everY
ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 1 บทที่ 2 #นิยายวาย
ทดลองอ่าน เรื่อง I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 1
ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)
แปลโดย : หมั่งสีโสว ซื่อเก้เหล้าก้าย
ผลงานเรื่อง : 我行让我来〔电竞〕 (Wo Xing Rang Wo Lai (Dian Jing))
ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน
จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
– – – – – – – – – – – – – – – – –
** หมายเหตุ: ยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **
– – – – – – – – – – – – – – – – –
02
เมื่อเห็นนักแข่งแปลกหน้าสองคนสวมชุดทีมของ TTC ลงสนาม เจี่ยนหรงถือกาแฟบรรจุขวดที่เพิ่งเปิดออกเอาไว้อย่างนั้น เขาลืมดื่มไปชั่วขณะ ซับกระสุนในสตรีมฟลัดเครื่องหมายคำถามขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง คอมพิวเตอร์ของเจี่ยนหรงถูกฟลัดจนค้างไปหลายวินาที
อย่าว่าแต่ผู้ชม กระทั่งนักแข่งตัวสำรองของ TTC ทั้งสองคนที่เพิ่งลงสนาม…โดยเฉพาะคนที่ลงสนามแทน Road นั้น ในดวงตาราวกับแฝงความงุนงงอยู่บ้าง
บนใบหน้าของผู้บรรยายทั้งสามประดับด้วยรอยยิ้มเก้อเขินและสงสัย สบตากันหลายแวบ
“นี่ TTC…คงมีกลยุทธ์อะไรมั้งครับ” ผู้บรรยาย A เปิดหัวข้อสนทนาออกมาอย่างแข็งทื่อ
เมื่อได้รับสัญญาณจากเพื่อนร่วมงาน ผู้บรรยายอีกคนก็รีบพยักหน้า “คงฝึกท่าไม้ตายอะไรมาแน่เลย แต่ถ้าผมจำไม่ผิด จังเกิ้ลตัวสำรองของ TTC น่าจะลงสนามเป็นครั้งแรก?”
“ถูกต้อง ความสามารถของจังเกิ้ลคนนี้ก็แข็งแกร่งมาก เป็นนักแข่งที่เชี่ยวชาญการเปิดไฟต์”
เวลานี้การแข่งขันยังไม่เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อไม่อยากได้ยินเดดแอร์ของเหล่าผู้บรรยาย เจี่ยนหรงจึงปิดเสียงถ่ายทอดสดการแข่งขัน และถามว่า “TTC มีจังเกิ้ลสำรองตั้งแต่เมื่อไหร่”
ความจริงไม่ใช่การตั้งหัวข้อสนทนาถึงจังเกิ้ลสำรองของ TTC คนนี้เป็นครั้งแรก
ขณะประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขัน เหล่าแฟนคลับพบว่าด้านล่างสุดของรายชื่อ TTC มีคนแปลกหน้าอยู่คนหนึ่ง ว่ากันว่าเป็นจังเกิ้ลที่เลื่อนขั้นขึ้นมาจากทีมเด็กฝึก และเพราะเรื่องนี้เองเวยป๋อ ออฟฟิเชียลของ TTC ยังเคยถูกเหล่าแฟนคลับถล่ม…พูดให้ถูกต้องคือเคยถูกแฟนคลับของ Road ถล่ม
ถึงอย่างไร TTC ก็มี Road เป็นจังเกิ้ลมือหนึ่งอยู่ในมือ หลัง Road เข้าทีมรายชื่อตัวสำรองของ TTC ก็ไม่เคยมีการปรับเปลี่ยนนักแข่งตำแหน่งจังเกิ้ลอีกเลย
[เหมือนว่าตัวสำรองจะอยู่มาตั้งแต่การแข่งขันฤดูร้อนแล้ว]
[ถ้าเกมที่แล้วให้มิดเลนสำรองลง โอกาสชนะของ TTC อาจมากกว่าเดิม]
