ชิวเฟิง “ชู่ว”
ปาร์ตี้ของเซี่ยงไหวจือตีมอนสเตอร์ไปได้สิบนาที ทั้งสองไอดีก็ดร็อปเขี้ยวมังกรครามได้แค่อันเดียวเท่านั้น
เขาคิดไปคิดมาก็เปิดรายชื่อเพื่อนเตรียมจะขอไอดีสำรองของลู่หัง ถ้ามีเพิ่มอีกสักไอดีน่าจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
รายชื่อเพื่อนของจิ่งฮวนจัดกลุ่มง่ายมาก มันมีแค่สามกลุ่มเท่านั้น
กลุ่มหนึ่งชื่อ ‘เพื่อน’ ในนั้นมีอยู่หลายสิบคน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในกิลด์
อีกกลุ่มหนึ่งชื่อ ‘เพื่อนในตี้’ ซึ่งพวกลู่หังอยู่ในกลุ่มนี้
ส่วนกลุ่มสุดท้ายมีชื่อว่า ‘เหอๆ’ ในนั้นมีเพียงเซี่ยงไหวจือคนเดียวเท่านั้น
เซี่ยงไหวจือเห็นกลุ่มที่แยกออกมาเพียงคนเดียว สายตาของเขาก็ฉายแววอ่อนโยนขึ้นมาก
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : เอาไอดีสำรองของนายมาให้ฉันหน่อย
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : …?
[เพื่อน] จิ่งแสนหวานตัวน้อย : ฉันตีมอนหาเขี้ยวมังกรครามอยู่ ขาด 3 ไอดี
ลู่หังเหลือบมองคนส่งข้อความ หลังจากมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดไปเขาถึงพิมพ์ข้อความตอบกลับ
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : ฉันเปิดไอดีสำรองอยู่ อยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปเข้าตี้ด้วย ตีได้แล้วจะให้เธอ
เซี่ยงไหวจือส่งพิกัดไปทันที
ทันทีที่เข้ามาในปาร์ตี้ลู่หังก็เริ่มพูดเจื้อยแจ้ว
“เธอจะตีเอาเขี้ยวมังกรครามไปทำอะไร จะทำไอเทมเหรอ ว่าแต่ทำไมไอดีเซี่ยงเซี่ยงถึงมาอยู่นี่ด้วยล่ะ เธอเปิดเล่นเหรอ เสี่ยวจิ่งจิ่ง เธอก็ถือโอกาสนี้ไปดูหน่อยว่าในไอดีมันมีวัตถุดิบเยอะหรือเปล่า ช่วยฉันขโมยออกมาหน่อยสิ”
คนบนเตียงพลิกตัวไปเพราะเสียงดัง เซี่ยงไหวจือจึงลดเสียงระบบคุยผ่านเสียงลงก่อนเปิดเครื่องแปลงเสียงแล้วกดปุ่มพูดออกไปตรงๆ โดยไม่กลัวว่าลู่หังจะจำได้ “ไม่มี ไปไกลๆ เลย”
ลู่หังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์
เสียงหญิงสาวที่ฟังดูเป็นผู้ใหญ่และทรงพลังกระแทกใจเขาจังๆ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีลู่หังก็ได้สติกลับมา “หืม? สาวน้อยที่ไหนล่ะเนี่ย รูมเมตของเสี่ยวจิ่งจิ่งเหรอ เธอก็เล่น Nine Heroes เหมือนกันเหรอ อยู่เซิร์ฟไหนอะ อยากมาเล่นเซิร์ฟพวกเราเปล่า พวกเราเพิ่งจะรวมเซิร์ฟ ตอนนี้เลยเป็นเซิร์ฟที่คึกคักสุดๆ ถ้ามาเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปเล่นทุกวันเลย…”
เซี่ยงไหวจือสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงขยับนิ้วไปที่การตั้งค่าปาร์ตี้เพื่อปิดไมค์ของลู่หัง
ตีมอนสเตอร์ไปได้สักพัก เสียงเรียกเข้าหนวกหูพลันดังขึ้น เซี่ยงไหวจือผุดลุกขึ้นทันที เขาเดินสองก้าวก็ถึงข้างเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงขึ้นมา
[สวัสดีครับ ผมเป็นไรเดอร์จากแอพฯ X ครับ ตอนนี้อยู่ข้างหน้าประตูแล้ว]
เซี่ยงไหวจือวางสายโทรศัพท์ พอไปรับของที่สั่งจากด้านนอกประตูถึงเห็นว่าบนใบเสร็จเขียนเอาไว้ว่า
‘เสียงคอมพิวเตอร์ดังจนไม่ได้ยินเสียงกริ่งประตู ให้โทรมาเลย ขอบคุณครับ!’
