นางลุกขึ้นยืนแล้วเก็บกวาดโต๊ะด้วยความรู้สึกที่อัดอั้น ทั้งยังตักน้ำจากอ่างใบใหญ่ด้านข้างมาล้างจาน
เขาขมวดคิ้วเดินมาอยู่ข้างหลังนางพลางเอ่ยถามเสียงเบา “เจ้าโกรธแล้วหรือ”
“เปล่า ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้า เจ้ายินดีตกต่ำ…ไม่สิ พอใจในสิ่งที่มี นั่นก็ถือเป็นสิ่งที่เจ้าเลือกเอง ข้าจะไปโกรธอะไรได้เล่า” นางแค่โกรธตนเอง โกรธยุคสมัยโบราณที่บุรุษเป็นใหญ่และสตรีถูกดูถูกเช่นนี้ โกรธที่ยามนางข้ามมิติมาแล้วกลายเป็นแค่เด็กหญิงอายุสิบขวบที่ไม่มีบิดามารดาและไม่มีผู้ใดให้พึ่งพาได้ นางโกรธที่ตนเองไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ทั้งนั้น ได้แต่ยอมถูกผูกมัดอยู่ในชีวิตบ่าวเช่นนี้โดยไม่อาจหนีพ้นได้
เมื่อนึกถึงความแค้นใจที่พูดออกมาไม่ได้มากมายนี้ ขอบตานางก็แดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากัน “จะร้องไห้หรือ”
“เปล่าเสียหน่อย ข้าแค่ออกแรงล้างจานมากเกินไป น้ำเลยกระเด็นเข้าตา” นางยกมือขึ้นขยี้ตาโดยไม่ทันคิด ถึงกับลืมไปว่าบนมือตนเองมีฟองอยู่ เมื่อขยี้ไปเช่นนี้ก็ทำให้แสบตา น้ำตาไหลพานทะลักออกมาจริงๆ
“โง่จริงๆ มือมีแต่น้ำฝักเจ้าเจี่ยว ยังจะไปขยี้ตาอีก!”
เขาต่อว่าอย่างโมโหพร้อมกับรีบหยิบผ้าสะอาดมาชุบน้ำ ช่วยนางเช็ดน้ำตาอย่างแผ่วเบา เขาเคลื่อนไหวมืออย่างระมัดระวังมาก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความอ่อนโยนนี้หรือไม่ที่สัมผัสถูกกลไกหยาดน้ำตา น้ำตาของนางจึงหยุดไหลไม่ได้โดยสิ้นเชิง ในความเป็นจริงแล้ว นับตั้งแต่นางมาอยู่ในยุคโบราณ นางก็คอยใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด ด้วยเกรงว่าผู้อื่นจะสังเกตเห็นความแตกต่างของนาง ภายหลังจึงไม่กล้าปล่อยให้ตนเองปลดปล่อยอารมณ์ออกมาจนหมดสิ้น
“นี่เป็นน้ำฝักเจ้าเจี่ยวอะไรกัน แสบตาเพียงนี้เชียวหรือ” เสียงของเขาลนลานขึ้นมาแล้ว
“ข้าไม่เป็นอะไรหรอก” น้ำเสียงนางแหบพร่า ส่วนหยาดน้ำตาก็ยังคงหลั่งรินลงมา
เขาเคาะศีรษะนางเบาๆ “เจ้าจะทำตัวเข้มแข็งไปทำไม ก็แค่อยากร้องไห้มิใช่หรือ แต่ร้องไห้แค่พอดีก็พอ อย่าร้องมากไป มันไม่ดีต่อดวงตา” เขาไม่เคยปลอบสตรีผู้หนึ่งเช่นนี้มาก่อน ในความเป็นจริงแล้ว หากมีสตรีคนใดกล้าหลั่งน้ำตาสักหยดหนึ่งต่อหน้าเขา สตรีผู้นั้นก็จะถูกคนลากตัวออกไปทันที แต่เมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้าร้องไห้เสียใจเพียงนี้ หัวใจของเขากลับเจ็บปวดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ฉู่ซินเถียนควบคุมน้ำตาไม่ได้ การระบายน้ำตาออกมาครั้งนี้นับว่าอยู่เหนือความคาดหมายของนางโดยสิ้นเชิง
เห็นฉู่ซินเถียนร้องไห้เสียใจถึงเพียงนี้ เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ “สมควรตาย เลิกร้องได้แล้ว อย่างมากข้าก็แค่ตั้งใจเรียนวิชาแพทย์ให้ดี…ดีหรือไม่”
คำต่อว่าที่แฝงไปด้วยการร้องขอประโยคนี้ทำให้ฉู่ซินเถียนหลุดหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา “ต่อให้ข้าร้องจนน้ำตาแห้งเหือดก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับที่เจ้าบอกจะเรียนวิชาแพทย์เลย”