[ในที่สุดจังเกิ้ลสำรองคนนี้ก็มาแล้ว นั่งว่างมาหนึ่งซีซั่น ถ้าไม่ได้ลงสนามฉันคงคิดว่าเขาคือคนที่ TTC เอามาใส่ให้ครบจำนวนเฉยๆ]
[TTC มีไม้ตายอะไรกันแน่ แปลกมาก]
เจี่ยนหรงเพียงเลิกคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร
ต่อให้ TTC มีแผนลับอะไรจริง ก็ไม่ควรเลิกใช้ Road แล้วให้ตัวสำรองที่ไม่เคยลงสนามมาคอลเกม
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เจี่ยนหรงเปิดเสียงถ่ายทอดสดอีกครั้ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแอบอู้อย่างโจ่งแจ้ง
สือหลิว พี่ใหญ่ ทำไมนายแม่งกล้าพูดทุกอย่างเลยวะ
สือหลิวคือเพื่อนสนิทที่มีไม่มากของเจี่ยนหรง และเป็นสตรีมเมอร์คนหนึ่งของซิงคงทีวี เมื่อก่อนเคยเล่นLoL ตอนนี้เปลี่ยนแนวไปอยู่ช่อง PUBG แล้ว
ห-รง ทำไม
สือหลิว นายเสียดสีว่า Kan ล้มมวยต่อหน้าคนเกือบล้านคน? ไม่กลัวแฟนคลับเขาเล่นงานเอาเหรอ
ห-รง แม้แต่ตัวเขาเองฉันก็ไม่กลัว ยังต้องกลัวแฟนคลับเขาด้วย?
เดิมสือหลิวคิดจะตอบว่า ‘นายมันเจ๋ง’ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเพื่อนคนนี้ของเขาก็เจ๋งเป้งแบบนี้มาตลอด
สือหลิว นายก็สงบปากสงบคำหน่อยเหอะ ฉันล่ะกลัวจริงๆ ว่าสักวันบรรดานักแข่ง LPL พวกนั้นจะร่วมมือกันจ้างวานฆ่า
ห-รง ฉันไม่ได้ด่า Kan เมื่อกี้ฉันกำลังชมเขา
สือหลิว …หมายความว่าไง
ห-รง ถึงเมื่อก่อนเขาจะกากยังไงก็ยังอยู่ในแรงก์ไดมอนด์ แต่การเล่นหลายครั้งในวันนี้ ไม่ถึงสิบปีก็เส้นเลือดในสมองตีบ แล้ว ฉันว่าเขาล้มมวย ก็เหมือนแอบชมว่าความสามารถของเขาเหนือกว่าที่แสดงออกมาไม่ใช่เหรอ
“…” สือหลิวเก็บมือถือด้วยสีหน้ามึนตึง คิดในใจว่าช่างเถอะ ไม่เถียงกับเกรียนคีย์บอร์ดแล้ว
ความคิดของเจี่ยนหรงไม่ผิด TTC ไม่ได้เตรียม ‘ไม้ตาย’ อะไรเอาไว้ อย่างน้อยตานี้ก็ไม่มี
ห้านาทีต่อมา จังเกิ้ลของ TTC ถูกโซโล่คิลขณะเดินอยู่ในป่า
สิบสองนาที จังเกิ้ลของ TTC ไปแกงค์ที่เลนกลางและถูกอีกฝ่ายเคาน์เตอร์แกงค์ ฝ่ายศัตรูได้ดับเบิ้ลคิล
เสาหลักไม่อยู่ อีกทั้งสมาชิกชุดหลักยังออกจากสนามไปถึงสองคน ผู้เล่นชุดหลักอีกสามคนเองก็ฟอร์มตกอย่างเห็นได้ชัด บวกกับคอลเกมในทีมไม่ออก ทีมไฟต์ใหญ่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในนาทีที่ยี่สิบของการแข่งขัน TTC ถูกเก็บเอส
เจี่ยนหรงมองความแตกต่างทางการเงินของทั้งสองฝ่าย ก็รู้แล้วว่าเกมนี้ TTC ไม่มีความหวังในการพลิกเกมจึงขี้เกียจเปลืองน้ำลายไปอธิบาย เขากดเปิดตัวช่วยซับกระสุนของสตรีม คิดจะ ‘สร้างมิตรภาพ’ กับเหล่าคนดูบ้าง
[TTC แม่งกากจริงๆ เลยว่ะ]
[ทำไมสตรีมเมอร์ไม่ด่าคน]
