บุรุษท่าทางหยาบกระด้างแต่งกายแบบคนหาฟืนผู้หนึ่งกำลังเดินไปตามเส้นทางบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คนเช่นปกติ เขาแบกลูกธนูและคันศรไว้บนหลัง มือหิ้วสัตว์ป่าที่ล่ามาได้ สวมเสื้อสีเทาผ้าเนื้อหยาบมีรอยปะ เท้าสวมรองเท้าหญ้าเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยดินโคลน ผิวตากแดดจนคล้ำเกรียม ไว้หนวดเคราเต็มหน้า
ไม่ว่าผู้ใดเมื่อเห็นเขาก็จะรู้สึกว่าเขาเป็นคนหยาบกระด้าง ไม่มีทางเอาเขาไปคิดโยงกับรัชทายาทองค์ปัจจุบันไป่หลี่ซีที่รูปโฉมงดงามสุภาพเรียบร้อย
เขาก็คือองค์รัชทายาทที่หายตัวไปเมื่อครึ่งเดือนก่อน ฐานะในเวลานี้คือหม่าเฉวียน อายุสิบแปดปี ไร้บิดามารดา อาศัยอยู่ในกระท่อมมุงหญ้าคาที่ฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านเซ่อจิ่งตามลำพัง มีที่นาเช่าทำอยู่แปลงหนึ่ง ปกติทุกวันก็จะไปทำไร่ไถนา บางครั้งบางคราวก็ไปล่าสัตว์มาขายแลกเงิน นิสัยซื่อๆ รักสันโดษ เป็นคนไม่ค่อยพูด
บนใบหน้าที่หล่อเหลามากพอให้หญิงสาวเทใจให้ยามนี้ถูกหนวดเคราปิดคลุมไว้หมดสิ้น ในสายตาของคนในหมู่บ้าน เขาเป็นคนแปลกประหลาด เพราะเขาอาศัยอยู่ข้างสุสาน ที่นั่นบรรยากาศค่อนข้างเยียบเย็นน่าสะพรึงกลัว ปกติคนในหมู่บ้านไม่กรายใกล้ แต่สำหรับไป่หลี่ซีแล้วกลับเป็นสิ่งที่เขาต้องการพอดี
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหม่าเฉวียนผู้นี้ไป่หลี่ซีเป็นคนสร้างขึ้นมา โดยให้ลูกน้องของเขาเป็นตัวแสดง อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาเป็นเวลาห้าปีแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อแผนการใหญ่ในวันนี้ เขาจะได้เข้ามาสวมบทบาทนี้อย่างราบรื่น อำพรางร่องรอย ไม่ให้ผู้ใดรู้ว่าเขาอยู่ที่ใด
เขาเป็นพระโอรสของฮองเฮาองค์ก่อนซึ่งสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ส่วนโต้วฮองเฮาองค์ปัจจุบันเป็นฮองเฮาองค์ต่อมา โต้วซื่อ สมคบกับพระประยูรญาติสร้างอิทธิพล ลอบแก่งแย่งช่วงชิงตำแหน่งรัชทายาทกับเขาอย่างลับๆ มานาน ฮ่องเต้ชราประชวรหนัก ยิ่งทำให้การแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทเปิดเผยชัดเจนมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายเจ้าไปข้ามา ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เพื่อแผนการนี้ไป่หลี่ซีเตรียมการมาหลายปี การหายตัวไปเป็นเพียงการเริ่มต้นดำเนินการตามแผนเท่านั้น
เขามาถึงข้างผนังหินผาแห่งหนึ่ง หลังจากแน่ใจแล้วว่ารอบด้านไม่มีคน เงาร่างก็พลันพุ่งถลันไปอย่างรวดเร็ว ผลุบเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนเร้นอยู่ถ้ำหนึ่ง ในนั้นมีคนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
พอเห็นเขา หยวนเจี๋ยก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที “รัชทายาท”
“ช่วยคนมาได้หรือไม่”
“คนช่วยได้แล้ว แต่ไม่ใช่คนของเราเป็นคนช่วย”
“อะไรนะ” ลูกตาดำสนิทคมกริบคู่นั้นของไป่หลี่ซีพลันนิ่งขรึมราวหุบเหวลึก อานุภาพกดข่มคุกคามคนแผ่คลุมออกมาทั่วร่าง หยวนเจี๋ยหวั่นหวาดจนร้องแย่แล้วอยู่ในใจ ยิ่งก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม
“เรื่องเป็นมาอย่างไร เล่ามาให้ละเอียด”
หยวนเจี๋ยเล่าเรื่องที่ซือถูหรานถูกคนลึกลับกลุ่มหนึ่งชิงตัวไปอย่างละเอียด แม่ทัพซือถูเป็นคนของรัชทายาท พวกเขารับคำสั่งจากรัชทายาทให้ดักซุ่มอยู่ข้างทาง วางแผนจะชิงตัวคนมา ผู้ใดเลยจะคาดคิดว่ามีคนมือไม้ว่องไวยิ่งกว่าพวกเขา ชิงตัวคนตรงเนินสยบวิญญาณได้แล้วหนีไป
“คนกลุ่มนี้ลึกลับซับซ้อน แนวทางวรยุทธ์แปลกประหลาด ทั้งปิดหน้ากันทุกคน ตรวจไม่พบว่าเป็นคนกลุ่มไหน แต่ผู้น้อยแน่ใจพวกเขาไม่ใช่คนของฮองเฮา เพราะยามต่อสู้พวกเขาหาได้ยั้งมือไว้ไมตรี สังหารอย่างเหี้ยมโหดยิ่ง”
ไป่หลี่ซีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ยังคงเงียบขรึม ซือถูหรานเป็นแม่ทัพคนสำคัญในแผนการของเขา ขาดซือถูหรานไป แผนการของเขาย่อมมีโอกาสผิดพลาดสูงขึ้น
“ถ่ายทอดคำสั่งลงไป สืบหาต่อไป ต้องเอาตัวซือถูหรานกลับมาให้ได้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หยวนเจี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากทูลลาองค์รัชทายาท เงาร่างก็โผนทะยาน หายลับไปในป่า
ไป่หลี่ซีคว้าสัตว์ที่ล่ามาได้เดินออกจากปากถ้ำ เหลียวซ้ายแลขวา เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีคนจึงเดินไปยังทิศทางที่จะกลับกระท่อม เวลานี้ท้องฟ้ามืดแล้ว แต่เส้นทางนี้เขาเดินจนชำนาญ ต่อให้หลับตาก็เดินถูก