LOVE
ทดลองอ่าน ฝันดีว่ามีเธอ ตอนที่ 1
เนื่องจากช่วงนี้ค่อนข้างว่างกว่าที่ผ่านมา ณชาจึงเบื่อหน่ายถึงขั้นต้องโทรไปชวนพสินทานข้าวในวันหยุด เพราะเพื่อนคนอื่นไม่มีใครว่างเลย พอถึงเวลานัดเธอก็ออกจากคอนโดฯ ไปรับ ‘มาร์กี้’ กับ ‘ลีโอ’ ที่บ้านคุณยายของเด็กๆ ตามที่ได้นัดล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่สองวันก่อน จากนั้นจึงพาเด็กชายวัยย่างสี่ขวบกับย่างห้าขวบ ไปรับพสินที่บ้านเช่า ซึ่งอีกฝ่ายพักอยู่กับเพื่อนอีกสองคน
มาร์กี้กับลีโอเป็นลูกชายของอดีตภรรยานอกสมรสคนหนึ่งของเจสซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ณชาค่อนข้างสนิทกับเด็กทั้งสองคน ยอมรับว่าเหตุผลที่ทำให้เธอพยายามตีสนิทกับเด็กๆ ในตอนแรกคือเป็นเพราะเจส แต่หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันมาจนถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกผูกพันและรักใคร่เด็กทั้งคู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง
เดี๋ยวนี้สองหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของพสิน ไม่ได้มีความตื่นเต้นหรือกระตือรือร้นเหมือนตอนแรกๆ ที่ณชาแวะมาหาพสินที่บ้านอีกแล้ว เพราะณชาเคยมาหลายครั้งจนพวกเขาเริ่มชิน แต่กระนั้นก็ยังให้ความสำคัญกับเธอด้วยการช่วยทำความสะอาดบ้านเตรียมต้อนรับเช่นเคย แม้ว่าพสินจะย้ำแล้วย้ำอีกว่าวันนี้ณชาแค่แวะมารับเขา เธอคงไม่ลงจากรถด้วยซ้ำ ทว่าพอเอาเข้าจริงเธอกลับพามาร์กี้กับลีโอลงจากรถมากดกริ่งแทนที่จะโทรเรียกพสินให้ออกมาขึ้นรถเลย
“ลีโอปวดฉี่ มาร์กี้ปวดอึ๊” ณชาบอกหลังจากยกมือไหว้ทักทายเจ้าของบ้านอย่างมีมารยาท
“อ้อ…” พสินทำเสียงรับรู้คำบอกเล่าไขความกระจ่างดังกล่าวจากณชาพร้อมกับรีบเปิดประตูรั้วทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กให้ผู้มาเยือน
“ห้องน้ำสะอาดดีไหมคะ เด็กสองคนนี้ไม่ค่อยชินกับอะไรที่แบบ…โสโครกน่ะ ถ้าสกปรกนี่รับรองว่าเกร็งจนอึ๊ไม่ออกแน่” ณชาถามเพื่อความมั่นใจ
“โชคดีที่วันนี้สะอาด ปกติก็ไม่…” พสินบอกตามตรง
“พี่พีททานอะไรรึยัง ณชาฮิ้ววว…หิว”
“ซอรี่นะ บ้านพี่ไม่มีอะไรที่เธอน่าจะกลืนลงคอได้ให้เธอกินเลยตอนนี้ ดีสุดก็มีแค่ขนมถุงก๊อบแก๊บกับมาม่า เธอคงไม่กินของพวกนั้นหรอกมั้ง ใช่ไหม เพราะต้องรักษารูปร่าง แล้วพักนี้…” พสินพูดพลางหันมองคนข้างๆ “รู้สึกจะอ้วนขึ้นรึเปล่า”
