ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4 บทที่ 110-111 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 4 บทที่ 110-111 #นิยายวาย

หน้าที่แล้ว1 of 2

ทดลองอ่าน เรื่อง I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเองเล่ม 4

ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)

แปลโดย : หมั่งสีโสว ซื่อเก้เหล้าก้าย

ผลงานเรื่อง : 我行让我来〔电竞〕 (Wo Xing Rang Wo Lai (Dian Jing))

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 ** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

110

แม้ช่องถ่ายทอดสดจะสแตนด์บายแล้ว แต่การถ่ายทอดสดการแข่งขันยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ วิดีโอมากมายที่ฉายอยู่ด้านหน้านี้มีไว้เพื่อวอร์มอัพและทดสอบการถ่ายทอดสด

และมักจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่วิดีโอหลายคลิปเล่นซ้ำเป็นประจำ

 

[เลิกเปิดโฆษณาได้แล้ว เปิดวิดีโอขิงก่อนแข่งอีกรอบ พ่ออยากฟังอีก]

[แฟนสาวส่งข้อความมาบอกว่าคืนนี้พ่อแม่เธอไม่อยู่บ้าน ฉันให้เธอนอนเร็วหน่อย ไม่ก็หาอะไรอย่างอื่นทำ อย่ามารบกวนการวนลูปช่วงขิงก่อนแข่งของฉัน เพื่อนๆ ว่าฉันทำถูกไหม]

[จำนวนคนดูช่วงโฆษณาสูงกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า…แนะนำว่าวันนี้บริษัทโฆษณาควรเอาเงินให้ Soft ทั้งหมด]

[มาแล้วๆ! เล่นซ้ำครั้งที่สี่แล้วพี่น้อง!]

 

“ยังจะเล่นซ้ำอีก!” ในห้องพักผู้ช่วยโค้ชพูดด้วยความกังวล “ผู้กำกับรายการคนนี้เป็นแฟนคลับ PUD ล่ะมั้งเนี่ย คิดจะเล่นซ้ำหลายๆ รอบเพื่อสุมไฟให้สมาพันธ์? ถ้าแข่งไปแข่งมาพักหนึ่งแล้วประกาศแบนออกมา…”

คลิปนี้เป็นช่วงที่นักแข่งถ่ายทำตามลำพัง ตอนนั้นทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการแต่งหน้าและเตรียมการแข่งขันให้นักแข่งอยู่หลังเวที บวกกับเวลากระชั้นชิดพอถ่ายเสร็จก็เอาไปตัดต่อเลย ดังนั้นนอกจากทีมงานกับนักแข่งที่ถ่ายทำด้วยกันแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรบ้างในช่วงขิงก่อนแข่ง

คำพูดของเจี่ยนหรงในครั้งนี้ พวกเขาได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกับคนดูที่ฟลัดเครื่องหมายคำถามในซับกระสุน

พี่ติงนั่งนิ่งดุจขุนเขาอยู่บนโซฟา

หลังผ่านมรสุมมามากเรื่องอย่าง ‘สมาชิกด่าคน’ ถูกจัดลำดับเอาไว้ท้ายสุดในใจเขาไปแล้ว

“ไม่เป็นไร” พี่ติงยัดแตงโมเข้าปาก “พวกนี้ล้วนเป็นวิดีโอที่ผ่านกองตรวจสอบแล้ว ถ้าพูดไม่ได้จริงๆ ผู้รับผิดชอบคงไม่กล้าตัดส่วนนี้เข้าไป”

คำพูดเมื่อคืนของ rish ถูกด่าจนขึ้นช่องการค้นหายอดนิยม คนที่สนใจวงการอีสปอร์ตต่างมองเห็นกันทั้งนั้น

ระดับบริหารของ LPL ก็เห็นแล้วเช่นกัน

คำพูดเหน็บแนมที่ทีม HT พูดกับ LPL ก่อนหน้านี้ล้วนอยู่บนเอ็กซ์ทราเน็ต* ที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ตอนนี้เมื่อไอ้เบื๊อกพวกนั้นมาระรานถึงที่แล้ว เหล่าผู้บริหารของ LPL ยังจะทนได้อีก?

