ทันทีที่เข้าไปในห้องโถง สาวใช้ประคองฮูหยินผู้เฒ่าจย่าให้ยืนขึ้น จย่าเป่าอวี้โถมตัวเข้าไปอยู่ที่ข้างขานางโดยไม่เอ่ยคำใด ได้แต่พูดฟ้องเหมือนจะร่ำไห้เสียงเบาว่า “ท่านย่า หลานคิดถึงท่านใจจะขาดอยู่แล้ว หลายวันที่ผ่านมานี้ท่านย่าสบายดีหรือไม่ ปวดขาหรือไม่ คิดถึงหลานบ้างหรือไม่ขอรับ”
หลินไต้อวี้ขนลุกเกรียวขึ้นมาเป็นระลอกแต่กลับไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมา
จย่าเป่าอวี้เหมาะจะเกลือกกลิ้งอยู่ในดงบุปผาอย่างแท้จริง หากไม่ทำตัวเป็นคนเจ้าสำอางก็คงเสียทีที่มีใบหน้าดอกท้องามดุจหยกขาวแล้ว จริงๆ นะ นางรู้สึกเสียดายแทนเขาแล้วสิ
ฮูหยินผู้เฒ่าจย่าทั้งฉิวทั้งขันแต่อดพิศดูเขาไม่ได้ “เหตุใดเป่าอวี้ผอมลงล่ะ อยู่ข้างนอกลำบากมากใช่หรือไม่ ผู้ใดใช้ให้เจ้าไม่ยอมอยู่จวนดีๆ แต่กลับออกไปหาเรื่องเอง!”
หลินไต้อวี้สูดหายใจเข้าปอด พูดไม่ออก มารดามันเถอะ! คำว่า ‘ลำบาก’ สองพยางค์นี้พูดกันเกินไปหรือไม่ เขาผอมลงตรงที่ใด ตอนกินหัวหมูหัน นางยังเคี้ยวไม่เสร็จ หัวหมูทั้งหัวก็ลงไปอยู่ในท้องเขาแล้ว ขนาดหลินไต้อวี้ยังมีเนื้อมีหนังมากขึ้น แล้วจย่าเป่าอวี้จะผอมลงได้หรือ
ถ้าจะให้นางแบกรับความผิดเช่นนี้ก็ไร้มนุษยธรรมเกินไปแล้ว
“ลำบากที่ใดกัน เพียงแต่ตอนไปถึงหยางโจวแล้ว ได้ยินว่าท่านอาเขยล้มป่วยจนเสียชีวิต ข้ารู้สึกเสียใจมากเลยกินอาหารไม่ค่อยลง แต่พอนึกได้ว่าผินผินกลายเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ข้าก็ยิ่งเสียใจมากขึ้น”
หลินไต้อวี้หลับตาหนีเอาดื้อๆ พอเถอะ ย่าหลานน่ารังเกียจคู่นี้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันจบแล้วใช่หรือไม่ เวลานี้นางอยากพักผ่อนมากๆ และอยากออกไปจากฉากการสนทนาด้วยความรักใคร่จนน่าหมั่นไส้นี่แล้ว
แต่เห็นได้ว่าจย่าเป่าอวี้ไม่คิดจะปล่อยนางไป เพราะเขาฝืนดึงหลินไต้อวี้ไปตรงหน้าท่านยายเพื่อร่วมสวมเสื้อหลากสีทำให้บุพการีเพลิดเพลิน ทำให้นางต้องเค้นน้ำตาออกมาเพื่อแสดงถึงความคิดถึงและเสียใจ แต่สวรรค์รู้ดีว่าหลินไต้อวี้ไม่มีทักษะเรื่องการแสดงถึงเพียงนั้นจึงไม่อาจเลียนแบบจย่าเป่าอวี้ที่สั่งน้ำตาได้และกอดท่านย่าของเขาร่ำไห้จนคอเสื้อชื้น ความจริงใจระดับนี้ย่อมทำให้ท่านยายรับเขาเข้าไปไว้ในใจ ไหนเลยจะยอมปล่อยให้เขาไปที่ใดได้อีก
หลังจบฉากรำพันพิลาปปานพายุฝนถล่มทลายที่น่าสะอิดสะเอียนแล้ว ท่านยายก็ไม่ได้พูดเรื่องลำบากไม่ลำบากอีก แม้หลินไต้อวี้จะมีพี่จี้เพิ่มมาด้วยอีกคน ท่านผู้อาวุโสก็ตกปากอนุญาตทันที และให้หลินไต้อวี้กลับไปพักที่เรือนปี้ซาเหมือนเดิม ทั้งยังบอกว่าเย็นนี้จะมีงานเลี้ยงเล็กๆ เพื่อถือโอกาสกำหนดวันแต่งงานของทั้งสองคนด้วย