“ทักผู้หญิงอ้วน…เสียมารยาทมาก!” ณชาถลึงตาใส่อย่างเหวี่ยงๆ ก่อนจะถอนใจ “แต่ก็จริงนั่นแหละ อ้วนขึ้นเยอะเลย นี่เพิ่งโดนคุณโบว์ด่ามาเมื่อวาน สงสัยว่าพักนี้จะโด๊ปด้วยชานมไข่มุกเยอะไปหน่อย”
“เผลอกินเยอะเพราะเครียดเรื่องที่โดนถอดจากละครรึเปล่า”
ความใส่ใจเหมือนไม่ได้ตั้งใจจากผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนไม่สนใจอะไรในโลกมากนักของเขา ทำให้เธออดรู้สึกซาบซึ้งเบาๆ อยู่ในใจไม่ได้
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แค่เบื่อๆ”
“อี๋…ห้องน้ำไม่ฉะอาดเลยอ่ะ เลาไม่อยากฉี่ที่นี่ เลาจะอั้นฉี่ไว้!” ลีโองอแงแล้วทำท่าฮึบอยู่หน้าห้องน้ำอย่างน่าเอ็นดู ไม่ยอมก้าวเข้าไปข้างในง่ายๆ
“อย่าอั้น ไปฉี่หลังบ้านไป” พสินบอก
“น่าเกลียด จะไปฉี่หลังบ้านได้ยังไง ฉี่ตรงนี้แหละ ห้ามอั้นฉี่ด้วย แต่ก็…ห้องน้ำซกมกจริงๆ นั่นแหละ ไหนบอกสะอาด” ณชาหันไปเอาเรื่องเจ้าของบ้าน
“นี่สะอาดสุดในรอบปีแล้วครับคุณนายยย…ขอโทษจริงๆ ที่สกิลการล้างห้องน้ำของพี่มีแค่นี้ ไม่มีตังค์จ้างแม่บ้านด้วย จน”
ณชาค้อนคนช่างประชดขวับหนึ่ง “กลั้นอกกลั้นใจฉี่ไปก่อนละกันนะลีโอ เข้าไปเลยเร็วๆ มาร์กี้รออึ๊อยู่”
“มาร์กี้ว่า…มาร์กี้กลั้นอึ๊ไว้ก่อนดีกว่า”
“นี่! กลั้นไม่ได้ ต้องอึ๊ที่นี่ ไม่งั้นจะไปอึ๊ที่ไหน เราต้องรีบไปซาฟารีเวิลด์แล้วนะ”
“แล้วถ้าเลาอั้นฉี่กับอึ๊เอาไว้ พอเลาไปเจอท้ายยย…เก้อกับล้ายยย…อ้อน เลาจะโดนกินอ่ะป่าว”
“แน่นอน สิงโตกับเสือจะได้กลิ่นฉี่กลิ่นอึ๊ของเรา แล้วก็จับเรากินเคี้ยวง้ำๆ อร่อยไปเลย ดังนั้นไปฉี่ไปอึ๊ให้เรียบร้อยเร็วๆ เข้า!”
ณชาเผลอเหวี่ยงใส่เด็กๆ อย่างลืมตัว ซึ่งก็ทำให้สองหนุ่มน้อยยอมกลั้นใจเข้าห้องน้ำแต่โดยดี พอเห็นว่าเด็กๆ พูดจารู้เรื่องแล้วหญิงสาวจึงถอนหายใจเฮือกแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาในโถงชั้นล่างของบ้าน
“อยากได้พ่อเขาจนตัวสั่นแต่ดันไม่อ่อนโยนกับลูกเขาเลยเนี่ยนะ มันจะดีเหรอณชา แทนที่จะหาทางโกยคะแนนผ่านลูกๆ เขา”
คำเตือนของพสินทำให้ณชาหน้าหงิก “สู่รู้!”
“พูดว่าเสือกเลยก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก คนกันเอง”
“ค่ะ พี่เสือกมากเลย เสือกค่ดๆ!”
