ที่ผ่านมากระท่อมมุงหญ้าคาแห่งนี้มีเขาอยู่อาศัยเพียงคนเดียว บุรุษไม่กลัวถูกคนเห็นร่างกายเปล่าเปลือย ดังนั้นห้องอาบน้ำจึงสร้างอย่างง่ายๆ หยาบๆ เพียงเอาไม้กระดานไม่กี่แผ่นปิดบังไว้ แต่เวลานี้เพื่อนางแล้วเขาจึงสร้างห้องอาบน้ำใหม่ ก่อนอื่นก็ไปตัดไม้จากบนภูเขากลับมา เอามีดเอาขวานผ่าออก สร้างกำแพงไม้ขึ้นที่ลานด้านหลัง กั้นเป็นพื้นที่มิดชิดขึ้นมา
เขายังเอาเงินเหรียญสำริดที่ได้จากการขายหนังสัตว์มาใช้กับนางทั้งหมด ซื้อเสื้อผ้าเพิ่มให้นาง อีกทั้งหวีเครื่องแต่งตัวต่างๆ ที่อิสตรีต้องใช้ คนผู้นี้ปากไม่รู้จักพูดจาให้น่าฟัง แต่สิ่งใดที่ผู้เป็นสามีควรทำ เขาก็จะเป็นฝ่ายจัดเตรียมให้นางจนหมดสิ้น
อูมู่ฉินเคยได้ยินอาจารย์พูดไว้ บุรุษเพื่อจะให้ได้มาซึ่งร่างกายของอิสตรีก็จะพูดจาไพเราะหวานหู พึงระวังให้จงดี แต่นางรู้หม่าเฉวียนไม่เหมือนกัน เขาปากแข็งใจอ่อน ยามค่ำคืนอากาศหนาวเย็นก็รู้จักห่มผ้าให้นาง
เขาออกจากหมู่บ้านเข้าเมืองอยู่เสมอ บางครั้งบางคราวก็จะเดินทางไปไกลบ้าง ไม่อยู่บ้านสามวันห้าวัน ซึ่งนางก็จะฉวยโอกาสนั้นออกไปสำรวจข้างนอก ตันไหวชิงยังคงตามจับตัวนางอยู่ ค่ายกลที่จัดวางอยู่รอบภูเขายังคงอยู่ ความจริงนางสามารถปลอมแปลงโฉมแล้วหนีไป และสามารถติดต่อผู้คุมกฎทั้งสี่ให้มารับนาง แต่นางหลงรักหม่าเฉวียนแล้ว อยากใช้ชีวิตหวานชื่นที่มีเพียงนางกับเขาสองคนสักระยะหนึ่ง ดังนั้นครั้งนี้นางจึงฉวยโอกาสช่วงที่หม่าเฉวียนไม่อยู่ ถ่ายทอดคำสั่งลับกลับไปหุบเขาหมื่นบุปผา
ในยุทธภพการถ่ายทอดข่าวสารจะใช้นกพิราบส่งข่าว แต่นกพิราบส่งข่าวบินอยู่บนท้องฟ้า เป็นการบอกให้ผู้อื่นรู้ว่ามันเป็นพิราบส่งข่าว ไม่น่าวางใจแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้นางกับผู้คุมกฎทั้งสี่จึงใช้วิธีพิเศษอีกวิธีหนึ่งในการติดต่อกัน นางหยิบขลุ่ยนกที่ทำขึ้นพิเศษออกมา แล้วเป่าเป็นเสียงนกร้องขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้นราวสองเค่อ ได้ นกแร้งตัวหนึ่งก็บินลงมา เบิกนัยน์ตาที่กลอกไปมาอย่างรวดเร็วจ้องมองนาง
บนเทือกเขาหุบปีศาจมีนกแร้งเกาะอยู่จำนวนมาก นกแร้งกินซากศพโดยเฉพาะ ถูกมองว่าเป็นนกที่ไม่เป็นมงคล ผู้คนไม่ชอบ ดังนั้นจึงพยายามอยู่ให้ห่างมัน ด้วยเหตุนี้ใช้นกแร้งถ่ายทอดข่าวสารจึงดีกว่าใช้พิราบส่งข่าวมากนัก
นกแร้งบนเทือกเขาหุบปีศาจถูกพวกนางฝึกฝนจนเพียงได้ยินเสียงขลุ่ยนกก็รู้ว่ามีของกิน
นางเอาข่าวสารที่จะส่งผูกไว้ที่ขานกแร้ง จากนั้นก็เอาเนื้อสดให้มันชิ้นหนึ่ง นกแร้งกลืนเนื้อสดไปในคำเดียว หลังกินเสร็จก็บินจากไป มันจะบินกลับหุบเขาหมื่นบุปผาและเอาข่าวของนางกลับไปด้วย