[ในที่สุดฉันก็รู้แล้วว่าทำไมจังเกิ้ลสำรองคนนี้ไม่ได้ลงทั้งซีซั่น TTC ประสาทมั้งที่ปล่อยเขาลงในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศให้ขายขี้หน้า หลายเกมก่อน Road เล่นได้ดีขนาดนี้ทำไมต้องเปลี่ยนคน]
[Road เองก็โคตรกาก ทุกคนในทีม TTC โคตรกาก หลายปีมานี้ Road เล่นได้ดีสักกี่เกมกัน รีบรีไทร์ไปเถอะ]
เจี่ยนหรงขยับปลายนิ้วแบนคนที่ด่าคนสุดท้ายทันที ไม่นานคนที่ถูกแบนคนนั้นก็เปิดแอ็กเคานต์รองมาใหม่
[แค่ด่าสองประโยคก็เตะฉันแล้ว? นายเองก็ด่านักแข่งทุกวัน ทำไมไม่แบนตัวเองบ้าง]
“เห็นนายแล้วอารมณ์เสียก็เลยแบนนายไง นายไม่พอใจก็กลั้นเอาไว้” เจี่ยนหรงคร้านจะอธิบาย การต่อสู้ระหว่างเกรียนคีย์บอร์ดไม่จำเป็นต้องใช้เหตุผล ทำให้อีกฝ่ายโกรธได้ก็สิ้นเรื่องแล้ว
เขาพิงอยู่บนเก้าอี้ เลือกท่วงท่าที่สุขสบายแล้วจึงพูดต่อไป “ถึงจังเกิ้ลสำรองจะอ่อนหัด แต่เขาลงสนามครั้งแรกก็เล่นเกมตัดสินของการแข่งขันรอบรองชนะเลิศแล้ว เล่นกากก็คงให้อภัยได้แหละมั้ง ดูออกเลยว่าเบื้องหลังเขาคงฝึกคอลเกมกับสมาชิกชุดหลักน้อยมาก อีกอย่างคนอื่นในทีมก็เล่นได้ไม่เท่าไหร่ เหมือนดูเกมแรงก์ไดมอนด์อยู่เลย”
“มิดเลนสำรองยังพอได้ มีประโยชน์กว่า Kan ในสี่เกมก่อนหน้าหน่อยนึง…แต่ยังเก่งไม่เท่าฉัน อย่าถามคำถามไร้สาระพรรค์นี้”
นาทีที่สามสิบสองของการแข่งขัน เกมตัดสินที่ทุกคนรอคอยใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วในที่สุด
ในเกมนี้ TTC เกือบถูกเก็บเอส
ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน สมาชิกของ HT ดันไปถึงหน้าบ่อน้ำของ TTC และกด TTC คาบ่อเกือบสามสิบวินาที
เวลานี้ในห้องพักของทีม TTC เงียบกริบ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันพลอยได้รับผลกระทบจากบรรยากาศไปด้วย เขาไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจดัง แบกกล้องถ่ายไปตามหน้าที่ และโคลสอัพ Road ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาอย่างต่อเนื่องหลายชอต
Road มองไปที่หน้าจออย่างสงบนิ่ง มือขวาวางบนที่วางแขนโซฟา เขาสวมเสื้อคลุมของทีมอย่างหลวมๆ ทั้งฝ่ามือของเขาหายเข้าไปในแขนเสื้อ
Kan นั่งอยู่ในมุมที่ลึกที่สุด เขากัดริมฝีปากล่างซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง เมื่อเพื่อนร่วมทีมของตัวเองถูกศัตรูกดคาบ่อก็ทนไม่ไหวในที่สุด เขามองไปยังลู่ป๋อหยวนแล้วพูดว่า “กัปตัน ฉันบอกแล้วว่าเกมนี้ฉันเล่นได้”
ลู่ป๋อหยวนเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา ถึงขั้นไม่มองเขาแม้แต่แวบเดียว
Kan เอ่ยต่อ “ถึงก่อนหน้านี้ฉันจะเล่นได้ไม่ดี แต่ว่า…”
“พอได้แล้ว” โค้ชขัดจังหวะเขาด้วยสีหน้ามืดมน “นายเลิกพูดได้แล้ว”