คิดจริงๆ เหรอว่า LPL โกรธไม่เป็น

หากเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนนักแข่งของทั้งสองลีกคงชนเลนกันอย่างดุเดือดไปแปดร้อยรอบแล้ว

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเพราะ LPL ได้กลายเป็นธุรกิจไปแล้ว ใครก็ไม่อยากทำลายชื่อเสียงของตัวเอง ไม่อยากทำลายมูลค่าทางธุรกิจของทีม และยิ่งไม่อยากถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้

พี่ติงถอนหายใจ คิดในใจว่าช่วงสุดท้ายของวิดีโอขิงก่อนแข่งพูดได้ดีจริงๆ แต่ถ้าตัวตั้งตัวตีไม่ใช่มิดเลนของพวกเขาคงดีกว่านี้

“ช่วงขิงก่อนแข่งพูดแบบนี้ได้ด้วยเหรอ” เสี่ยวไป๋พูดอย่างตกตะลึง “เรียนรู้แล้ว…”

ไม่ทันขาดคำเสี่ยวไป๋ก็ถูกพี่ติงดีดกะโหลกหนึ่งที “คนที่อายุยี่สิบกว่ายังอยู่ในช่วงวัยรุ่นอีก? ชอบทำตัวเหมือนนักเรียนเลว?”

‘นักเรียนเลว’ ได้ยินคำวิจารณ์นี้แล้วก็ไม่แม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมอง ทำเพียงหุบปากเคี้ยวหมากฝรั่งที่ลู่ป๋อหยวนเพิ่งยื่นให้เขา

พอได้ยินคำพูดดังกล่าวในช่วงขิงก่อนแข่ง ลู่ป๋อหยวนกลับไม่ได้ประหลาดใจมาก

หลังจากที่วิดีโอนี้ถูกเล่นซ้ำครั้งที่สี่ การถ่ายทอดสดก็ตัดภาพไปยังที่นั่งของผู้บรรยายในที่สุด

ลู่ป๋อหยวนหันหน้ามาถามว่า “เมื่อคืนทนได้ไม่ใช่เหรอ”

เจี่ยนหรงเป่าหมากฝรั่ง ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มจนแตกแล้วรวบกลับเข้าไปในปากอีก จากนั้นจึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ยี่หระ “นอนหลับไปตื่นหนึ่งก็ยิ่งคิดยิ่งโกรธ”

ตอนนี้ในสายตาของคนอื่นๆ เจี่ยนหรงคือเด็กหนุ่มขี้โมโหที่ไม่ควรยั่วยุ

ลู่ป๋อหยวนเอามือสอดเข้าในกระเป๋า สะกดกลั้นความวู่วามที่อยากขยี้ผมเขาเอาไว้

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาเตือนพวกเขาว่าอีกสิบนาทีจะต้องขึ้นเวที

ลู่ป๋อหยวนหยิบมือถือออกมาตามปกติ ขณะกำลังจะปิดเครื่อง โทรศัพท์สายหนึ่งพลันโทรเข้ามาพอดี

เขามองดูหมายเลขผู้ติดต่อ ลังเลสองวินาทีแต่ยังคงรับสายแล้วพูดว่า “ครับแม่”

เจี่ยนหรงชะงัก อดไม่ได้ที่จะหันหน้ามองเขา

คุณแม่ลู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน [ป๋อหยวน กินข้าวเย็นหรือยัง]

เบื้องหลังยังถ่ายทอดเสียงของคุณพ่อลู่มาด้วยว่า…[แค่มีแฟนมีอะไรน่าตกอกตกใจ เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นยังต้องให้พวกเราเป็นห่วงอะไร เขาพากลับมาบ้านได้ค่อยว่ากัน!]

