“เออ เมื่อกี้ตอนเข้ามาไม่เห็นพี่วี” เธอนึกขึ้นได้
“วันนี้วีไปประชุมที่เดอะวอร์ฟนี่แหละ”
“งั้นเดี๋ยวกานต์ไปดูบ้านเลยดีกว่า” กานต์ทำท่าจะลุกขึ้น ทว่าอาชวินก็รีบเรียกไว้
“เดี๋ยว นี่มันเย็นแล้วนะ”
หญิงสาวหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังก็พบว่าอีกแค่ครึ่งชั่วโมงจะห้าโมงเย็นแล้ว และนั่นก็ทำให้เธอต้องหันกลับไปยิ้มแห้งกับรุ่นพี่
“เรานี่ไม่เคยเปลี่ยน พุ่งเข้าชนตลอด” อาชวินไม่รู้จะขำหรือปลง “เอางี้ พรุ่งนี้ว่างไหมล่ะ ถ้าว่างก็ไปพรุ่งนี้ หมูต้องออกไปประชุมอีกงานพอดี ประชุมเสร็จแล้วพี่ให้หมูไปเจอกานต์ที่เดอะวอร์ฟได้”
“พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ” กานต์พยักหน้าหงึกหงัก
“โอเค งั้นตกลงตามนี้ เดี๋ยวออกไปนัดเวลากับหมูเองแล้วกัน…อ้อ แล้วก็ส่งพอร์ตงานโคโลเนียลงานรีโนเวตที่ผ่านมาของกานต์เข้าอีเมลพี่ด้วย พี่จะต้องส่งไปให้ลูกค้าดูว่าเขาโอเคกับกานต์ไหม”
“ครับผม”
เธอตะเบ๊ะท่าทางขึงขัง สุ้มเสียงลดลงไปอยู่ในโทนต่ำโดยอัตโนมัติ และนั่นก็ทำให้รุ่นพี่หนุ่มหล่ออดคิดไม่ได้…
ยิ่งเหมือนผู้ชายหนักเข้าไปใหญ่
พอออกมาจากห้องทำงานของอาชวิน กานต์ก็โฉบไปที่โต๊ะของสุรทิน อีกฝ่ายเข้ามาทำงานใน Archwin หลังเธอลาออกแล้ว แต่ด้วยความที่เธอแวะเวียนเข้ามาในบริษัทบ่อยๆ ทำให้รู้จักกับพนักงานรุ่นหลังดี สำหรับสุรทินก็ถือว่าสนิทสนมกันพอสมควร เมื่อเธอถ่ายทอดคำพูดของอาชวินให้หนุ่มรุ่นน้องฟัง เขาก็จัดการนัดแนะเวลากับเธอ ทว่าถึงจะเสร็จธุระแล้วเธอก็ไม่ได้กลับในทันที แต่ยังนั่งคุยเล่น จนไปๆ มาๆ ก็นัดไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนบางคนในออฟฟิศต่อ
อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะได้เวลาเลิกงาน มีเสียงติ๊ดเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าประตู แล้วหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏกายพร้อมกับเสียงบ่นกระปอดกระแปด
“วันนี้โคตรร้อน รถก็โคตรติด ยายเจ๊ก็โคตรงี่เง่า ฉันนี่โคตรหงุดหงิด…”
“แล้วนี่ทำไมกลับมาออฟฟิศอ่ะ ปกติพี่รัมภาไม่ได้เป็นคนดีขนาดนี้นี่” สุรทินส่งเสียงแทรกตามประสาคนปากไว
“ไอ้หมู อยากตายรึไง!” ณัฐรัมภาสะบัดหน้าไปแหวใส่ทันที และนั่นก็ทำให้เธอสังเกตเห็นใครคนหนึ่งที่ลากเก้าอี้มานั่งข้างรุ่นน้องตัวดี “กานต์…”
นอกจากน้ำเสียงจะอ่อนลงในพริบตาแล้ว หญิงสาวผู้มาใหม่ยังทิ้งข้าวของทุกอย่างที่ถือมาลงบนโต๊ะทำงานแบบไม่ไยดี จากนั้นก็ถลามาหาหญิงสาวที่หลายครั้งดูหล่อกว่าผู้ชายหลายคนทันที
“ว่าไงรัมภา ไม่เจอกันแป๊บเดียว สวยขึ้นอีกแล้ว ไปทำอะไรมาเนี่ย”
“โกหกมันบาปนะพี่กานต์”