ไม่กี่นาทีให้หลัง เหล่าสมาชิกทีม TTC กลับมาถึงห้องพัก พวกเขาก้มหน้ามองพื้น ทุกคนต่างเหมือนถูกเชือกที่มองไม่เห็นรัดคอ อึดอัดจนพูดไม่ออกและแสดงความเสียใจอื่นๆ ไม่ได้
ไม่ใช่ไม่เคยแพ้การแข่งขัน แต่ครั้งนี้แพ้อย่างราบคาบและน่าอายเหลือเกิน แม้เป็นสมาชิกเก่าที่มีประสบการณ์การแข่งระดับโลกมาหลายครั้งก็อดตาแดงไม่ได้
โค้ชสูดลมหายใจเข้าลึกหลายเฮือก ปลอบใจพวกเขาง่ายๆ หลายประโยค แล้วรีบไปโทรศัพท์ที่ระเบียงเพื่อติดต่อรถประจำทีม ตอนนี้แฟนคลับอารมณ์พลุ่งพล่าน ฝ่ายจัดการแข่งขันจำต้องจัดหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนมารักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ท่ามกลางความเงียบงันเสมือนน้ำนิ่งนี้ ในที่สุดลู่ป๋อหยวนก็มีความเคลื่อนไหว
เขาหยิบหมวกเบสบอลที่อยู่ข้างตัวขึ้นมาสวม กดปีกหมวกลงต่ำเล็กน้อยแล้วพูดว่า “กลับกันได้แล้ว”
เหล่าสมาชิกในทีมลุกขึ้นตามคำพูดของเขา เดินไปนอกประตูอย่างเซื่องซึม
จังเกิ้ลสำรองของ TTC เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี อายุเขาเพิ่งถึงวัยที่ออฟฟิเชียลอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันได้ก็ถูกระดับบริหารดึงตัวมาจากกลุ่มเด็กฝึก เขาเดินอยู่ท้ายสุดของกลุ่มคนอย่างตื่นตระหนก มือขวากำกระเป๋าอุปกรณ์แน่น เม้มริมฝีปากเอาไว้อย่างแรง
เขาอยู่ห่างจากทางออกตรงประตูหลังระยะหนึ่ง แต่ก็ได้ยินเสียงเอะอะของแฟนคลับที่นอกสนามกีฬาแล้ว ชั่วขณะนั้นเขาพลันรู้สึกว่าในถ้อยคำดังแว่วเหล่านี้มีชื่อไอดีของตัวเองปะปนอยู่ ทั้งยังมีคำพูดเยาะเย้ยถากถางจำนวนหนึ่ง เขาถึงขั้นจินตนาการว่าขณะที่ตนเองเดินออกจากประตูหลัง ก็ถูกป้ายไฟที่พิมพ์คำว่า TTC ฟาดจนหัวแตกเลือดไหล
ขณะที่เขาใกล้จะทนไม่ไหวและหยุดฝีเท้าลงนั้นเอง ไหล่ก็ถูกตบอย่างไม่หนักไม่เบาสองที
“ลำบากแล้ว” ลู่ป๋อหยวนเอ่ย “กลับไปฝึกเพิ่มนะ”
เด็กชายราวกับถูกการตบเบาๆ สองทีนี้ทำให้เป็นแผล น้ำตาพรั่งพรูออกมาในทันที เขาพยักหน้าแรงๆ จากนั้นใช้แขนเสื้อปิดหน้าเอาไว้ คร่ำครวญออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
รถประจำทีมของ TTC แล่นกลับแคมป์โดยตรง
หลังลงจากรถ โค้ชกำชับกำชาให้สมาชิกคนอื่นๆ ถอนการติดตั้งแอพฯ เทียปา และเวยป๋อ จากนั้นตาม Road เข้าไปในห้องประชุมพร้อมกัน
“ฉันติดต่อกับคนของสมาพันธ์แล้ว พวกเขากำลังมาที่แคมป์” โค้ชรับน้ำร้อนแก้วหนึ่งมาวางไว้เบื้องหน้าลู่ป๋อหยวน หลังนิ่งเงียบหลายวินาทีจึงถาม “ถ้าเรื่องราวเป็นอย่างที่นายคิดจริงๆ จะทำยังไง”
ลู่ป๋อหยวนตอบว่า “ทำตามกฎ”
โค้ชขมวดคิ้วแน่น คนที่แคล่วคล่องว่องไวมาตลอดมีสีหน้าลังเล “Kan เขา…เขาอยู่ TTC มาเจ็ดปีแล้ว อยู่นานกว่านายกับฉันซะอีก”
ลู่ป๋อหยวนส่งเสียงอืม “แล้วไง?”