คุณแม่ลู่หันไปถามว่า [คุณเดินหมากของคุณเงียบๆ ได้มั้ย]

ลู่ป๋อหยวนเข้าใจแล้ว เขาหลุบตาลงสบสายตากับเจี่ยนหรงเล็กน้อย ริมฝีปากแฝงรอยยิ้มหลายส่วน “แม่ ผมจะแข่งแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันตอนดึกนะครับ”

[แม่รู้ แม่เพิ่งเปิดแอพฯ ดูการแข่งขันนั้น เห็นลูกยังไม่ขึ้นเวทีเลยคิดว่าลูกว่างซะอีก] คุณแม่ลู่ตอบสนองขึ้นมา [งั้นลูกไปเถอะ ความจริงก็ไม่ได้มีเรื่องด่วนอะไร แค่ลูกสาวคุณป้ากู้บอกว่าในอินเตอร์เน็ตกำลังลือกันว่าลูกมีแฟนแล้ว…]

ลู่ป๋อหยวนตอบกลับไปว่า “มีแล้วครับ”

หลังวางสายลู่ป๋อหยวนถามแบบติดตลกว่า “แอบฟังเหรอ”

เจี่ยนหรงกำลังถลึงตามองเสี่ยวไป๋ที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยู่ด้านข้าง พอได้ยินจึงหันหน้ากลับมา พูดอย่างอารมณ์เสีย “เสียงดังเกินไป ไม่ได้ยิน”

หลังพี่ติงตรวจสอบจนแน่ใจว่าสภาพร่างกายของสมาชิกในทีมปกติ จึงโบกมือบอกเป็นนัยให้ทุกคนขึ้นเวที

สนามแข่งขันรอบชิงชนะเลิศใหญ่กว่าสนามรอบที่ผ่านมา ขณะเจี่ยนหรงเดินขึ้นเวทีเกือบถูกแสงไฟแยงตาจนบอด

ในสถานการณ์แบบนี้นอกจากเงาหลังของเพื่อนร่วมทีมกับอุปกรณ์บนเวทีแล้ว อย่างอื่นล้วนมองไม่เห็นทั้งสิ้น

แต่เสียงตะโกนของผู้ชมชัดเจนมาก แฟนคลับของทั้งสองทีมสามัคคีกันสุดๆ ต่างผลัดกันตะโกนฝ่ายละครั้ง

ท่ามกลางคำว่า “PUD สู้ๆ” กับ “TTC ต้องชนะ” มีเสียงผู้หญิงเสียงหนึ่งดังแหลมขึ้นมาจากแถวหน้า…

“ไอ้โง่สู้ๆ! ไปฝัง rish ที่เกาหลี!”

ขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะเกรียวกราวนั้นเอง ฉากที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น

บนหน้าจอยักษ์ของสนามแข่งและในหน้าจอการถ่ายทอดสด เจ้าผมฟ้าที่เพิ่งถือแก้วน้ำนั่งลงประจำที่ กำลังก้มหน้าปรับอุปกรณ์เหมือนปกติและยังไม่ทันได้ใส่หูฟังก็พลันยกมือขึ้น ชูนิ้วโป้งให้กล้องของตัวเอง

ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร สายตาก็ไม่ได้มองไปยังกล้อง แต่คนทั้งหมดราวกับได้ยินคำตอบจากท่าทางนี้ของเขา

‘ฝัง’

ท่าทางนี้เพื่อนร่วมทีมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ก็มองเห็นเช่นกัน

เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดเสมือนกระแสคลื่นในสนาม พี่ติงอดถอนใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้…บางคนเหมือนเกิดมาเพื่ออีสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นทักษะหรือนิสัย

เมื่อปล่อยคนอย่างเจี่ยนหรงไปบนเวที แม้การแข่งขันยังไม่เริ่ม แต่ความตื่นตาตื่นใจก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดแล้ว

เสี่ยวไป๋อิจฉาแทบตาย ถามในระบบเสียงพูดคุยทีมว่า “นายถอนท่าเมื่อกี้กลับมาได้มั้ย ครั้งนี้ให้ฉันกวนเอง”

“ฉันเพิ่งนึกเรื่องนึงขึ้นได้” หยวนเชียนส่งเสียงซี้ด “เจี่ยนหรง คำพูดที่นายพูดในช่วงขิงก่อนแข่ง Savior สอนนายจริงเหรอ”

เจี่ยนหรงตอบว่า “เปล่า”

Pine พูดว่า “Savior อาจเข้าใจแค่ไม่กี่คำ”

เสี่ยวไป๋หัวเราะ “ฮ่าๆๆๆ ฉันก็คิดเหมือนกัน จากนั้นพอลงไปให้เพื่อนร่วมทีมแปลให้ฟัง เขาค่อยตกใจตาย…”