สุรทินเตือน แต่ไม่ทันขาดคำชายหนุ่มก็ร้องลั่นเพราะณัฐรัมภาจับพนักเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่เหวี่ยงไปทางประตูอย่างแรง ผลคือมันวิ่งฉิวโดยมีเจ้าของเก้าอี้ติดไปด้วย หน้าสุรทินแทบพุ่งลงพื้น ขณะที่คนลงมือก็หันกลับไปทำท่ายืนบิดเขินต่อหน้าสาวหล่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ปากหวานอีกแล้วกานต์อ่า บ้าจัง”
“ไม่ได้ปากหวาน สวยขึ้นจริงๆ” กานต์หัวเราะ ขณะเดียวกันก็เห็นสุรทินค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้กระดึ๊บๆ กลับมา สีหน้าบ่งบอกว่าทั้งเซ็งทั้งหน่าย
ณัฐรัมภาอายุเท่ากับกานต์ เธอจบอินทีเรียดีไซน์จากต่างมหาวิทยาลัย หลังจากทำงานที่อื่นพักหนึ่งก็มาสมัครงานที่ Archwin เพราะอยากทำงานร่วมกับอาชวิน…ณัฐรัมภาเป็นสาวเปรี้ยวปรี๊ด เรียกได้ว่าตรงข้ามกับกานต์แทบทุกอย่าง เธอเข้ามาทำงานก่อนกานต์ลาออกไม่นาน แต่ทั้งสองก็สนิทกันพอสมควร นอกจากหน้าตาของกานต์ที่สาวเปรี้ยวบอกว่าหล่อใสตรงสเป็กแล้ว ยังมีช่วงหนึ่งที่ณัฐรัมภาโดนแฟนเก่ารังควาน และกานต์ก็เป็นคนไปช่วยเอาไว้ ตั้งแต่นั้นคุณเธอก็ยิ่งปลื้มปริ่มเข้าไปใหญ่
ถึงปกติณัฐรัมภาจะเป็นเหมือนเจ๊ใหญ่ในออฟฟิศ แถมนิสัยก็ค่อนไปทางเหวี่ยงวีนจนอาจเรียกว่าแรงในบางจังหวะ แต่พออยู่ต่อหน้ากานต์แล้วก็จะเป็นอย่างตอนนี้ เรื่องนี้เป็นหัวข้อกระเซ้าเย้าแหย่ประจำออฟฟิศยามกานต์แวะเวียนมาเยี่ยม
กานต์คิดว่ามันตลกดี และทราบดีว่าณัฐรัมภาไม่ได้ชื่นชอบเธอในเชิงชู้สาว ดังนั้นเธอเลยมักจะผสมโรงเล่นไปด้วย
“เดี๋ยวพวกเราบางคนจะไปกินข้าวเย็นกัน รัมภาไปด้วยกันไหม”
“ไปๆ ไม่ได้กินข้าวกับกานต์นานแล้ว”
“ไม่ได้กินข้าวกับกานต์นานแล้ว” สุรทินเลื่อนเก้าอี้กลับมาถึงโต๊ะทำงานจนได้ พอมาถึงก็ทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียน ผลคือณัฐรัมภาถลึงตาแล้วแหวใส่
“ไม่อยากมีชีวิตอยู่ไปสแกนนิ้วเลิกงานหรือไง หา!”
“อยากไม่อยากก็ต้องอยู่อ่ะ จะต้องส่งงานให้พี่วินตรวจภายในวันนี้ พรุ่งนี้ไปประชุม”
“อ๋อ งั้นก็แล้วไป เพราะอย่างแกกว่างานจะเสร็จก็อย่างต่ำสองทุ่ม ไปกินข้าวกับพวกเราไม่ได้แหงๆ” ณัฐรัมภาพยักหน้าหงึกหงัก
“ก่อนพี่รัมภามา ไอ้หมูมันก็เพิ่งบอกกับพี่กานต์แบบนี้แหละ” ใครคนหนึ่งส่งเสียงแฉ ผลคือสุรทินโวยวายใหญ่โตท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคน
กานต์ผสมโรงหัวเราะไปด้วย นี่เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกผ่อนคลายที่สุดในรอบหลายวัน เพราะแบบนี้เธอถึงแวะเวียนกลับมาที่นี่เสมอ นอกจากมีงานที่ชอบแล้วมันยังเป็นที่ที่อบอุ่นสำหรับคนไกลบ้านอย่างเธอด้วย
(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 16 มีนาคม)