ยาที่ร้านขายยาเลือกมาให้เหมือนที่เซี่ยงไหวจือซื้อมาไม่มีผิด เขาวางมันลงบนโต๊ะกินข้าว ขณะที่กำลังจะกลับไปตีหาวัตถุดิบต่อเขาก็พบว่ามือของตัวเองถือโทรศัพท์ของจิ่งฮวนเอาไว้
เขาเดินไปถึงด้านหน้าเตียงและวางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอน สายตาเลื่อนไปยังใบหน้าของจิ่งฮวน
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เหมือนจะทำให้หนวกหู จิ่งฮวนจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าครึ่งหนึ่งไม่ได้จมอยู่ในหมอน ฝ่ามือขาวบางงองุ้มอยู่บนหมอน พวงแก้มยังคงขึ้นสีแดงก่ำอย่างไม่ค่อยปกติ แต่หากเทียบกับก่อนหน้านี้ก็ถือว่าจางลงไปมาก
เซี่ยงไหวจือเอื้อมมือไป เขาใช้หลังมือแตะลงบนแก้ม
ความรู้สึกร้อนผ่าวพุ่งขึ้นมาจากปลายนิ้ว ฝ่ามือของเซี่ยงไหวจือเลื่อนขึ้นไปลูบหน้าผากของเขาอีกครั้ง
จิ่งฮวนฝันไป
เขาฝันเห็นตัวเองเดินอยู่ในทะเลทราย ดวงอาทิตย์ลอยเด่นอยู่เหนือศีรษะ อากาศร้อนผ่าวจนแทบระเหยกลายเป็นไอ ริมฝีปากก็แห้งผาก
ในตอนนั้นเบื้องหน้าเขามีถุงน้ำแข็งถุงหนึ่งโผล่ขึ้นมา เขายังไม่ทันได้คว้ามันเอาไว้ ถุงน้ำแข็งก็แปะลงบนหน้าผากของเขาด้วยตัวมันเอง ความรู้สึกเย็นสบายทำให้เขาอดถอนหายใจยาวเหยียดออกมาไม่ได้
แต่มันก็ไม่พอ
ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปจับถุงน้ำแข็งมาซุกอยู่กับซอกคอของตัวเองอย่างมีความสุข แต่ก็ยังรู้สึกว่าร้อนอยู่นิดหน่อย
เซี่ยงไหวจือมองไปที่นาฬิกาพลางคำนวณเวลากินยาครั้งต่อไปอยู่ในใจ ทันใดนั้นข้อมือของเขาก็ถูกอีกคนคว้าเอาไว้
ฝ่ามือของจิ่งฮวนเองก็ร้อนผ่าว อีกฝ่ายคว้ามือเขาไว้เบาๆ จนแทบจะไม่ได้ใช้แรงอะไรเลย
ขณะที่เซี่ยงไหวจือกำลังอยากรู้ว่าอีกคนจะทำอะไรกับฝ่ามือที่ถูกดึงไป มือก็สอดเข้าไปในซอกคอของอีกฝ่าย
เซี่ยงไหวจือตกใจ ดวงตาเบิกโพลงเล็กน้อย ใบหน้าฉายแววทำอะไรไม่ถูกอย่างหาได้ยาก
ลู่หังเคยบอกว่าแฟนเก่าของเขาผิวดีมาก มือก็ทั้งขาวทั้งนุ่ม แถมยังบอกว่าผิวของสาวๆ จะอ่อนนุ่มและหอมกรุ่นมาตั้งแต่เกิด ซึ่งถือเป็นสมบัติของโลกเลยทีเดียว
เซี่ยงไหวจือรู้สึกได้ถึงสัมผัสบนฝ่ามือ ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ฉับพลันเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ลู่หังพูดไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมด
เซี่ยงไหวจือลองเรียกเขา “จิ่งฮวน?”