หยวนเชียนเองก็หัวเราะ “ถ้านายอยากเรียนภาษาเกาหลี ทำไมไม่ถามกัปตันล่ะ”

เจี่ยนหรงกำลังจะบอกว่าตนแค่อยากด่าคน ไม่ได้อยากเรียนด้วยใจจริง ก็ได้ยินลู่ป๋อหยวนพูดอย่างเฉยชาว่า “คงคิดว่าฉันสอนได้ไม่ดี”

หยวนเชียนถามต่อ “ยังไม่เคยสอน รู้ได้ยังไงว่าไม่ดี หลายวันมานี้เจี่ยนหรงเรียนรู้หลายประโยค เดี๋ยวไปเกาหลีคงได้ใช้”

ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “เคยสอนอย่างอื่น”

เจี่ยนหรงตกตะลึง ก่อนถามออกไปตามสัญชาตญาณ “สอนตอนไหน…”

มุมปากของลู่ป๋อหยวนเชิดขึ้นเล็กน้อย “คืนรอบรองชนะเลิศ”

คำพูดไม่กี่พยางค์นี้ตรึงเจี่ยนหรงไว้บนเก้าอี้

“ขยันขนาดนี้เชียว? แข่งเสร็จยังมีแรงไปเรียนรู้อะไรพวกนั้นอีก” หยวนเชียนไม่เข้าใจ จึงพูดต่อไปด้วยความประหลาดใจ “สอนอะไรบ้าง ความจริงฉันเองก็ได้ภาษาเกาหลีนิดหน่อย อย่างซีปา* ปาปัว**…”

“สอน…” เจี่ยนหรงขาดความมั่นใจ ทำได้เพียงพูดอย่างคลุมเครือว่า “แค่สองคำนี้”

ลู่ป๋อหยวนยกยิ้ม ระหว่างนั้นกรรมการที่ตามขึ้นมาตรวจสอบอุปกรณ์ก็บอกเป็นนัยว่าโอเคแล้ว

หลังความกระตือรือร้นผ่านไป เสี่ยวไป๋ถึงพลันนึกอะไรได้ “รอเดี๋ยว งั้นถ้าพวกเราแพ้ให้ HT ในการแข่งขันกลางฤดูจะทำยังไง ให้พี่ฟู่สร้างแคมป์ใต้ดินสักหลัง พวกเราแทรกไปอยู่ในซอกพื้นดิน?”

เพิ่งคิดได้ตอนนี้?

ตาขาวของพี่ติงเหลือกจนแทบจะทะลุออกจากสเตเดี้ยมแล้ว “ตื่นตัวหน่อยได้มั้ย ตอนนี้พวกนายกำลังแข่งรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิ ยังไม่แน่เลยว่าจะได้ไปเกาหลีหรือเปล่า!”

“เชี่ย” หยวนเชียนนั่งตัวตรง หมุนข้อมือผ่อนคลายเล็กน้อย “วันนี้ต้องเอาชนะให้ได้ ไม่งั้นชีวิตที่เหลือของฉันคงไม่กล้าสตรีมแล้ว…”

เสี่ยวไป๋เอ่ย “ยังจะสตรีมอีก? สตรีมรีไทร์ได้อยู่นะ”

Pine วิเคราะห์อย่างใจเย็น “ครั้งนี้พวกเราใช้ชุดหลักครบชุด แถมจังเกิ้ลชุดหลักของพวกเขาไม่อยู่ ถ้าแพ้คงได้รีไทร์กลับไปทำนาแล้วล่ะ”

เจี่ยนหรงพูดว่า “วางใจ คำที่ฉันพูด ถ้าแพ้ฉันจะรับผิดชอบเอง”

พี่ติงถามด้วยความประหลาดใจ “นายจะรับผิดชอบยังไง”

“ผมจะโพสต์เวยป๋อยาวเหยียดด่าพวกเขา” เจี่ยนหรงพูดอย่างสงบ “แบบนี้พวกเขาก็จะหันมาด่าผมกันหมด”

พี่ติง “…”

อัจฉริยะแห่งการชนเลน

หยวนเชียนหัวเราะก่อนพูดว่า “อย่าพูดจาเหลวไหลอย่างรับผิดชอบเอง…ทุกคนเป็นทีมเดียวกัน มีอะไรต้องแบกรับด้วยกัน”

“ใช่แล้ว มีทุกข์ร่วมต้าน มีสุขฉันเสพเอง” เสี่ยวไป๋พึมพำ “อีกอย่างฉันไม่ชอบขี้หน้า rish นั่นมานานแล้ว แข่งเสร็จฉันจะไปขโมยชุดทีมของโต้วฟู พอถึงเกาหลีจะใช้มันคลุมหน้า rish แล้วอัดในห้องน้ำสักรอบ!”

