ทดลองอ่าน นิทานรักนักษัตรปีมะเส็ง บทที่ 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน นิทานรักนักษัตรปีมะเส็ง บทที่ 8

หน้าที่แล้ว1 of 7

บทที่ 8

 “ท่านแม่ ท่านย่ายืนนานๆ ไม่ได้ รบกวนท่านแม่ช่วยพาท่านย่ากลับห้องทีเถอะ” เนิ่นนานกว่าที่จย่าเป่าอวี้จะยิ้มออกมาได้เหมือนปกติ

หวังฮูหยินได้สติ สีหน้าฉายแววโกรธเกรี้ยวแต่ต้องระงับไว้ไม่ให้ระเบิดออกมา “ท่านแม่ นี่ก็สายมากแล้ว ข้าพาท่านกลับห้องนะเจ้าคะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าจย่าจ้องหน้านางนิ่ง “ก็ดี ข้ามีเรื่องต้องพูดกับเจ้าเหมือนกัน”

พอหวังฮูหยินประคองฮูหยินผู้เฒ่าจย่าจากไปแล้ว เสวี่ยเยี่ยนก็รีบเข้ามาด้านในเพื่อเตรียมหยูกยา พร้อมดึงตัวเสี่ยวหงกับฉิงเหวินออกไปนอกห้องก่อนด้วย

“เจ็บจริง สาวใช้ของท่านป้าสะใภ้รองล้วนเป็นวรยุทธ์ใช่หรือไม่” หลินไต้อวี้กุมแก้มที่ปวดร้าวอย่างน่าสงสาร

จย่าเป่าอวี้ช้อนร่างของนางขึ้นอุ้ม ทำให้หลินไต้อวี้ตกใจจนต้องยึดตัวเขาไว้พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง

เด็กสมัยนี้โตเร็วถึงเพียงนี้เชียวหรือ ทุกสองสามวันที่นางเจอเขาดูเหมือนจย่าเป่าอวี้จะตัวสูงขึ้น เสียดายที่ใบหน้างามราวหยกนี้ยังคงหวานประดุจบุปผาเหมือนเดิม

“ผู้อื่นตบเหตุใดเจ้าจึงไม่หลบ” จย่าเป่าอวี้วางหลินไต้อวี้ลงบนเตียง ก่อนหยิบยาบนชั้นมาทาหน้านางอย่างแผ่วเบา แม้น้ำเสียงจะห้วน แต่น้ำหนักมือกลับเบาหวิว

“ท่านก็ลองมาหลบดูสิ ไม่รู้หรือว่าสาวใช้ผู้นั้นเหมือนคนเคยฝึกวรยุทธ์มาไม่มีผิด ตบได้แม่นยำยิ่ง หากข้าไม่ขวางหน้าเสี่ยวหง เสี่ยวหงคงถูกตบจนกระเด็นไปไกลลิบแล้ว” หลินไต้อวี้เจ็บจนต้องแยกเขี้ยว นางพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดว่า “เสียดายที่ข้าช่วยฉิงเหวินไว้ไม่ทัน ใบหน้างามดุจจันทร์เพ็ญนั่นต้องบวมเป็นซาลาเปาแล้วแน่ๆ”

“แค่สาวใช้ผู้หนึ่ง มีค่าให้เจ้าเอาร่างกายล้ำค่าพันตำลึงทองของตัวเองไปช่วยหรือ” นางไม่พูดยังพอว่า แต่พอพูดจย่าเป่าอวี้ก็ฉุนขาดจนใบหน้าหล่อเหลาที่ฝืนทำเป็นนิ่งสงบถึงกาลระเบิดตูม

หลินไต้อวี้กะพริบตาปริบๆ “ผู้ใดทำก็ต้องโทษผู้นั้นสิ วันนี้คนที่หาเรื่องเป็นแม่ของท่านนะ ถ้านางไม่หาเรื่องแล้วมีหรือที่ข้าต้องเข้าไปขวาง” นางได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม ถ้าหากไม่บีบคั้นกันหนักจริงๆ ไหนเลยหลินไต้อวี้จะยอมหาเรื่องเจ็บตัว นางมิได้ปัญญาทึบเสียหน่อย

“เจ้าเลิกเสแสร้งได้แล้ว การที่เจ้าให้เสวี่ยเยี่ยนไปหาข้าแสดงว่าที่เจ้ายอมรับตบฉาดนั้นเป็นแผนทรมานสังขาร เพื่อหนึ่ง ทำให้ท่านย่ารู้สึกปวดใจและใช้ท่านย่าไปเล่นงานท่านแม่ของข้า สอง ซื้อใจเสี่ยวหงเพื่อที่ต่อไปเจ้าจะได้กินอาหารได้อย่างวางใจมากขึ้น” จย่าเป่าอวี้พูดหยันเสียงเย็นอย่างไม่ยอมเชื่อ

หลินไต้อวี้จ้องหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อ เจ้าคนสารเลวดุจปีศาจนี่…เหตุใดจึงเดาได้แม่นยำเช่นนี้!