พสินหัวเราะ “นี่ไปหงุดหงิดอะไรที่ไหนมารึเปล่า ทำไมขึ้นง่ายนักล่ะวันนี้”
“ก็ตอนนี้เจสไปเดตกับนางแบบที่ภูเก็ต!” ณชาวีนเบาๆ “คนโกหก ไหนบอกว่าชอบแต่สาวเอเชีย แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงไปควงท็อปโมเดลตะวันตกจ๋าแบบนั้นได้หน้าตาเฉย”
“เชอรีล ไวต์ใช่ไหม…พี่เห็นข่าวแล้วล่ะ แต่มันก็ไม่แปลกนะที่เจสจะยอมแหกสเป็กตัวเองบ้าง ก็เขาสวยตะลึงจนน่าขนลุกเลยนี่นา ยังกับตุ๊กตาบาร์บี้แน่ะ ถ้าให้ณชา เดอะสเตจไปยืนข้างเชอรีลล่ะก็ มีหวังณชา เดอะสเตจคงดูก๊องแก๊งกะโหลกกะลาไปเลย ว่าไหม”
“…”
“พี่ไม่ได้ว่าณชาไม่สวยนะ แต่พอเทียบกับเชอรีล ไวต์แล้วมันต่างกันคนละระดับจริงๆ อย่างเจสก็ต้องคู่ควรกับผู้หญิงระดับนั้นขึ้นไป…มันถึงจะพอเหมาะพอดีกัน”
“พี่พีท!”
“พี่พูดความจริงนะ”
“ก็ไม่ได้จะเถียงว่าไม่จริง แต่ถ้าจะดูถูกกันแรงขนาดนี้ล่ะก็…เลิกคบกันไปเลยเถอะ!”
พสินออกอาการยิ้มขำและมองเธออย่างเอ็นดูเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่ทำเธอโกรธ
“ขอโทษนะที่พี่ใจร้าย แต่ทั้งหมดก็เพราะเป็นห่วง พี่ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาช่วยดึงเธอให้ตาสว่างได้แล้วนี่นา เห็นเธอมโนจนเป็นข่าวฉาวเสียขนาดนั้น…พี่เป็นผู้ชายยังรู้สึกอายแทน แล้วพี่ก็คิดว่าพอจะเข้าใจเจสด้วย คนที่ไม่ใช่…ยังไงก็คือไม่ใช่ นี่ต้องถือว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะ ที่เธอให้ท่าเสียขนาดนี้แต่เขาก็ไม่เอา ถ้าเป็นผู้ชายสั่วๆ บางคนอาจจะฟันเล่นทีสองทีแล้วทิ้ง…”
“ฮึ่ยยย! พี่พีท! เกินไปแล้ว! พูดจาแต่ละคำไม่ถนอมน้ำใจกันเลยสักนิด!” ณชาขึ้นเสียงใส่ด้วยความโมโห “นี่โดนคุณพริ้งเสี้ยมมารึไงฮึ ได้ยินว่าวันก่อนไปกินข้าวกันมานี่ เพราะคุณแซนส่งไปช่วยงานคุณนริศ…ใช่ไหม!”
พสินทำงานอยู่ที่ ‘แมกเนทีฟ’ บริษัทของ ‘แซน’ หรือ ‘แสนสรัล’ สามีของบุรัสกร ซึ่งให้บริการด้านการวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาสื่อทางดิจิตอล รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ครบวงจรด้วย
“บอกแล้วว่าพูดเพราะเป็นห่วง ไม่ได้เกี่ยวกับคุณพริ้งหรือใครเลย”
“ทั้งที่รู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์น่ะเหรอ”
“ใช่ รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ แต่ก็จะพูด อย่างน้อยก็ถือว่าได้แซะเธอเพื่อระบายอารมณ์บ้าง เพราะเห็นเธอแล้วหงุดหงิด แทนที่จะรักคนที่เขารักตัวเอง…”
ณชาชะงักเพียงเล็กน้อย แต่ก็รีบทำหน้าเชิดใส่เขาอย่างบึ้งตึง พร้อมกับถลึงตามองโดยไม่พูดอะไรอีก ถึงพสินจะแสดงออกว่ามีใจให้อย่างเปิดเผย และเคยบอกความรู้สึกดังกล่าวให้เธอรู้อย่างชัดเจนแล้ว ทว่าเขาก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือเอ่ยปากย้ำถึงเรื่องนี้บ่อยนัก อาจจะกลัวเธอลำบากใจ หรืออาจเพราะผู้ชายไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวน่ารำคาญก็ได้ ชายหนุ่มจึงวางตัวได้ปกติจนบางทีณชาเองก็ยังลืมไปเลยว่าจริงๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่จะเจอเขา เพราะจริงๆ แล้วก็ยังอยากเป็นเพื่อนกับเขาอยู่…
(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 15 มีนาคม)