Pine พูดอย่างเย็นชา “อุปกรณ์เสียงเปิดแล้ว”

เสี่ยวไป๋พูดต่อ “ขอโทษครับ พี่ชายที่ดูมอนิเตอร์ ถ้าคุณเอาท่อนนี้ใส่ไปในช่วงทดสอบไมค์ผมต้องตายแน่ คุณสร้างกุศลทำความดีช่วยน้องชายสักครั้ง…”

เสียง ‘ตึง’ ดังขึ้น พวกเขาเข้าสู่หน้าแบนแอนด์พิกแล้ว การแข่งขันเกมแรกในรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

ลู่ป๋อหยวนเก็บรอยยิ้มมุมปาก พูดว่า “เอาล่ะ วันนี้เล่นให้เต็มที่ ชนะตามต้องการ”

หนึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งสองทีมต่างคุ้นเคยกับแผนการปกติของกันและกันแล้ว เฟสแบนจึงไม่ได้เสียเวลาอะไรเลย

ตำแหน่งการแบนสามตัวแรกคือ LeBlanc Aphelios และ Lee Sin ถูกใส่ในช่องแบน พี่ติงเองก็ให้แบนOrianna Volibear และ Renekton ที่อีกฝ่ายชำนาญ

เกมนี้ PUD เลือกฝั่งน้ำเงิน อีกทั้งมีสิทธิ์เลือกตัวแรกก่อน

และแชมเปี้ยนที่ PUD หยิบตัวแรกคือแชมเปี้ยนตำแหน่งจังเกิ้ลอย่าง Graves

“ฉันรู้อยู่แล้ว” พี่ติงหรี่ตาลง ยืนพูดอยู่ด้านหลังลู่ป๋อหยวน “แชมเปี้ยนพูลของถัวถัวมีพอกันกับนาย อีกอย่างเขาชอบเล่นแผนจังเกิ้ลแบกมาก”

“คงเป็นแฟนคลับของพี่ชายผมอีกแล้ว” เสี่ยวไป๋ยิ้มพลางพูดว่า “ถึงยังไงก็เป็น Road รุ่นสอง”

เจี่ยนหรงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เขาไม่มีรุ่นสอง”

พี่ติงขอความคิดเห็นจากลู่ป๋อหยวน “อยากเล่นอะไร”

ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “ก่อนแข่ง XIU ส่งข้อความให้ผม”

เจี่ยนหรงขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “เขายังรบกวนคุณอยู่อีก? บอกว่าอะไร”

ลู่ป๋อหยวนยิ้มเล็กน้อย “เขาบอกว่า…ฉันจะเลือกแพ้ หรือจะช่วยบอกจังเกิ้ลที่อยากขึ้นชุดหลักแทนเขามาตลอดคนนี้ว่า LPL โหดร้ายแค่ไหน”

ขณะนั้นผู้บรรยาย A เอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะครับ คะแนนความนิยมของทั้งสองทีมออกมาแล้ว! ความนิยมของทีม TTC คือ…แปดสิบสอง?!”

โดยปกติหากเป็นทีมแข็งแกร่งสองทีมซึ่งอยู่ในลีกเดียวกัน ทีมที่มีคะแนนความนิยมสูงล้วนอยู่ระหว่างหกสิบเปอร์เซ็นต์ถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

ผู้บรรยาย B “นับว่าปกติครับ ถึงยังไงช่วงขิงก่อนแข่ง Soft ก็ดูมีทักษะการเล่นดุดันขนาดนี้ ลำดับต่อไปให้พวกเราดูหน่อยว่าเฟสสอง TTC จะหยิบตำแหน่งอะไร…Nidalee! ตำแหน่งจังเกิ้ล! TTC กลับหยิบแชมเปี้ยนแผนจังเกิ้ลแบกออกมา?”