ถูกต้อง นางยอมรับว่านางมีจุดประสงค์ในใจ แต่คนผู้นั้นก็ต้องเป็นสาวใช้ที่นางพอใจด้วยเช่นกัน นางถึงจะยอมทำเช่นนี้ หลินไต้อวี้รู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ฉิงเหวินต้องมาถูกตบเพราะนาง

ไม่ว่าจะมองอย่างไรหลินไต้อวี้ก็เป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ เวลานี้นางไม่สามารถออกหน้าแทนฉิงเหวินและเสี่ยวหง แต่ถ้าได้ท่านยายช่วยคุ้ม อย่างน้อยท่านป้าสะใภ้รองย่อมยอมทิ้งห่างไปสักระยะหนึ่ง หรือถ้าหากอีกฝ่ายยังมาบีบคั้นนางอีก หลินไต้อวี้ก็จะไปร้องไห้กับท่านลุงรองเสียเลย!

คนทุกคนล้วนมีด้านมืด โดยเฉพาะเวลาที่ถูกบีบคั้นจนถึงที่สุด

“ฟังนะ ต่อไปไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หลบได้ให้หลบ หลีกได้ให้หลีก ขืนเจ้ายังออกหน้าให้ผู้ใดอีก…”

คำเตือนเสียงเย็นของจย่าเป่าอวี้ทำให้หลินไต้อวี้ต้องถลึงตาใส่อย่างไม่ชอบใจ “ข้าพักรักษาตัวอยู่ดีๆ ผู้อื่นก็บุกเข้ามาแล้วจะให้ข้าหลบอย่างไร หรือท่านจะช่วยขุดอุโมงค์ใต้ดินให้ข้าเล่า” ประโยคสุดท้ายนี้จงใจหาเรื่องกันชัดๆ แต่เรื่องนี้ไม่อาจตำหนินาง เมื่อนางโดนตบแล้ว เขาไม่เพียงไม่ปลอบ ยังทำเป็นตวาดปรามอีก อย่างนี้น่ะหรือที่เสี่ยวหงบอกว่าเขามีใจให้นาง…ผายลมแล้ว!

“เจ้าจะสงบปากสงบคำบ้างไม่ได้เชียวหรือ”

“อยากให้ข้าสงบ หรือท่านจะเอาอะไรมาปิดปากข้าล่ะ” แน่จริงก็เอาขนมซูเล่าเคี่ยวน้ำตาลที่นางเฝ้าคะนึงหามาปิดปากนางสิ!

จย่าเป่าอวี้ถลึงตาใส่หลินไต้อวี้ นัยน์ตาสีดำเปล่งประกายคล้ายมีแสงจ้า ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงมาผนึกริมฝีปากนาง

หลินไต้อวี้ชะงัก ก่อนรับรู้ว่าปลายลิ้นของจย่าเป่าอวี้สอดเข้ามาในปากตน ทำให้นางตกใจจนต้องรีบผลักเขาให้ถอยห่าง

จย่าเป่าอวี้ไม่ได้แข็งขืน เขายิ้มเจ้าเล่ห์ รู้สึกพอใจที่ได้เห็นใบหน้างดงามที่แดงจัดดุจดอกท้อเดือนสามของนาง “เช่นนี้ปิดอยู่หรือไม่”

“สารเลว ผู้ใดอนุญาตให้…” หลินไต้อวี้เหลียวซ้ายแลขวาแล้วคว้าเอาหมอนหยกมาเหวี่ยงใส่ แต่ผู้ใดจะรู้ว่าจย่าเป่าอวี้ชิงหนีออกไปนอกประตูก่อนแล้ว ซ้ำยังหันมาขยิบตาให้นางด้วย

“คราวหน้าถ้ายังดื้ออีก คอยดูนะว่าข้าจะปิดปากเจ้าอย่างไร” จบคำเขาก็จากไปด้วยท่าทีอย่างคนเสเพลที่นางคุ้นเคย

“หากกล้าปิดปากข้าอีก ข้าจะสังหารเสีย!” อายุน้อยแค่นี้ไม่รู้จักร่ำเรียนหนังสือ แต่กลับหัดเป็นพวกเจ้าชู้ไก่แจ้…ถ้าหากหลินไต้อวี้ไม่ได้ตัวเล็ก เปราะบาง นางจะต้องฟาดเขาให้ตายภายในฝ่ามือเดียวแน่ๆ

เสวี่ยเยี่ยนได้ยินเสียงโวยวายก็ยื่นหน้าเข้ามาดูด้านใน “คุณหนู คุณชายรองเป่าปิดอะไรท่านหรือเจ้าคะ คุณหนู ท่านเป็นอะไรมากหรือไม่ เหตุใดถึงหน้าแดงเช่นนี้ คงไม่ได้โดนลมเย็นหรอกนะเจ้าคะ”

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าสบายดีมาก ตราบใดที่คนสารเลวนั่นไม่ตาย ข้าตายตาไม่หลับหรอก!” หลินไต้อวี้อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะดำเนินต่อไปเช่นใดและจุดจบของเจ้าคนผู้นั้นจะเป็นเช่นใด ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องให้เขาเป็นขอทาน นางจะได้เจียดเวลาไปทำทานและเหยียบย่ำเขาให้หนัก!

มารดามันเถอะ! สอดลิ้นเข้ามาด้วย ครั้งหน้าถ้ากล้าสอดลิ้นเข้ามาอีกนางจะกัดลิ้นเขาให้ขาดแล้วกลืนลงท้องเสีย!

หน้าที่แล้ว1 of 7

Comments

comments

Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com