จิ่งฮวนส่งเสียงพึมพำอู้อี้ออกมาโดยไม่ยอมปล่อยมือและไม่ได้ตอบกลับ
เซี่ยงไหวจือจึงรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงหลับอยู่
เขายืนเงียบอยู่สักพักก่อนจะค่อยๆ ดึงมือของตัวเองออกมาลูบผมจิ่งฮวนเบาๆ
เมื่อเซี่ยงไหวจือกลับไปหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์อีกครั้งก็เห็นข้อความจากเพื่อนถูกส่งมาจนแทบจะระเบิด
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : สาวน้อยทำไมไม่พูดเลยล่ะ
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : ฮัลโหล?
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : ถ้าเธอไม่อยากมาเล่นเซิร์ฟเราก็โอเค งั้นพวกเรามาแอดวีแชตทำความรู้จักกันไว้ก็ได้นะ [เขิน]
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : ฉันไม่ใช่คนแปลกๆ หรอกน่า ฉันเป็นเพื่อนในตี้ของเสี่ยวจิ่งจิ่ง เธอถามเสี่ยวจิ่งจิ่งดูก็ได้
[เพื่อน] ถนนยาวไกล : สาวน้อย?
มือของเซี่ยงไหวจือยังหลงเหลืออุณหภูมิจากจิ่งฮวนอยู่
ผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงจับเม้าส์อีกครั้งแล้ว…ปิดข้อความของลู่หังไป
เมื่อจิ่งฮวนตื่นขึ้นมาทั่วทั้งห้องก็มืดสนิท เหลือเพียงแสงสลัวที่ส่องสว่างมาจากจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังพักหน้าจออยู่
หัวของเขาว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนเขาจึงลุกขึ้นจากเตียงอย่างเลื่อนลอยแล้วมองไปรอบๆ ด้วยความกังวล
เซี่ยงไหวจือล่ะ
เขากวาดตามองรอบหนึ่งก็ยังหาไม่เจอ จิ่งฮวนจึงหันกลับมาเลิกผ้าห่มข้างกายขึ้น…มันก็ยังคงว่างเปล่า
เขาถอนหายใจอย่างระแวดระวัง ก่อนจะสงสัยในการกระทำของตัวเองอีกครั้ง
เดี๋ยวสิ…ทำไมเขาถึงคิดว่าเซี่ยงไหวจือจะมาอยู่ในผ้าห่มของตัวเองล่ะ
พอตื่นขึ้นมาเขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาก จิ่งฮวนเอื้อมมือไปแตะหน้าผากก็พบว่ามันไม่ร้อนผ่าวอีกแล้ว
เขาเปิดผ้าม่านข้างตัวออกดู มีเพียงไฟถนนที่ส่องกระทบกระจกอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายเท่านั้น แสงไฟจากตึกที่อยู่ข้างๆ แทบจะดับสนิทไปหมดแล้ว ดูเหมือนจะยังเป็นช่วงกลางดึก
ลำคอของจิ่งฮวนแห้งผาก เขากำลังจะลงจากเตียงไปรินน้ำดื่มก็เห็นว่าบนโต๊ะข้างเตียงของตัวเองมีแก้วน้ำวางอยู่ เขาหยิบมาดื่มไปครึ่งแก้ว ก่อนจะล้มตัวลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง
จิ่งฮวนจ้องมองเพดานด้วยความงุนงง จากนั้นจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ใต้หมอน
หน้าจอโทรศัพท์เต็มไปด้วยแจ้งเตือนข้อความ โทรศัพท์เปล่งแสงบาดตา จิ่งฮวนจึงหรี่ตาลงแล้วเปิดวีแชต
