ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 1 บทที่ 7 #นิยายวาย – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเอง! เล่ม 1 บทที่ 7 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง I Can Do It ใครไม่ไหว ฉันลุยเองเล่ม 1

ผู้เขียน : 酱子贝 (Jiang Zi Bei)

แปลโดย : หมั่งสีโสว ซื่อเก้เหล้าก้าย

ผลงานเรื่อง : 我行让我来〔电竞〕 (Wo Xing Rang Wo Lai (Dian Jing))

ถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เอเวอร์วายในการเผยแพร่ผลงาน

จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว

หากผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 ** หมายเหตุยังไม่ใช่ต้นฉบับที่เสร็จสมบูรณ์ **

– – – – – – – – – – – – – – – – –

 

07

ผู้ชายคนนี้ดูผอมเล็กน้อย ท้ายทอยเสี้ยวหนึ่งที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อขณะที่เจ้าตัวก้มหน้านั้นขาวมากๆ เขาไม่แตกต่างอะไรกับในสตรีม เห็นได้ชัดว่าขณะสตรีมไม่ได้เปิดแอพฯ ปรับให้หน้าผอมตาโตหรือใช้ฟิลเตอร์แต่อย่างใด

ไม่เหมือนเสี่ยวไป๋ที่ตอนสตรีมแรกๆ ดึงค่าความงามจนสุด ซ้ำเหล่าแฟนคลับยังส่งเขาไปสู่การค้นหายอดนิยมท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่น

สือหลิวได้ยินก็หัวเราะ “นั่นก็เกินไป…นายนี่ชอบ Road จริงๆ เลยนะ”

“ฉันแค่พูดความจริง” เจี่ยนหรงขมวดคิ้ว “ช่องโหว่ของจังเกิ้ล PUD ชัดมาก การแกงค์กับทีมไฟต์พอได้ แต่อินเวดป่าอ่อนเกินไป พึ่งพาการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมเยอะมาก ถ้าเพื่อนร่วมทีมตามไม่ทัน จังเกิ้ลของพวกเขาก็จะเสียจังหวะการเดินเกม”

สือหลิวครุ่นคิดว่าเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ

ครั้งนี้เขาเลือกเจี่ยนหรงมาด้วยกันก็เพราะชอบฟังอีกฝ่ายวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ เขาถามอีก “งั้น Road ล่ะ”

เจี่ยนหรงเงยหน้าขึ้น ครุ่นคิดเงียบๆ หลายวินาที

ลู่ป๋อหยวนมองเห็นว่าขนตาของเขายาวมาก

แล้วเจี่ยนหรงก็พูดว่า “ข้อเสียของ Road…เพื่อนร่วมทีมอ่อนเกินไป?”

สือหลิว “…?”

“ตำแหน่งอื่นฉันไม่ได้สังเกต แต่มิดเลนกากเกินไป” เจี่ยนหรงพูด “รู้จักแต่เคลียร์มินเนี่ยนกับฟาร์ม ไม่ช่วยเติมเกม ตัวเองก็เล่นแบบไม่ได้เปรียบ ไม่มีประโยชน์”

สือหลิววิจารณ์ “นายดูถูกสายเดียวกัน”

เจี่ยนหรงดึงหมวกลงมาแล้วพูดว่า “ฉันเคยกดเจอ Kan ในเซิร์ฟเกาหลี ฉันสุ่มได้ซัพพอร์ต เขาได้มิดเลน มิดเลนอีกฝ่ายคือมิดเลนชุดแรกของ HT”

สือหลิวรู้ว่าเมื่อก่อนเจี่ยนหรงอยู่แรงก์สูงของเซิร์ฟเกาหลี จึงไม่ผิดคาดที่เขาจะกดเจอนักแข่งอาชีพได้ “จากนั้นล่ะ”

“เขาถูกคนอื่นโซโล่คิลสี่ครั้ง” เจี่ยนหรงพูดอย่างสดใสร่าเริง “ตอนนั้นฉันไม่ได้สังเกตดูไอดี คิดว่าเขาเป็นนักแข่งรีไทร์จากลีกไหนสักที่”

สือหลิว “…”