“เข้าใจแล้ว” โค้ชมองเห็นแก้วกระดาษที่ยังไม่เคยถูกแตะต้องบนโต๊ะ ขมวดหัวคิ้วแน่นกว่าเดิมแล้วถามว่า “อาการของนายเป็นไงบ้าง ฉันเร่งทางหมอให้แล้ว เขากำลังจะถึง จิ๊…ฉันควรให้เขาไปที่สนามแข่งด้วยกัน”
ลู่ป๋อหยวนยืดแขนตรง เผยมือซ้ายออกมานอกแขนเสื้อ “ดีขึ้นแล้ว”
โค้ชมองดูแวบหนึ่ง “นานขนาดนี้แล้ว ยังสั่นอยู่อีก?”
ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “สองเกมตรงกลางเล่นนานเกินไป”
“อย่าหลอกฉัน วันก่อนนายฝึกซ้อมสิบกว่าชั่วโมง ตอนนี้มาบอกกับฉันว่าการแข่งขันห้าสิบนาทีนาน? นายต้องฝึกเพิ่มแน่ๆ!” โค้ชมองดูจนปวดใจ “หลายวันต่อจากนี้นายเลิกฝึกซ้อมได้แล้ว เกมก็ไม่ต้องเปิด ได้ยินมั้ย”
ลู่ป๋อหยวนมีแผนการในใจ เขาเล่นเกินเวลาฝึกซ้อมที่หมอกำหนดจริงๆ ซ้ำยังเกินไปไม่น้อยด้วย
ช่วงนี้คงไม่มีการแข่งขันต้องลง ลู่ป๋อหยวนพยักหน้า “รู้แล้ว เรื่องหามิดเลนมีความคืบหน้าหรือยัง”
“นายเป็นถึงขนาดนี้แล้ว กังวลใจให้น้อยหน่อยไม่ได้เหรอ” โค้ชสั่งสอนเสร็จ ยังคงพูดด้วยความสัตย์จริง “มี ช่วงนี้ทีมได้คัดเลือกมิดเลนหลายคนมาจากเด็กฝึก แรงก์ระดับประเทศและคนที่กำลังจะหมดสัญญา ยังต้องทดสอบและคัดกรองทีละคนถึงจะได้ข้อสรุป”
ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “ส่งรายชื่อให้ผมสักชุด”
“ต้องให้นายอยู่แล้ว” โค้ชนึกอะไรขึ้นได้ เขาอดไม่ได้ที่จะย่นจมูก “แต่มีบางคำพูดที่ฉันต้องบอกไว้ก่อน พวกเรากำลังหาเพื่อนร่วมทีม ไม่ได้หาเมีย นายอย่าเรื่องมากขนาดนั้น ต้องให้โอกาสคนอื่นก้าวหน้าหน่อย…หลายคนที่นายปฏิเสธคราวก่อนตอนนี้ถูกทีมอื่นดึงตัวไปหมด ฉันเสียใจจะตายอยู่แล้ว…”
ลู่ป๋อหยวนส่งเสียงอืมด้วยสีหน้าเย็นชา คิดในใจว่าถ้าการหาสมาชิกในทีมง่ายดายเหมือนหาเมีย ก็ไม่ต้องเสียใจมากขนาดนี้หรอก
โปรดติดตามตอนต่อไป…
ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 13 ก.ค. 65