“เหนือความคาดหมายมากเลยใช่มั้ยครับ Road ไม่ได้มีชื่อเสียงจากจังเกิ้ลเบิร์สต์แดเมจหรอกเหรอ ในความทรงจำของผมฤดูกาลนี้ยังไม่มีใครกล้าหยิบแชมเปี้ยนแผนจังเกิ้ลแบกมาปะทะกับ Road เลย” ผู้บรรยาย C ยิ้มเล็กน้อย “ความหมายของ Road คือ…ให้ฉันสั่งสอนเด็กใหม่ของ LPL คนนี้สักหน่อยว่าแผนจังเกิ้ลแบกควรเล่นยังไง”

TTC ล็อกแชมเปี้ยนตำแหน่งซัพพอร์ตเป็น Thresh ตามมาด้วย Kog’Maw ในตำแหน่งแครี่

ผู้บรรยาย A พูดด้วยความงุนงง “ผมไม่เข้าใจคอมพ์ของ TTC อยู่นิดหน่อย? จะเล่นแผนสามตัวแบกเหรอครับ แบบนี้พี่เชียนจะกดดันเกินไปหรือเปล่า”

คอมพ์สามตัวแบกเรียกอีกอย่างว่าคอมพ์สามแกนกลาง จุดเด่นคือสามารถจ่ายแดเมจในทีมไฟต์ได้ดีอย่างยิ่ง หลังฟาร์มไปเรื่อยๆ ก็สามารถสร้างความเสียหายได้พอสมควร

แต่จุดด้อยก็ชัดเจนอย่างยิ่งเช่นกัน…แนวหน้าน้อย CC น้อย คอมพ์ที่มีแชมเปี้ยนตัวบางมากเกินไปจะเป็นการมอบโอกาสให้คู่ต่อสู้

หลังหยวนเชียนหยิบ Sion เหล่าผู้บรรยายก็แน่ใจแล้วว่า TTC จะเล่นคอมพ์สามตัวแบกแล้วจึงเริ่มวิเคราะห์เกม…

“ความจริงผมรู้สึกว่าการหยิบคอมพ์สามแกนกลางมาเผชิญหน้ากับ PUD ก็ไม่ได้เล่นง่ายมากนัก ถึงยังไงมาโครของ PUD ก็แข็งแกร่ง ถึง XIU ไม่อยู่แต่ซัพพอร์ตเลนบนของ 98K มีประโยชน์ในทีมไฟต์อย่างยิ่ง”

“ใช่ครับ อีกทั้งเกมนี้ 98K ยังหยิบ Ornn มาเล่นด้วย ถ้าฟาร์มได้ดี ช่วงท้ายเกมเขาต้านอยู่แนวหน้า TTC จะลำบากมาก”

“CC ของ Syndra ที่ Savior หยิบมาก็เพียงพอสุดๆ แล้ว รอดูแค่ว่า Soft จะหยิบแชมเปี้ยนอะไร พูดตามจริงผมกลัวมากว่าเขาจะหยิบ Yasuo…”

เสียงของผู้บรรยายพลันหยุดลง

เห็นเพียงสล็อตที่ห้าของ TTC ปรากฏใบหน้ารูปไข่ของแม่มดน้อยที่กำลังแย้มยิ้ม

ในที่สุดแชมเปี้ยนมิดเลนของ TTC ก็ปรากฏตัว…Lulu, The Fae Sorceress

Lulu เป็นแชมเปี้ยนสายซัพพอร์ต ในจำนวนสี่สกิลของแชมเปี้ยนมีสามสกิลที่แบ่งเป็นเพิ่มเลือด เพิ่มเกราะ และเพิ่มความเร็วให้เพื่อนร่วมทีม นับว่ามีความเป็นพี่เลี้ยงเต็มเปี่ยม รูปร่างตัวละครตัวเล็กน่ารัก ครองใจผู้เล่นหญิงในสามอันดับแรกมายาวนาน