ลู่ป๋อหยวนรั้งสายตากลับ ในดวงตาที่หลุบลงแฝงรอยยิ้มจนปัญญาเล็กน้อย เขาปิดคลิปในมือถือแล้ว ยัดหูฟังเข้าในกระเป๋า

การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ขึ้นเวทีมาเตรียมการขั้นสุดท้าย ผู้บรรยายเองก็ประจำที่ตรงที่นั่งของผู้บรรยายแล้ว บรรยากาศการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกำลังโหมแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในสเตเดี้ยมอัดแน่นไปด้วยความตื่นเต้น

หลังพี่ติงไปทักทายเพื่อนที่หลังเวทีเสร็จจึงกลับมา เขาจัดสูทให้เรียบร้อยค่อยนั่งลง และถามคนที่ก้มหน้าอยู่ตลอดว่า “การแข่งจะเริ่มแล้ว ยังดูอะไรอีก”

เสี่ยวไป๋เงยหน้าพูด “เปล่า ผมไปส่องซิงคงทีวีมารอบหนึ่ง”

หยวนเชียนเอ่ย “ตอนนี้เหล่าสตรีมเมอร์ต่างรอสตรีมการแข่งขันอยู่ไม่ใช่เหรอ มีอะไรน่าดู”

เสี่ยวไป๋ส่งเสียงจุ๊ “ผมอยากฟังว่านักฉอดผมฟ้าคนนั้นจะด่า HT หรือ PUD ยังไงบ้าง แต่เขากลับไม่ได้สตรีม”

“เดิมเขาก็ไม่ค่อยบรรยายการแข่งขันอยู่แล้ว” หยวนเชียนโบกมือเป็นการทักทายให้เพื่อนสนิทสตรีมเมอร์ที่นั่งอยู่แถวหลัง ก่อนพูดไปว่า “วันนี้เขาอาจมาที่สนามแข่งเหมือนกัน”

“เขากล้า?! ผมไม่ได้พูดเกินจริงสักนิด เพื่อนร่วมทีมทั้งหลายที่มาดูการแข่งขันวันนี้เขาเคยล่วงเกินมาหมดแล้ว” เสี่ยวไป๋ยืดตัวตรง ทอดมองรอบด้าน “ผมจำเจ้าหัวฟ้านั่นได้แม่น ถ้าเขากล้าปรากฏตัวที่นี่ ผมต้องคิดบัญชีกับเขาแน่…”

เพิ่งพูดจบเขาก็สบตากับพี่ชายของตน

ลู่ป๋อหยวนพูดว่า “นั่งดีๆ จะเริ่มแล้ว”

เสี่ยวไป๋ส่งเสียงอ้อแล้วจึงกลับไปนั่งตามเดิมอย่างว่าง่าย

ผู้บรรยายทั้งสามคนประจำที่แล้วเริ่มการถ่ายทอดสดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอย่างเป็นทางการ แสงไฟจากที่นั่งของผู้ชมในสเตเดี้ยมมืดลงแล้ว

หลังผู้บรรยายทั้งสามคนแนะนำตัวแล้วก็เริ่มวิเคราะห์ทั้งสองทีม

โดยปกติแล้วผู้บรรยายการแข่งขัน LPL จะเป็นกลางอย่างยิ่ง แต่เมื่อเจอการปะทะของทั้งสองลีก เหล่าผู้บรรยายต่างค่อนข้างเอนเอียงไปทางนักแข่งลีกตัวเอง

“แม้ทีม HT จะแข็งแกร่งแต่ช่องโหว่ก็ชัดมากเช่นกัน อย่างคนใหม่สองคนในเลนล่างที่พวกเขาเพิ่งรับมา ประสบการณ์การแข่งขันไม่เพียงพอ พอถึงช่วงกลางเกมถึงท้ายเกมก็จะตกม้าตายได้ง่ายๆ ตรงข้ามกับไลน์อัพนักแข่ง PUD ของพวกเราที่ลงตัวอย่างยิ่ง ผมมีความเชื่อใจพวกเขาอย่างมาก!”

หลังผู้บรรยายคุยโวถึง PUD เสร็จ กล้องของผู้กำกับรายการก็แพนไปยังผู้ชมในสนามแข่ง

ผู้บรรยาย A “สนามเหย้าของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในปีนี้อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ นับว่าพวกเราได้เปรียบในการเป็นทีมเหย้า! เห็นได้ชัดทีเดียวว่าสถานที่จัดการแข่งขันในตอนนี้มีผู้คนล้นหลาม เหล่าแฟนคลับต่างกระตือรือร้นอย่างยิ่ง!”