ครั้นเห็นแจ้งเตือนข้อความจากเซี่ยงไหวจือ หัวใจเขาก็กระตุกวูบและกดเข้าไปดูโดยสัญชาตญาณ
เซี่ยง ฉันกลับแล้วนะ ไข้ลดแล้ว ไม่ต้องกินยาลดไข้แล้ว
เซี่ยง ซื้อโจ๊กสำเร็จรูป 2 กล่องมาไว้ในห้องครัว ตอนดึกไม่มีคนส่งอาหารก็อุ่นกินนะ ถ้ามีคนส่งอาหารก็สั่งอาหารเอา
จิ่งฮวนอ่านข้อความสองบรรทัดซ้ำไปซ้ำมาอยู่นานสองนาที
เขาไม่ได้ฝันไป เซี่ยงไหวจือมาจริงๆ แถมเขายังเปิดเผยความจริงไปแล้วด้วย
เซี่ยงไหวจือไม่ได้ด่าเขา
และไม่ใช่แค่ไม่ด่าเขา แต่ยังลูบแก้มเขาอีกต่างหาก
ทันใดนั้นจิ่งฮวนก็รู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มซ้าย เขาเลียริมฝีปากพลางกดเปิดแป้นพิมพ์หวังจะตอบข้อความ แต่พอมองดูเวลาก็พบว่าตอนนี้ปาเข้าไปตีสี่แล้ว
จิ่งฮวนเก็บนิ้วที่เตรียมจะกดพิมพ์ข้อความกลับมาเงียบๆ จากนั้นจึงออกจากหน้าแชตและเริ่มดูข้อความอื่น
ลู่เหวินเฮ่า ฮวนฮวน ทำอะไรอยู่อะ อาการดีขึ้นหรือยัง
ลู่เหวินเฮ่า [รูปภาพ] ฉันกับเสียงเอ๋อร์มากินหม้อไฟกันสองคน 2 คน
น้ำซุปในหม้อเป็นสีแดงมันวาว จิ่งฮวนมองดูแวบเดียวก็ปวดท้องแล้ว
เสี่ยวจิ่งยา ท้องเสียหรือยัง
ลู่เหวินเฮ่า เฮ้ย
ลู่เหวินเฮ่า เพิ่งจะมาตอบฉันตอนนี้เนี่ยนะ? นายเพิ่งตื่นเหรอ
เสี่ยวจิ่งยา อืม
ลู่เหวินเฮ่า ตกใจหมดเลย ฉันกำลังดูเรื่องซุบซิบของนายอยู่ ข้อความของนายก็เด้งขึ้นมาพอดีเลย
เสี่ยวจิ่งยา เรื่องซุบซิบอะไรวะ
ลู่เหวินเฮ่า ยังจะมีอะไรอีกล่ะ ก็เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในเว็บบอร์ดมหา’ลัยไง แต่คนในกลุ่มนี่ยิ่งพูดก็ยิ่งไร้สาระเข้าไปทุกที ถ้าฉันไม่รู้จักนายคงเชื่อไปแล้ว
จิ่งฮวนพลิกตัวอย่างไม่ใส่ใจ
เสี่ยวจิ่งยา อ้อ ว่าไงมั่งล่ะ
ลู่เหวินเฮ่า พวกนั้นว่าเห็นรุ่นพี่เซี่ยงเดินออกมาจากตึกบ้านเช่าของนายตอนเที่ยงคืน
เสี่ยวจิ่งยา ?
ลู่เหวินเฮ่า แถมยังบอกว่าพวกนายสองคนอยู่ด้วยกันในนั้นตั้งนาน ผ้าม่านก็ไม่เปิดด้วย
เสี่ยวจิ่งยา …
ลู่เหวินเฮ่า นายว่าตลกไหมล่ะ ถ้าไม่รู้คงคิดว่าคนในมหา’ลัยพวกนี้เป็นเพื่อนบ้านนายแน่ๆ แถมยังเปิดม่านส่องด้วย…มันก็แค่ข่าวลือ แต่ถ้าเป็นดารานี่คงตกเป็นจำเลยสังคมไปแล้ว
จิ่งฮวนคิดถึงเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่อยู่ข้างห้องของตัวเองขึ้นมาก่อนจะพิมพ์ข้อความช้าๆ
เสี่ยวจิ่งยา …จริง
ลู่เหวินเฮ่า ใช่มะ นี่ฉันช่วยตอบแทนนายไปแล้วด้วย
เสี่ยวจิ่งยา ?
เสี่ยวจิ่งยา ตอบว่าอะไร
ลู่เหวินเฮ่า ฉันบอกว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทนาย รู้เรื่องวงใน ให้พวกนั้นเลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ถ้าพวกนายสองคนมีอะไรในกอไผ่จริงๆ ฉันจะยืนกลับหัวขี้
เสี่ยวจิ่งยา …
เสี่ยวจิ่งยา ฉันไปนอนก่อนนะ บ๊ายบาย [ดอกกุหลาบ]