แน่นอนว่าสกิลโล่ของเธอนั้นเมื่อกดใส่ศัตรูก็สามารถสร้างความเสียหายได้ อีกทั้งสกิลเพิ่มความเร็วก็สามารถใบ้* ได้ แดเมจของ Glitterlance** ซึ่งเป็นสกิล Q ก็ไม่ได้ต่ำ…และสิ่งเหล่านี้ยังทำให้สามารถใช้เธอเป็นมิดเลนสายปกป้องได้ ปรากฏให้เห็นในสนามแข่งเป็นบางครั้ง โดยปกติล้วนหยิบมาปกป้องแครี่ ท็อปเลน และจังเกิ้ล

จุดประสงค์ของการเล่นแชมเปี้ยนตัวนี้ในเลนกลางคือยืนเลนแข็งและขี้ขลาด รอเล่นในช่วงท้ายเกม

มีทั้งโล่ ความเร็ว และสกิลอัลติเมต ขอเพียงระวังให้มากศัตรูก็ไม่สามารถแกงค์และโซโล่คิลได้

แต่ในขณะเดียวกันคุณเองก็สร้างภัยคุกคามที่มากกว่าขี้เล็บให้ศัตรูได้ยากมากเช่นกัน…

พูดกันตามเหตุผลการที่แชมเปี้ยนมิดเลนพี่เลี้ยงแบบนี้ปรากฏตัวในสนามแข่งนั้นก็ไม่แปลก ต้าหนิวของทีมจั้นหู่ก็หยิบออกมาเดินเล่นเป็นประจำ เพียงแต่ว่า…

ผู้บรรยาย A “Soft หยิบพี่เลี้ยง Lulu มาเล่น?!”

ผู้บรรยาย B “รอเดี๋ยว ผมค่อนข้างประหลาดใจ…เขารู้มั้ยว่าแชมเปี้ยนตัวนี้มีโล่”

“ผมคิดว่าไม่รู้” ผู้บรรยาย C ดันแว่นตา วิเคราะห์อย่างใจเย็น “ตอนเล่นดูโอ้ เขากับ Pine เคยเล่น Lulu สี่สิบเจ็ดนาทีใส่โล่ป้องกันให้ Pine แค่สามอัน…แต่ไม่เป็นไร ผมเชื่อว่าคืนนี้แหละ Lulu สายเบิร์สต์แดเมจกำลังจะปรากฏแก่สายตาของผู้คน ขอเชิญผู้เล่นหญิงทุกท่านหาที่นั่งให้ดี เตรียมพบกับวิธีการเล่นแบบใหม่ของลูกสาว Lulu ของพวกคุณ…”

แน่นอนว่า Lulu สายเบิร์สต์แดเมจย่อมไม่มี

การแข่งขันเริ่มขึ้นห้านาทีแรก Lulu ของ Soft ลาสต์มินเนี่ยนอย่างใจจดใจจ่อ ตำแหน่งการเดินระมัดระวังรอบคอบ หลบเลี่ยงสกิลของ Syndra ที่เลนกลางอย่างเงียบสงบ ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

ผู้บรรยาย A เอ่ย “อ๊ะ ไม่ชินเลย”

ผู้บรรยาย B พูดว่า “ผมคิดว่าผู้กำกับรายการเองก็ไม่ค่อยชิน ตัดภาพมาให้พวกเราดูเขาสองคนลาสต์มินเนี่ยนเรื่อยเลย”

ผู้บรรยาย C ยังคงยึดมั่น “ไม่ ต้องไม่ง่ายดายแบบนั้นแน่ ผมเชื่อว่าความรุนแรงในตัวของ Soft กำลังจะส่งเสียงขึ้นมาแล้ว…”

เขายังไม่ทันพูดจบก็เห็น Soft เคลียร์มินเนี่ยนเสร็จ เตรียมวาร์ปกลับบ้าน

แอนิเมชั่นสัญลักษณ์ของการวาร์ปกลับบ้านเพิ่งขึ้นมาได้สองวินาทีก็ถูก Soft ยกเลิก จากนั้น Lulu ผู้น่ารักก็ค่อยๆ ชูคทาในมือของตัวเองขึ้น…

มอบแพ็กเกจรักออนไลน์ ‘ความรักเต็มเปี่ยม’ ที่เพิ่มความเร็วและโล่ชุดหนึ่งให้ Road ผู้ที่มีเลือดเต็มหลอดซึ่งเดินผ่านทางมาพอดี

หน้าที่แล้ว1 of 2

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com