กล้องแพนไปยังแถวหน้าของสนามแข่ง

ผู้บรรยาย B “ใช่ครับ ไม่ใช่แค่แฟนคลับที่กระตือรือร้น วันนี้ในสนามแข่งยังมีคนคุ้นหน้ามากันมากมาย…สมาชิกทีมจั้นหู่และทีม MFG ต่างมากันพร้อมหน้า และยังมีทีมโหยวอวี๋…”

ทุกครั้งที่เหล่าผู้บรรยายอ่านชื่อทีมหนึ่ง แฟนคลับที่อยู่แถวหลังต่างพากันตะโกนและกรีดร้องออกมาหนึ่งครั้ง

เจี่ยนหรงรู้สึกว่าแก้วหูของตัวเองจะแตกอยู่แล้ว

เขาขมวดคิ้วแล้วถอดหมวกออก ก้มหน้าลงจัดเส้นผมส่งๆ ไปหลายที จากนั้นค่อยยกมือแคะหู

ตอนนี้กล้องแพนไปที่อีกทีมหนึ่งแล้ว

เสียงของผู้ชมดังขึ้นหลายเดซิเบลในทันที สถานการณ์นี้หากกล่าวว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ท่านใดโชว์ตัวก็ไม่เกินไป

ผู้บรรยาย C “ยังมี…ทีมรถถังของพวกเราก็มาถึงสนามแข่งแล้ว!”

เจี่ยนหรงตกตะลึงหลายวินาที ก่อนตอบสนองขึ้นมาว่าทีมที่อีกฝ่ายพูดถึงคือทีมไหน

ความหมายทางการของชื่อทีม TTC คือ ‘Take The Crown’

แต่เนื่องจากทีมนี้เพิ่งเข้าสู่ LPL ก็คว้าถ้วยแชมป์ของการแข่งขันระดับโลกใบแรกไปได้ กระแสมาแรงอย่างยิ่ง เหล่าแฟนคลับจึงพากันเรียกขานทีมนี้เล่นๆ ว่า ‘Tank Training Center (ศูนย์ฝึกรถถัง)’

จากนั้น TTC จึงกลายเป็น ‘ทีมรถถัง’ ติดปากของแฟนคลับ

เจี่ยนหรงเงยหน้ามองไปยังจอยักษ์บนเวที อยากรู้ว่าทีม TTC มีใครมาบ้าง

กล้องแพนไปหาคู่หูเลนล่างของ TTC ก่อน Pine ยังคงสวมผ้าปิดปาก สายตาที่มองไปยังกล้องไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย เสี่ยวไป๋ถอดสิ่งบดบังบนใบหน้าออกหมดแล้วยิ้มให้กล้องเผยฟันขาวออกมา

จากนั้นเป็นหยวนเชียนกับพี่ติง ทั้งสองโบกมืออย่างพอเหมาะ มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ

สุดท้ายเป็นการจับภาพเดี่ยว ชายคนหนึ่งเพิ่งปรากฏตัวบนจอยักษ์ เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นจนแทบทำให้เพดานถล่ม คนที่ไม่รู้คิดว่า PUD ได้แชมป์แล้วซะอีก

Road นักแข่งที่ได้รับความนิยมที่สุดของ LPL แต่งกายมิดชิดอย่างยิ่ง สวมทั้งหมวกและผ้าปิดปากแต่ยังคงหนีสายตาเฉียบคมของผู้กำกับรายการไม่พ้น

ไม่กี่วินาทีให้หลังเมื่อเห็นว่ากล้องยังคงไม่ขยับไปไหน ลู่ป๋อหยวนดันหมวกของตัวเองขึ้นเล็กน้อยอย่างจนปัญญา เผยดวงตาออกมา

จากนั้นพยักหน้าให้กล้อง

เสียงจากไมโครโฟนของเหล่าผู้บรรยายดังมากแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับจมอยู่ท่ามกลางเสียงตะโกนของผู้ชม “เทพลู่ของพวกเราเองก็มาแล้ว! วันนี้สนามแข่งคือที่รวมตัวของยอดฝีมือ! ท่านผู้ชมทุกท่านครับ บัตรของพวกคุณคุ้มค่าแล้ว!”

