ทดลองอ่าน
ทดลองอ่าน นิทานรักนักษัตรปีมะเส็ง บทที่ 7
เฮ้อ ถึงเขาจะทำไปเพื่อแผนการและถือโอกาสช่วยปกป้องนางไปด้วย แต่นิสัยของหลินไต้อวี้เป็นประเภทกินของผู้อื่นพูดจาต้องดี รับของผู้อื่นมือไม้ต้องอ่อน ต่อไปนางคงต้องลดเสียงเวลาคุยกับเขาให้เบาลงหน่อยแล้ว
“คุณหนู นายหญิงมาเจ้าค่ะ” เสวี่ยเยี่ยนที่ยกน้ำชาเข้ามากระซิบบอกก่อนถอยออกไปนอกห้อง
“โอ๊ย รีบเก็บให้เสร็จสิ นายหญิงของพวกเราเป็นพวกหน้าเนื้อใจเสือ ทำให้สาวใช้อย่างพวกเราเอือมระอาเป็นที่สุด ถ้านางจับผิดใครได้เป็นต้องเล่นงานคนผู้นั้นถึงตายแน่” เสี่ยวหงบ่นอุบแต่มือยังคงทำงานไม่หยุด เพียงชั่วอึดใจนางก็แบ่งประเภทเชือกถักที่ทำและเก็บเสร็จเรียบร้อย
“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว” ฉิงเหวินปรามเสียงเบา
ฝ่ายหลินไต้อวี้นางไม่มีแม้แต่โอกาสได้พูดเพราะทันทีที่นั่งเรียบร้อย หวังฮูหยินก็พาสาวใช้จำนวนหนึ่งตรงเข้ามาในห้องของนางอย่างรวดเร็ว
“ท่านป้าสะใภ้รอง” หลินไต้อวี้ทักทายอย่างสำรวม
“เจ้าป่วยอยู่ ไม่ต้องมากพิธีไป วันนี้สะใภ้รองเฟิ่งป่วยเลยต้องตามหมอเข้ามาในจวน ข้าเลยถือโอกาสให้หมอจัดอาหารรักษาโรคและตุ๋นน้ำแกงบำรุงเอาไว้ เจ้ากินเสียหน่อยสิ” หวังฮูหยินพูดแต่กลับไม่ยอมมองหน้าหลินไต้อวี้ เป็นสาวใช้ที่นำถ้วยน้ำแกงลายทองมาวางตรงหน้าพวกนางอย่างคล่องแคล่ว
มีคำพูดประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ไมตรีไร้เหตุผลย่อมมาจากคนร้าย’ ก่อนหน้านี้หลินไต้อวี้กับท่านป้าสะใภ้รองถือได้ว่าเคยมีเรื่องบาดหมางกันนิดหน่อย แม้นางจะไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แต่อีกฝ่ายกลับจดจำอย่างแม่นยำ ไม่ยอมพบหน้านางเป็นเวลานาน เช่นนี้น้ำแกงที่ท่านป้าสะใภ้รองนำมาในวันนี้ผู้ใดจะกล้าดื่ม อย่างน้อยก็หลินไต้อวี้ผู้หนึ่งล่ะที่ไม่กล้า
“ท่านป้าสะใภ้รอง ข้าเพิ่งกินขนมข้าวเหนียวถั่วแดงไปจนอิ่มตื้อ คงยังกินไม่ลง คอยอีกเดี๋ยวค่อยกินเถิดนะเจ้าคะ” นางบอกปัดอย่างเกรงใจและนุ่มนวล ก่อนนำถ้วยน้ำแกงไปวางไว้ที่ชั้นวาง
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร หมอบอกว่าน้ำแกงบำรุงต้องกินตอนยังร้อนจึงจะดี ถ้าเย็นแล้วก็หมดสรรพคุณกัน” หวังฮูหยินพูดพลางส่งสายตาบอกให้จินช่วนที่อยู่ข้างๆ เดินเข้าไป
ฉิงเหวินเห็นดังนั้นก็ก้าวออกมายิ้มๆ “ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ นายหญิง ในเรือนมีเตาเล็กอยู่ อีกเดี๋ยวเอาถ้วยไปตั้งอุ่นบนนั้นก็ใช้ได้แล้ว”
“เจ้านายไม่ได้สั่ง ผู้ใดอนุญาตให้บ่าวอย่างเจ้าเปิดปาก ช่างไม่รู้จักกฎระเบียบเสียบ้าง จินช่วน ตบปาก”
“เจ้าค่ะฮูหยิน” จินช่วนปราดเข้าไปฟาดฝ่ามืออย่างไม่เกรงใจ
หลินไต้อวี้อึ้งด้วยคิดไม่ถึงว่าจะมีการลงไม้ลงมือกันเช่นนี้ นางรีบลุกขึ้นเพื่อห้าม แต่เสี่ยวหงที่อยู่อีกด้านทนดูไม่ไหวเลยชิงพูดขึ้นมาก่อน
“ฮูหยิน ในจวนมีกฎว่าถ้าเจ้านายไม่พูดแล้วบ่าวไพร่ห้ามพูดตั้งแต่เมื่อไรเจ้าคะ”
หลินไต้อวี้นึกสบถกับความปากไวของเสี่ยวหง หางตาเหลือบไปเห็นว่าหวังฮูหยินไม่ได้เอ่ยคำ แต่กลับส่งสายตาไปให้สาวใช้อีกคน สาวใช้ผู้นั้นจึงยกมือขึ้นตบเสี่ยวหงอย่างไม่เกรงใจ
เพียะ! ฝ่ามือร้อนจัดฟาดลงบนใบหน้าของหลินไต้อวี้ทำให้นางเสียหลักล้มลงไปบนร่างของเสี่ยวหง
“คุณหนู!” เสี่ยวหงกรีดร้องอย่างตกใจ
หลินไต้อวี้เจ็บจนแยกเขี้ยว ตามองเห็นดาวจนปวดกระบอกตาไปทั้งแถบ ตบกันแรงถึงเพียงนี้ ตั้งใจตบกันให้ตายไปเลยใช่หรือไม่
มารดามันเถอะ! ตบกันจนนางหน้ามืดแล้ว!
