บทที่ 7
สิ้นเสียงตะโกน บ่าวหญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่น เงยหน้าเห็นสายตาข่มขู่ของคุณชายสาม รู้ว่าวันนี้ตนเองหนีไม่รอดแล้ว ลอบเสียใจภายหลังที่ไม่ได้ตรวจดูดวงชะตาก่อนออกจากบ้าน ถึงได้ล่วงเกินบุคคลร้ายกาจเช่นนี้ได้ สองมือสั่นเทาขณะหยิบหมั่นโถวแข็งเย็นบนพื้นขึ้นมากัดกิน
คฤหาสน์สกุลเซียวไม่ขาดแคลนเงินทอง ปกติแม้แต่อาหารที่ข้ารับใช้กินยังดีกว่าของชาวบ้านทั่วไปหลายเท่าเสียด้วยซ้ำ ไหนเลยจะเคยกินของเช่นนี้ได้ ยังไม่พูดถึงว่ากลิ้งอยู่บนพื้นหลายตลบ หมั่นโถวที่เดิมทีไม่ขาวอยู่แล้วยิ่งเป็นสีเทาสกปรก
ฝืนกัดไปหนึ่งคำและเคี้ยวอยู่นาน ไหนเลยจะกลืนลงคอ พอออกแรงจะกลืนลงคอมากๆ เข้า ของในกระเพาะก็ย้อนกลับขึ้นมา สุดท้ายจึงอาเจียนออกมาตรงนั้น
เซียวอวิ้นเบือนหน้าไปทางอื่นอย่างรังเกียจ
หลี่เมิ่งซีเห็นว่าลงโทษพวกนางพอสมควรแล้วจึงพูดกับเซียวอวิ้น “ช่างเถอะ คุณชายสาม หากไม่มีคำสั่งคงไม่มีบ่าวคนใดกล้าทำเช่นนี้ คุณชายสามตามอาจารย์อวิ๋นเชี่ยนผู้ดูแลที่นี่มาสอบถามดีกว่า”
เซียวอวิ้นฟังแล้วเหลือบมองบ่าวหญิงสองคนบนพื้นอย่างขยะแขยง ก่อนจะพูดกับพวกนาง “สะใภ้รองมีคำสั่งแล้วยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
บ่าวหญิงทั้งสองราวกับได้รับอภัยโทษ พวกนางโขกศีรษะติดๆ กัน ขอบคุณสะใภ้รองกับคุณชายสาม ก่อนจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นและเดินออกไปอย่างลนลาน
คิดไม่ถึงว่าเดินไปได้สองก้าว เซียวอวิ้นจะร้องเรียก “กลับมา!”
บ่าวหญิงทั้งสองตกใจจนแข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงกับพื้นคุกเข่าอีกครั้ง ได้ยินคุณชายสามเอ่ยว่า “เก็บกวาดให้เรียบร้อยค่อยไป”
บ่าวหญิงรีบรับคำ ลุกจากพื้นและเก็บกวาดทำความสะอาด
หน้าประตูห้องพักฝั่งตะวันออกเกิดเสียงอึกทึกครึกโครมเช่นนี้ คนในห้องอื่นๆ ไหนเลยจะไม่ได้ยิน ต่างออกมามุงดูกันอยู่ไกลๆ แล้ว ได้ยินว่าสะใภ้รองต้องการพบอาจารย์อวิ๋นเชี่ยนจึงมีคนช่วยไปรายงานก่อนแล้ว จือซย่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็พบอวิ๋นเชี่ยนที่ทราบข่าวและรุดมาที่นี่
อวิ๋นเชี่ยนเดินเข้ามาคารวะสะใภ้รองกับคุณชายสาม
เซียวอวิ้นเหลือบมองพี่สะใภ้รองแวบหนึ่ง เห็นนางไม่มีทีท่าจะเอ่ยปาก จึงหันไปถามอวิ๋นเชี่ยน “อาจารย์อวิ๋นเชี่ยนเป็นหัวหน้าอารามแห่งนี้ เรื่องทุกอย่างของสะใภ้รองล้วนอยู่ในความดูแลของท่านหรือ”
“สะใภ้รองมาอยู่ที่นี่ ของใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ในความรับผิดชอบของข้า เมื่อวานเหล่าไท่จวินตั้งใจเรียกข้าไปพบ บอกว่าสะใภ้รองไม่เหมือนคนทั่วไป ให้ข้าดูแลอย่างระมัดระวัง เดิมทีเมื่อวานข้าจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ของกินของใช้ของสะใภ้รองล้วนจัดตามเกณฑ์สูงสุดของที่นี่ เพียงแต่เช้าวันนี้นายหญิงใหญ่ส่งคนมากลุ่มหนึ่ง เรียกข้าไปพบและสั่งว่าสะใภ้รองหาใช่บุคคลทั่วไป เกรงว่าจะเกิดข้อผิดพลาดอะไรขึ้นจึงส่งคนมาดูแลเพิ่มเติม ทั้งยังบอกว่านับแต่นี้ไปพวกนางจะดูแลรับผิดชอบเรื่องของสะใภ้รองเอง ไม่ต้องให้ข้าเป็นกังวล ทั้งยังเปลี่ยนบ่าวหญิงที่เฝ้าประตูต่างๆ และบ่าวหญิงที่เฝ้ายามกลางคืนตามจุดต่างๆ ด้วย”
“อาหารสามมื้อของสะใภ้รองยังเป็นแม่ครัวในอารามทำหรือไม่”
“ไม่ใช่เจ้าค่ะ นายหญิงใหญ่สั่งว่าสะใภ้รองสูงศักดิ์ แม่ครัวในอารามซุ่มซ่าม เกรงว่าจะปรนนิบัติได้ไม่ดี จึงส่งแม่ครัวมาโดยเฉพาะ”
“บัดซบ!” เซียวอวิ้นฟังคำพูดของอวิ๋นเชี่ยนแล้ว เพลิงโทสะในใจพลันลุกโหม เขาลืมฐานะของตนเองและกล่าวคำสบถต่อหน้าคนทั้งลาน
หลี่เมิ่งซีเห็นดังนั้นกลัวเซียวอวิ้นจะพูดจาไม่เหมาะสมออกมาอีก ไม่พูดถึงว่าให้ข้ารับใช้ได้ยินเข้าแล้วจะดูไม่เหมาะ แต่พวกนี้ล้วนเป็นคนของนายหญิงใหญ่ นางจึงรีบพูดว่า “คุณชายสามอย่าเก็บมาใส่ใจเลย เดิมทีนายหญิงใหญ่หวังดี กลัวข้าจะลำบาก เพียงแต่พวกบ่าวไม่เข้าใจความประสงค์ของนายหญิงใหญ่จึงทำผิดพลาด ลงโทษแค่เล็กน้อยก็พอ ไม่จำเป็นต้องโมโหถึงเพียงนี้ หากเสียสุขภาพไปย่อมไม่คุ้ม”