อูมู่ฉินนับวันดู คาดว่าวันนี้หม่าเฉวียนน่าจะกลับมาแล้ว ดังนั้นนางจึงไปรอเขาอยู่ในกระท่อมอย่างว่านอนสอนง่าย คล้ายว่านางไม่เคยออกไปไหน พอพลบค่ำหม่าเฉวียนก็กลับมาจริงๆ ทั้งยังมีของฝากกลับมาให้นางด้วย
ตั้งแต่หวี ผ้าเช็ดหน้า ปิ่นไม้ สิ่งของที่หญิงสาวต้องการเขาซื้อมาให้นางทุกอย่าง แต่กลับไม่เคยซื้ออะไรให้ตนเอง
เขาที่เป็นเช่นนี้ทำให้อูมู่ฉินรู้สึกอบอุ่นในหัวใจยิ่ง แม้บุรุษผู้นี้จะหล่อเหลาสู้ศิษย์พี่ศิษย์น้องของนางไม่ได้ หน้าตามีแต่หนวดเคราไม่ชวนให้คนชื่นชอบ ทั้งยังเป็นคนในหมู่บ้านชนบท แต่นางก็รักในความเรียบง่ายของเขา ในสายตาของนาง เขาหน้าตาชวนมองกว่าศิษย์พี่ศิษย์น้องที่หล่อเหลาเหล่านั้นเสียอีก
ทว่าหลังจากแต่งงานเป็นสามีภรรยากับเขา นางจึงได้รู้ว่าตอนนั้นตนมองพลาดไปหลายอย่าง เขาเป็นคนซื่อๆ แค่ตอนกลางวันเท่านั้น พอตกกลางคืนก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ปฏิบัติต่อนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างไม่สำรวมเลย
กลางวันทะนุถนอมนางราวสมบัติล้ำค่า กลางคืนรักใคร่นางเพียงคิดจะกินให้อิ่ม!
“ท่านพี่ ท่านกินมากไปแล้ว” นางใช้เท้ายันแผ่นอกเขาไว้ ไม่อนุญาตให้เขากินอย่างตะกละตะกลาม
“น้องหญิงรสชาติเยี่ยมยอด ข้ากินเท่าไรก็ไม่อิ่ม”
“สามครั้งแล้ว ยังไม่พออีกหรือ!” นางทนไม่ไหวโมโหขึ้นมา ร่างกายนี้ไม่ใช่ให้เขามาทรมาทรกรรมเช่นนี้ แม้นางเองก็เสพสุขอย่างมาก แต่สุดท้ายที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ายังคงเป็นนาง!
“น้องหญิงเหนื่อยแล้วหรือ”
นางรีบบอกด้วยท่าทางน่าสงสาร “เหนื่อยมาก”
“เอาเถิด” เขาทอดถอนใจ นางได้ยินแล้วดีใจ ทว่าเพิ่งจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกก็ได้ยินเขาเอ่ยขึ้น “เจ้านอนเถิด ข้าจะทำเอง เจ้าไม่ต้องสนใจข้า”
หา? บอกให้นางนอน เขาจะทำเอง เช่นนั้นยังมิใช่ไม่มีอะไรแตกต่างกันหรอกหรือ! เขากินนางเช่นนี้ นางทำตัวเป็นปลาตายได้ก็แปลกแล้วกระมัง
“ไม่ได้!” นางชักสีหน้าแล้ว ถึงตายก็ไม่ยอมแพ้
“น้องหญิงดูกระฉับกระเฉงเช่นนี้ ไม่คล้ายเหนื่อยมาก” เขาหัวเราะเสียงต่ำ รังแกนางอย่างไม่ฟังเหตุผล ขบเม้มริมฝีปากของนาง รบเร้าเซ้าซี้นางไม่ยอมเลิกรา
ภายใต้การคลุกเคล้าพันพัวกันไปมา นางก็ถูกปลุกเร้าแรงปรารถนาในร่างกายขึ้นมาอีก ส่วนใดบนร่างนางที่ไวต่อความรู้สึก บริเวณใดที่เป็นจุดอ่อนเขารู้ดี ดูเถิดคนผู้นี้ช่างเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวยิ่งนัก!
นางเลิกดิ้นรนหลบหนีและโอบกอดเขาอย่างยากจะอดใจไว้ได้ พลางคิดในใจว่าช่างเถิด ถลำลึกตามเขาไปก็แล้วกัน