หากเปลี่ยนเป็นยามปกติ เจี่ยนหรงคงออกจากสนามไปซื้อที่อุดหูแล้ว

แต่ตอนนี้เขาหมางเมินสิ่งเหล่านี้ชั่วคราว

เขามองดูผู้ชมที่บังเอิญเข้ากล้องทางขวาของ Road ในจอยักษ์อย่างเฉื่อยชา

ผมสีฟ้า เสื้อสีดำ ในมือถือหมวกเบสบอลใบหนึ่ง บนใบหน้าประดับด้วยความงุนงง

เป็นตัวเขาเอง

จู่ๆ กล้องของผู้กำกับรายการก็ขยับเล็กน้อย ใบหน้าของเจี่ยนหรงเข้าไปในกล้องทั้งหมดทันที

เจี่ยนหรง “…?”

ผู้บรรยาย A “คนที่นั่งอยู่ข้างเทพลู่กลับเป็นแฟนคลับของเขาซะด้วย ทุกคนดูหมวกในมือของผู้ชมท่านนี้สิครับ…”

วิญญาณครึ่งหนึ่งกลับเข้าร่าง เจี่ยนหรงซ่อนหมวกไว้ในเสื้อคลุมด้วยมือไม้ที่แข็งทื่อ

ผู้บรรยาย A “ฮ่าๆๆ ไม่ต้องกังวล พวกเรามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่มีใครกล้าขโมยหมวกของคุณหรอกครับ”

เจี่ยนหรง “…”

ผู้บรรยายอีกสองคนต่างหยุดชะงัก ไม่กี่วินาทีให้หลังจึงพูดต่อ

“เอ่อ ใช่ครับ” ผู้บรรยาย B พูดขึ้น “…ความจริงผมรู้จักแฟนคลับท่านนี้”

ผู้บรรยาย A “หมายความว่ายังไงครับ”

ผู้บรรยาย C “เป็นสตรีมเมอร์เกมลีกออฟเลเจ็นดส์ของพวกเรา เนื้อหาในสตรีม…มีเอกลักษณ์เหลือเกิน”

ผู้บรรยาย A สงสัย “เอกลักษณ์อะไร”

“เชี่ยวชาญอย่างยิ่ง ที่เรียกว่าอะไรนะ” ผู้บรรยาย C กลั้นอยู่ครึ่งค่อนวันจึงเค้นออกมาประโยคหนึ่ง “…การวิเคราะห์นักแข่ง”

ผู้บรรยาย A “…?”

ผู้ชมหัวเราะเกรียวกราว ในช่องถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการที่พวกเขามองไม่เห็นก็มี ‘666’ กับ ‘ฮ่าๆๆ’กลบพื้นที่ซับกระสุนทั้งหมดแล้ว

ไม่นานกล้องของผู้กำกับรายการก็ตัดกลับมาที่ผู้บรรยาย และผู้บรรยายทั้งสามคนก็พูดคุยหัวข้อต่อไปอย่างเชี่ยวชาญ

แต่คนที่ด้านล่างเวทีไม่ได้สงบเท่าพวกเขา

เจี่ยนหรงยังรักษาท่าทางซ่อนหมวกเมื่อกี้เอาไว้ แผ่นหลังแน่วนิ่ง

เขาไม่มีนิสัยมองซ้ายมองขวา หลังนั่งลงก็ดูเวยป๋ออย่างจดจ่อ ไม่ได้สังเกตรอบตัวเลยว่ามีใครนั่งอยู่บ้าง

แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

สิบกว่าวินาทีให้หลัง เจี่ยนหรงล้วงหมวกออกมาจากอกเสื้อแล้วสวมอีกครั้งอย่างเชื่องช้า เส้นผมถูกหมวกทับจนยุ่งเหยิง

ทางด้าน TTC ก็ตกอยู่ในความนิ่งเงียบชั่วขณะเช่นกัน

Pine ใช้ไหล่กระแทกเสี่ยวไป๋ เอ่ยเสียงเย็นว่า “มัวตะลึงอยู่ทำไม คิดบัญชีสิ”