คอยจนหลินไต้อวี้กลับไปที่เรือนปี้ซาแล้ว นางถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าที่จย่าเป่าอวี้ลากนางไปร่วมแสดงละครด้วยก็เพื่อไม่ให้ท่านยายหงุดหงิดใส่นางเรื่องที่นางยึดตัวเขาไว้นาน และทำให้ผู้อาวุโสยินดีจัดการเรื่องแต่งงานของพวกนาง
ปีศาจ…นางตกอยู่ในอุ้งมือของปีศาจแน่แล้ว ต่อไปนางจะมิถูกเขาจับปั้นให้กลมหรือแบนตามใจชอบหรอกหรือ
แต่เมื่อท่อนไม้กลายเป็นเรือ* เสร็จสรรพ หลินไต้อวี้ยังจะมีสิทธิ์บอกว่าไม่อีกหรือ…แน่นอนว่าไม่มี
เย็นวันนั้นหลินไต้อวี้อาบน้ำแล้วให้เสวี่ยเยี่ยนแต่งหน้าให้นางนิดหน่อยเพื่อไปร่วมงานเลี้ยง แน่นอนว่าต้องมีคนของทั้งสองบ้านมาร่วมงาน และมีเซวียเป่าไชนั่งอยู่ข้างป้าสะใภ้รอง
ไม่เจอกันครึ่งปีเซวียเป่าไชดูจะค่อยๆ โตเป็นสาว รูปโฉมพิลาสพิไลดุจดอกโบตั๋นและสูงขึ้นเยอะ ท่าทางคล้ายดรุณีในห้องหอที่ถูกอบรมมาอย่างเข้มงวด มีความสวยสง่า ยามหัวเราะไม่เห็นฟัน สายตาไม่สอดส่าย ผ่องพรรณไร้ที่ติ…อืม เซวียเป่าไชอายุมากกว่าหลินไต้อวี้สามปี คอยให้นางอายุเท่านั้นเมื่อไร รับรองว่าต้องเฉิดฉายกว่าอีกฝ่ายแน่
ว่าแต่เหตุใดนางจึงต้องไปเปรียบเทียบตนเองกับเซวียเป่าไชด้วย เสียสติไปแล้วจริงๆ หรือ
แม้ความจริงหลินไต้อวี้จะรู้สึกเสียใจแทนเซวียเป่าไชนิดหน่อย เพราะเดิมเซวียเป่าไชคือว่าที่ภรรยาเอกของจย่าเป่าอวี้ แต่ผลกลับกลายเป็นว่าหลินไต้อวี้ถูกคนสองหน้าอย่างจย่าเป่าอวี้ทำให้ต้องตีกระบองแยกคู่ยวนยาง
ทว่าคิดเรื่องนี้มากไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเนื้อเรื่องที่หลุดกรอบจากต้นฉบับไปแล้ว หลินไต้อวี้จึงจำเป็นต้องล่วงเกินผู้อื่น ซึ่งคนผิดตัวจริงก็เป็นคนผู้นั้นนั่นแหละ
ทันทีที่เข้าไปในงานเลี้ยง หลินไต้อวี้ก็ถูกจย่าเป่าอวี้ดึงไปนั่งข้างเขา เหมือนนางเป็นหุ่นกระบอกที่ใครก็ชักเชิดได้ คนในงานคุยอะไรกันหลินไต้อวี้ไม่ได้จับความละเอียดนัก จนอาหารถูกนำขึ้นมาตั้งบนโต๊ะแล้ว สติของนางถึงพลันตื่นขึ้น
โจ๊กล่าปา เอ็นกวางสามสหาย ไก่ป่าผัดเกาลัด เป็ดนึ่งแช่เหล้า อกห่านแต้มชาด น้ำแกงลูกชิ้นกุ้งห่อหนังไก่…ง่ำๆๆ อาหารเลิศรสในฝันของนางรสโอชาเหลือเกิน กลิ่นก็หอมแตะจมูก เช่นนี้ยังจะต้องสนอีกไปไยว่าใครจะพูดว่าอะไร สนแต่เรื่องกินและให้สาวใช้คอยคีบอาหารให้ชิมไปทีละอย่างก็พอ
หลังดื่มชาลู่อัน ขนมหวานก็ตามมา หลินไต้อวี้รู้สึกหัวใจเต้นเร็วขึ้น คล้ายกำลังเหยียบอยู่บนปุยเมฆ นางไม่กลัวว่าตนเองจะร่วง แต่อยากคว้าโอกาสนี้ชื่นชมให้สมใจมากกว่า