ฉู่ซินเถียนยืนอยู่ข้างเตียงอย่างสงบนิ่ง ส่วนอีกข้างของเตียงมีเหลียนจื่อ เฮอจื่อ รวมไปถึงจือจื่อยืนอยู่ เพราะเด็กรับใช้ทั้งสามกำลังก้มหน้าลงต่ำ นางจึงมองไม่เห็นสีหน้าของพวกเขา กระนั้นนางก็พยายามทำให้สีหน้าตนเองเรียบเฉยมากที่สุด แต่ว่า…
สายตาของฉู่ซินเถียนลอบมองใบหน้าดูดีที่คล้ายได้รับความตระหนกของเว่ยหลันโจวใบหน้านั้น คนผู้นี้หากมีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันจะต้องได้รับรางวัลออสการ์ได้อย่างง่ายดายแน่นอน ช่างรู้จักเสแสร้งนัก!
สวีซั่นอายุประมาณสามสิบกว่าปี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงคล้ายชาวยุทธ์ เมื่อมาเจอชายงามที่อ่อนแอราวกับสตรีเช่นนี้ เขาก็ถึงกับมองจนนิ่งอึ้งลืมพูดจาไป
“ใต้เท้าสวี?” เว่ยหลันโจวหลุบตาลง ปิดบังความเยาะหยันในแววตา
สวีซั่นพลันได้สติกลับมา “อ้อ กระหม่อมได้ยินเรื่องราวจากคนที่ท่านอ๋องส่งมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ แล้วก็ส่งคนไปตรวจสอบแล้วเช่นกัน แต่หลายปีที่ผ่านมาแม่น้ำสายนี้สุขสงบมาโดยตลอด กระหม่อมไม่รู้จริงๆ ว่าโจรสลัดมาจากที่ใด ไม่เพียงแต่ทำให้ท่านอ๋องตกใจ แม้แต่ท่านเสนาบดีเฉวียนยังต้องพบเจอภัยพิบัติไปด้วย”
“เรื่องนี้เจ้าจะต้องส่งคนไปตรวจสอบให้ดี เรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยของน่านน้ำ ไม่อาจเมินข้ามโดยง่าย นอกจากนี้ต้องขอให้เจ้าช่วยเขียนจดหมายส่งม้าเร็วกลับเมืองหลวงแทนข้าด้วย” เว่ยหลันโจวเห็นสวีซั่นผงกศีรษะ เมื่อใคร่ครวญแล้วเขาจึงกล่าวต่อ “ข้าต้องการพักผ่อนอยู่ที่จวนเจ้าระยะหนึ่ง เจ้าส่งคนมาซ่อมแซมบนเรือให้เรียบร้อย แล้วก็เพิ่มผู้ติดตามขึ้นเรือมาทำงานด้วย ข้ายังมีภารกิจทางการทูตอันสำคัญ ไม่อาจเสียเวลาได้นาน”
“คนที่ท่านอ๋องส่งมาได้แจ้งประสงค์ของท่านอ๋องอย่างกระจ่างชัดแล้ว กระหม่อมจึงได้จัดเตรียมให้เรียบร้อย ตอนนี้ท่านอ๋องสามารถลงจากเรือ และติดตามกระหม่อมกลับจวนได้ทันทีพ่ะย่ะค่ะ” สวีซั่นประสานมือกล่าวอย่างเคารพนอบน้อม
เว่ยหลันโจวผงกศีรษะอย่างพอใจ เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนหันไปมองฉู่ซินเถียนที่อยู่ด้านข้างคราหนึ่ง
ฉู่ซินเถียนพลันนิ่งอึ้ง ก่อนจะเห็นเขาถลึงตาใส่นางพลางมองไปยังรองเท้าที่วางอยู่ใต้เตียงอีกที นางถึงได้เข้าใจรีบร้อนเดินขึ้นหน้ามานั่งยองๆ ตรงหน้าเขา จัดวางถุงเท้าที่พาดอยู่บนรองเท้าใหม่ มองดูเท้าใหญ่สะอาดสะอ้านคู่นั้นของเขาแล้ว นางก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรมช่วยสวมถุงเท้าให้เขา แล้วยังช่วยเขาสวมรองเท้าให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยถึงได้ลุกขึ้นยืนถอยไปอยู่ด้านข้าง
เว่ยหลันโจวยิ้มน้อยๆ ยื่นมือออกไปเคาะศีรษะนาง “ทำได้ไม่เลวนี่”
ตบศีรษะข้าอีกแล้ว ฉู่ซินเถียนอยากจะกลอกตายิ่งนัก แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น ยามที่เห็นสายตาประหลาดใจของสวีซั่นมองตรงมา นางก็รีบร้อนก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิม
“ไปกันเถอะใต้เท้าสวี”
เว่ยหลันโจวเดินนำออกไปจากห้องนอนก่อน สวีซั่นรีบร้อนติดตามไป เด็กรับใช้ทั้งสามเองก็ตามมาติดๆ ยามที่ฉู่ซินเถียนกำลังคิดว่าตนเองต้องติดตามไปด้วยหรือไม่นั้น เว่ยหลันโจวก็ราวกับมีดวงตาอยู่ด้านหลัง เขาเปิดปากกล่าวโดยไม่แม้แต่หันหน้ากลับมา “สาวใช้แซ่ฉู่ ยังไม่รีบตามมาอีกรึ”
ฉู่ซินเถียนนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ก่อนรีบร้อนเดินตามหลังเด็กรับใช้ทั้งสามไปทันที