เสี่ยวไป๋ “…”

เสี่ยวไป๋ลอบมองทางโน้นแวบหนึ่ง ตอนนี้นักฉอดผมฟ้ามีสีหน้าเย็นชา แถมยังเม้มริมฝีปากเอาไว้ แม้รูปร่างไม่กำยำ แต่ดูแล้วก็ยังคงหาเรื่องได้ยาก

เสี่ยวไป๋หันหน้ากลับมา “ฉะ…ฉันจะทนไว้ก่อนสักครั้ง สนามแข่งมีคนดูอยู่เยอะมากขนาดนี้ ฉันไม่สะดวกลงมือ”

Pine บอกว่า “ขี้ขลาด”

สุดท้ายเป็นทูตสันติภาพของทั้งสองฝ่ายที่ทำลายสถานการณ์ชะงักงันนี้

หยวนเชียนโน้มตัวลง โบกมือข้ามสองคนที่อยู่ตรงกลางให้สือหลิว “สือหลิว? นายเองก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ”

สือหลิวรีบยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่แล้ว บังเอิญเหลือเกินพี่เชียน พวกคุณก็มาดูการแข่งขัน?”

“ถึงยังไงก็ใกล้กับแคมป์เรา ก็เลยแวะมาน่ะ” หยวนเชียนมองไปยังคนที่อยู่ด้านข้างเขา “นายคือ Soft ใช่มั้ย พวกเราเคยเล่นด้วยกันในเกม”

เจี่ยนหรงหันหน้ามาส่งเสียงอืม

เขาสวมหมวกเอาไว้จึงมีปีกหมวกบังอยู่ เขามองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านข้างตัวเอง

หยวนเชียนพูดว่า “ไม่ได้เล่นด้วยกันนานแล้ว คราวหน้ามีโอกาสค่อยเล่นด้วยกันสักหน่อย”

เจี่ยนหรงกำลังหวนนึกถึงเนื้อหาที่ตนเองเพิ่งพูดคุยกับสือหลิวเมื่อกี้ พอได้ยินจึงหลุดปาก “สองวันก่อนเพิ่งเล่นด้วยกันไม่ใช่เหรอ”

หยวนเชียนตกตะลึง จากนั้นอธิบาย “อ๊ะ วันนั้น…”

“ตานั้นฉันเล่นเอง” คนที่อยู่ตรงกลางพลันส่งเสียง

เสียงของเขาเบามาก เจี่ยนหรงเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ แต่ยังรักษาท่าทางที่ก้มตัวเล็กน้อยไปพูดคุยกับหยวนเชียนเอาไว้

เขารู้สึกได้ว่าสายตาสายหนึ่งกวาดลงมาจากด้านบน ตกอยู่บนหมวกของเขาตรงๆ

เจี่ยนหรงเริ่มหวนระลึกว่าวันนั้นตนทำอะไรไปบ้าง

เหมือนเล่น Syndra ไปตาหนึ่ง

ถามว่า ‘หยวนเชียน’ กำลังเลียนแบบ Road หรือเปล่า

และยังซักถาม ‘หยวนเชียน’ ว่าคนที่ส่งของขวัญวันนั้นใช่ Road ตัวจริงหรือไม่กันแน่

“…”

ลู่ป๋อหยวนมองดูหมวกของเขา พูดว่า “วันนั้นประสาทสัมผัสมือไม่ดี ไม่ได้เป็นภาระนายใช่มั้ย”

เจี่ยนหรงได้ยินเสียงของผู้บรรยายไม่ชัดแล้ว เขาหลับตาลงชั่วครู่ จากนั้นฝืนใจเงยหน้าช้าๆ สบตากับลู่ป๋อหยวน

แสงไฟของสเตเดี้ยมส่องอยู่ในดวงตาของลู่ป๋อหยวน เหมือนทะเลสาบผืนหนึ่ง

เจี่ยนหรงดิ้นรนออกมาจากในทะเลสาบนั้น หัวใจเต้นรัวจนเร็วกว่าจังหวะกลองของเพลงประกอบ

“อ้อ” เขาเลียริมฝีปากอย่างหน้าตาย จากนั้นส่ายหน้า “ไม่เลย”

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

ติดตามบทต่อไป ได้ในวันที่ 18 .. 65

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com