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
เสียงของจย่าเป่าอวี้ดังมาจากนอกห้อง หวังฮูหยินตกใจ พอหันหน้าไปก็เห็นพวกสาวใช้พากันเปิดทางให้จย่าเป่าอวี้ที่ประคองฮูหยินผู้เฒ่าจย่ามา
“ท่านแม่ หลายวันมานี้ท่านปวดขามิใช่หรือ เหตุใดจึงมาที่นี่ได้”
“วันนี้อากาศดี เป่าอวี้มาคุยเล่นกับข้าแล้วบอกว่ากลัวไต้อวี้จะเบื่อ พวกเราเลยมาคุยเล่นกับนาง” ฮูหยินผู้เฒ่าจย่ากวาดตามองไปรอบๆ คล้ายไม่ใส่ใจ แต่ความจริงคือมองเห็นความผิดปกติแล้ว “วันนี้เจ้ามาเยี่ยมไต้อวี้หรือ”
“เจ้าค่ะ” หวังฮูหยินก้มหน้าลงอย่างคนสันหลังหวะ
“เหตุใดหน้าของไต้อวี้ถึงได้บวมแดงเช่นนั้นล่ะ”
หลินไต้อวี้ถูกตบจนหน้ามืดเห็นดาว แต่ยังคงฝืนตะกายตัวเข้ามาจับไม้เท้าของฮูหยินผู้เฒ่าจย่า “ท่านยาย ข้าไม่ดีเองเจ้าค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านป้าสะใภ้รองเลย”
“เหตุใดจึงไม่เกี่ยวกับนาง” ดวงตาคมปลาบของฮูหยินผู้เฒ่าจย่าจดจ้องหลินไต้อวี้
“ข้า…” หลินไต้อวี้หอบฮัก นัยน์ตายังคงเห็นดาวอยู่ ต่อไปนางจะต้องออกกำลังบ้างแล้ว “ท่านป้าสะใภ้รองหวังดี นำน้ำแกงบำรุงมาให้ข้า แต่ข้าอยากคอยให้เป่าอวี้มาก่อนจะได้แบ่งกันกินกับเขา ทำให้ท่านป้าสะใภ้รองไม่พอใจ ประกอบกับฉิงเหวินหลุดปากพูดออกมาเลย…” วาจาขาดห้วงเพราะแรงสะอื้นทำให้ฟังได้ไม่ชัด กิริยาร่ำไห้ประดุจสาลี่ต้องหยาดฝนประกอบกับท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกรังแกแต่ไม่กล้าพูดทำให้หัวคิ้วของฮูหยินผู้เฒ่าจย่าขมวดเข้าหากันแน่น แม้แต่จย่าเป่าอวี้ก็ยังสะกดอารมณ์ไว้ไม่ได้
“น้ำแกงบำรุงหรือ ข้าจะกินกับผินผิน” เขายกถ้วยน้ำแกงที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา
“อย่ากินเลย มันเย็นแล้ว” หวังฮูหยินรีบห้าม
“ยังร้อนอยู่”
จย่าเป่าอวี้เปิดฝา แต่กลับถูกหวังฮูหยินปัดถ้วยทิ้งอย่างร้อนใจ เสียงถ้วยตกพื้นแตกดังเพล้ง น้ำแกงบำรุงสาดกระจายไปทั่ว สีแดงเลือดหมูน่ากลัวสาดเต็มพื้นห้อง
ขนตาดกหนาของจย่าเป่าอวี้สั่นไหว แววตาเยียบเย็นที่มองผ่านขนตายาวออกมาทำให้หวังฮูหยินชะงักค้าง พูดอะไรไม่ออก
โปรดติดตามตอนต่อไป…