มุมปากเว่ยหลันโจวหยักยกขึ้นน้อยๆ จู่ๆ เขาก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “แต่ข้าเห็นว่าผิวนางนุ่มนิ่ม…ใช่แล้ว ยาพิษที่เหลียนจื่อปรุงอยู่ชนิดนั้นหากเพิ่มกลิ่นผิวกายมนุษย์ลงไป ฤทธิ์ยาก็จะยิ่งดี แต่การถลกหนังทั้งเป็นจะให้ผลค่อนข้างดีกว่า”
ร่างของฉู่ซินเถียนพลันกระตุกอย่างแรง ดวงตาปิดสนิทยิ่งกว่าเดิม ให้ตายเถอะ! เหตุใดฝูอ๋องจึงไม่มีความเป็นมนุษย์แม้แต่น้อย ไม่ว่าอย่างไรเขาเองก็กินอาหารมื้อดึกของข้าเปล่าๆ ไปตั้งหลายมื้อ จะเอาความแค้นมาตอบแทนบุญคุณได้อย่างไร!
เว่ยหลันโจวเงยหน้าขึ้นมองเหลียนจื่อที่พยายามกลั้นขำอย่างเต็มที่ ใช้สายตาบอกว่าเขาควรจะส่งเสียงได้แล้ว
เหลียนจื่อสูดลมหายใจเข้าลึก ถึงเปลี่ยนเสียงให้ดูจริงจังได้ “ศิษย์เคารพคำสั่งท่านอ๋อง แต่ขอเรียนถามท่านอ๋อง ศิษย์ควรเริ่มลงมือจากตำแหน่งใดก่อนดีพ่ะย่ะค่ะ”
ศิษย์?! ฉู่ซินเถียนไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่อยากจะเข้าใจด้วย นางขนลุกขนพองยิ่งนัก ข้ากำลังจะถูกถลกหนังทั้งเป็นแล้ว ควรทำเช่นไรดี!
“ไปหามีดดีๆ มาสักเล่มเถอะ ใช้มีดดีๆ จะได้ถลกหนังออกมาจนหมด” เว่ยหลันโจวยิ้มร้ายกล่าว
เสียงของความวุ่นวายผสานด้วยเสียงฝีเท้าสวบสาบเดินเข้าออก
ฉู่ซินเถียนหลับตาแน่น นางกลืนน้ำลายอย่างแรง ขนทั่วร่างลุกพรึ่บ ทั้งร่างสั่นไม่หยุด
ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงคนตะโกน “ท่านอ๋อง มีดเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้ประดุจตัดโคลนพ่ะย่ะค่ะ!”
“ท่านอ๋อง งานนี้ให้เฮอจื่อทำเถอะพ่ะย่ะค่ะ เฮอจื่อชอบกิน นางดูนุ่มๆ นิ่มๆ หลังถลกหนังออกมาแล้ว กัดลงไปหนึ่งคำ เนื้อจะต้องฉ่ำน้ำอย่างแน่นอน”
“เหลียนจื่อกล่าวได้ถูกต้อง ข้าชอบกินแล้วก็กินเก่งด้วย ให้ข้าเป็นคนลงมีดแล้วให้กินมากหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเจ้าพูดได้ดี สภาพเช่นนี้ของนางแค่มองดูก็รู้ว่าเนื้อหวานเพียงใด ยามกินจะต้องยิ่งหวานขึ้นอย่างแน่นอน เอาเถอะ ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าแบ่งปันกัน แต่ต้องตัดเนื้อเป็นคำเล็กๆ ถึงจะกินได้ง่ายหน่อย ลงมือเถอะ!”
น้ำเสียงของเว่ยหลันโจวฟังดูกระตือรือร้นอย่างยิ่ง
ให้ทนก็ทนไม่ไหวแล้ว! นางยังไม่ตายเสียหน่อย ถกกันต่อหน้าว่าจะถลกหนังนาง กินเนื้อนางอย่างไรดี ทั้งยังตัดเนื้อเป็นคำเล็กๆ ถึงจะกินง่าย เอาคนเป็นๆ อย่างนางมาแบ่งเป็นอาหารกินได้หรือ!
เมื่อเพลิงโทสะลุกโหม ความหวาดกลัวที่มีอยู่แต่เดิมก็แปรเปลี่ยนไปเป็นความกล้าแล้ว นางลืมตาขึ้นอย่างโมโห แม้สายตาจะยังพร่ามัว แต่นางก็กระเด้งตัวขึ้นนั่งแล้วตะโกนออกมาทันที “พวกเจ้ายังนับเป็นคนอยู่อีกรึ!”
ทันทีที่เสียงหยุดลง ภายในห้องก็ตกสู่ความเงียบสงัด
แม้ฉู่ซินเถียนจะเดือดดาลไปด้วยโทสะ ร่างของนางจึงสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ทว่าหลังสายตากลับมาคมชัดแล้ว นางก็นิ่งอึ้งไปทันที